บท 27
‘พระยะโฮวาดีจริง ๆ’
1, 2. ความดีของพระเจ้ามีประโยชน์กับใครบ้าง และคัมภีร์ไบเบิลพูดถึงเรื่องนี้ยังไง?
ลองนึกภาพในตอนเย็นที่ดวงอาทิตย์กำลังจะตก เพื่อนสนิทกลุ่มหนึ่งนั่งกินข้าวด้วยกันข้างนอกบ้าน พวกเขาคุยและหัวเราะกันตอนที่มองดูท้องฟ้าที่สวยงาม ในอีกที่หนึ่ง ชาวนาคนหนึ่งมองดูทุ่งนาของตัวเองแล้วยิ้ม เขามีความสุขเพราะเห็นเมฆดำรวมตัวกันแล้วฝนก็ตกลงมา ในอีกที่หนึ่ง สามีกับภรรยาดีใจที่เห็นลูกของเขาเริ่มเดินได้เป็นครั้งแรก
2 พวกเขามีความสุขในชีวิตเพราะได้รับความดีจากพระยะโฮวาพระเจ้า บางคนที่เคร่งศาสนามักจะบอกว่าพระเจ้าของเขาเป็น “พระเจ้าที่แสนดี” แต่คัมภีร์ไบเบิลใช้คำพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ในแบบที่น่าประทับใจมากกว่านั้นอีก ที่นั่นบอกว่า “พระองค์ดีจริง ๆ” (เศคาริยาห์ 9:17) ความดีของพระยะโฮวาหมายถึงอะไร และเราจะได้ประโยชน์จากความดีของพระองค์ยังไง?
พระยะโฮวาแสดงความรักในวิธีที่ยอดเยี่ยม
3, 4. ความดีหมายถึงอะไร และทำไมความดีถึงเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการแสดงความรักของพระยะโฮวา?
3 หลายคนในทุกวันนี้ใช้คำว่า “ดี” กับหลาย ๆ อย่าง แต่คัมภีร์ไบเบิลบอกว่าความดีเป็นคุณลักษณะที่ยอดเยี่ยม และหมายถึงการมีศีลธรรมที่ดีเลิศไม่มีที่ติ เราเลยบอกได้ว่าทุกสิ่งเกี่ยวกับพระยะโฮวาดีมากจริง ๆ คุณลักษณะทุกอย่างของพระองค์ เช่น พลังอำนาจ ความยุติธรรม และสติปัญญาของพระองค์ดีพร้อม แต่ที่สำคัญที่สุดความดีเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการแสดงความรักของพระยะโฮวา ทำไมถึงบอกอย่างนั้น?
4 ความดีเป็นคุณลักษณะที่กระตุ้นเราให้ลงมือทำดีเพื่อคนอื่น อัครสาวกเปาโลบอกว่าความดีเป็นสิ่งที่น่าประทับใจมากกว่าความถูกต้องชอบธรรม (โรม 5:7) คนที่มีความถูกต้องชอบธรรมจะเชื่อฟังกฎหมายของพระเจ้าอย่างซื่อสัตย์ แต่คนดีจะทำมากกว่านั้นอีก เขาจะมองหาวิธีต่าง ๆ ที่จะทำดีเพื่อคนอื่น ในบทนี้เราจะเรียนรู้ว่าพระยะโฮวาดีแบบนั้นจริง ๆ เห็นชัดว่าความดีของพระยะโฮวามาจากความรักที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์
5-7. ทำไมพระเยซูไม่ยอมให้ใครเรียกท่านว่า “อาจารย์ที่ดี” และนั่นสอนความจริงที่สำคัญอะไร?
5 ไม่มีใครดีเหมือนกับพระยะโฮวา พระเยซูทำให้เห็นชัดในเรื่องนี้ตอนที่ผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาถามคำถามและเรียกท่านว่า “ท่านเป็นอาจารย์ที่ดีจริง ๆ” พระเยซูตอบว่า “ทำไมถึงยกย่องผมว่าดี? ไม่มีใครดีจริง ๆ หรอกนอกจากพระเจ้าเท่านั้น” (มาระโก 10:17, 18) คุณอาจสงสัยว่าทำไมพระเยซูถึงพูดอย่างนั้น? พระเยซูเป็น “อาจารย์ที่ดีจริง ๆ” ไม่ใช่หรือ?
6 เห็นชัดว่าผู้ชายคนนี้เรียกพระเยซูว่า “อาจารย์ที่ดี” เพื่อจะยกย่องท่าน แต่พระเยซูถ่อมมากและอยากให้ทุกคนยกย่องพ่อในสวรรค์เพราะไม่มีใครดีจริง ๆ เหมือนพระองค์ (สุภาษิต 11:2) พระเยซูยังสอนความจริงที่สำคัญด้วย พระยะโฮวาเป็นผู้ปกครองสูงสุด พระองค์ผู้เดียวมีสิทธิ์ที่จะตั้งมาตรฐานว่าอะไรดีอะไรชั่ว เมื่ออาดัมกับเอวาไม่เชื่อฟังคำสั่งของพระยะโฮวาโดยกินผลจากต้นไม้ที่ให้รู้ดีรู้ชั่ว พวกเขาแสดงให้เห็นว่าอยากตัดสินเองว่าอะไรดีอะไรชั่ว แต่พระเยซูไม่เป็นอย่างนั้น ท่านถ่อมและเต็มใจยอมรับว่าพ่อในสวรรค์เท่านั้นที่มีสิทธิ์ที่จะตั้งมาตรฐานต่าง ๆ
7 นอกจากนั้น พระเยซูรู้ว่าสิ่งดีทุกอย่างมาจากพระยะโฮวา พระองค์เป็นผู้ให้ “ของดี ๆ และสมบูรณ์ทุกอย่าง” (ยากอบ 1:17) ให้เรามาดูว่าพระยะโฮวาแสดงความดีโดยให้อย่างใจกว้างยังไง
หลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าพระยะโฮวาดีจริง ๆ
8. พระยะโฮวาแสดงความดีกับทุกคนยังไง?
8 เราทุกคนได้รับประโยชน์จากความดีของพระยะโฮวา สดุดี 145:9 บอกว่า “พระยะโฮวาดีต่อทุกชีวิต” มีตัวอย่างอะไรบ้างที่ช่วยให้เห็นความดีของพระองค์? คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า “พระองค์ก็ยังให้หลักฐานชัดเจนเกี่ยวกับพระองค์เอง โดยการทำดี ให้มีฝนตกจากฟ้า ให้มีพืชผลอย่างอุดมสมบูรณ์ตามฤดู และให้มีอาหารกินอิ่ม ทำให้พวกคุณมีความสุขใจ” (กิจการ 14:17) คุณมีความสุขไหมที่ได้กินอาหารอร่อย ๆ? เรามีความสุขแบบนั้นได้เพราะพระยะโฮวาสร้างโลกไว้อย่างดีเยี่ยม พระองค์ทำให้มีวัฏจักรของน้ำซึ่งทำให้มีฝนและมี “พืชผลอย่างอุดมสมบูรณ์ตาม ฤดู” พระยะโฮวาแสดงความดีกับทุกคนไม่ใช่แค่กับคนที่รักพระองค์เท่านั้น พระเยซูบอกว่า “พระองค์ให้ดวงอาทิตย์ส่องแสงแก่ทั้งคนดีและคนชั่ว และให้ฝนตกแก่ทั้งคนทำดีและคนทำชั่ว”—มัทธิว 5:45
9. จากตัวอย่างของแอปเปิล เราเห็นความดีของพระยะโฮวายังไง?
9 หลายคนไม่ได้เห็นค่าสิ่งดี ๆ ในธรรมชาติเพราะรู้สึกว่าดวงอาทิตย์ ฝน และฤดูต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดผลก็มีอยู่ตลอดเวลา แต่ลองคิดถึงแอปเปิลดูสิ ในหลายที่ของโลก แอปเปิลเป็นผลไม้ที่มีอยู่ทั่วไป น่ากิน รสชาติอร่อย และเต็มไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ คุณรู้ไหมว่าทั่วโลกมีแอปเปิลประมาณ 7,500 ชนิด และมีหลายสีตั้งแต่สีแดง สีทอง สีเหลือง สีเขียว นอกจากนั้นก็ยังมีหลายขนาดตั้งแต่เล็กเท่าองุ่นไปจนถึงใหญ่เท่าส้มโอ ส่วนเมล็ดของมันถึงจะเล็กมากจนดูเหมือนว่าไม่พิเศษอะไร แต่เมื่อเอาไปปลูกก็จะโตเป็นต้นไม้ที่มีผลอร่อยมาก (เพลงโซโลมอน 2:3) ในฤดูใบไม้ผลิ ต้นแอปเปิลจะออกดอกที่สวยงาม และจะออกผลในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ในช่วงเวลาประมาณ 75 ปี ทุกปีต้นแอปเปิลต้นหนึ่งจะออกผลได้มากถึง 400 กิโลกรัม
พระยะโฮวา “ให้มีฝนตกจากฟ้า ให้มีพืชผลอย่างอุดมสมบูรณ์ตามฤดู”
10, 11. ประสาทสัมผัสต่าง ๆ แสดงให้เห็นถึงความดีของพระเจ้ายังไง?
10 ร่างกายของเรา “ถูกสร้างอย่างน่าอัศจรรย์” เรามีประสาทสัมผัสที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยเราให้เรียนรู้สิ่งที่พระยะโฮวาสร้างและมีความสุขกับสิ่งเหล่านั้น นี่แสดงให้เห็นว่าพระยะโฮวาดีจริง ๆ (สดุดี 139:14) ลองนึกถึงตัวอย่างในตอนต้นของบทนี้อีกครั้ง ถ้าคุณอยู่ที่นั่น คุณจะมองเห็นอะไรบ้างที่ทำให้มีความสุข? คุณอาจเห็นเด็กน้อยน่ารักคนหนึ่งยิ้มแก้มปริ ฝนที่ตกลงมากลางทุ่งนา และท้องฟ้าเป็นสีแดง สีทอง สีส้มตอนที่ดวงอาทิตย์กำลังจะตก พระยะโฮวาออกแบบตาของเราให้มองเห็นสีต่าง ๆ มากมายเป็นล้านล้านสี นอกจากนั้น เรายังได้ยินและแยกแยะเสียงต่าง ๆ ได้ เช่น เสียงของคนที่เรารัก เสียงลมพัดใบไม้เบา ๆ และเสียงหัวเราะของเด็กน้อย ทำไมเราถึงมีความสุขเมื่อได้เห็นและได้ยินเสียงต่าง ๆ เหล่านี้? คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า “หูที่ได้ยินและตาที่มองเห็น พระยะโฮวาสร้างทั้งสองอย่าง” (สุภาษิต 20:12) แต่พระยะโฮวายังให้เรามีประสาทสัมผัสอื่น ๆ อีกด้วย
11 ความสามารถในการได้กลิ่นเป็นหลักฐานอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้เห็นความดีของพระยะโฮวา จมูกของเราสามารถแยกกลิ่นต่าง ๆ ได้เป็นล้านล้านกลิ่น ลองนึกถึงบางกลิ่น เช่น กลิ่นอาหารที่คุณชอบหรือกลิ่นดอกไม้หอม ๆ นอกจากนั้น ประสาทสัมผัสยังทำให้เรารู้สึกได้ตอนที่มีลมพัดมาโดนตัวเราและรู้สึกอบอุ่นตอนที่ได้กอดคนที่เรารัก ตอนที่เรากินผลไม้ ลิ้นของเรามีประสาทสัมผัสในการรับรสที่ทำให้เรารับรู้ได้หลายรสชาติ ดังนั้น เรามีเหตุผลมากมายที่จะพูดถึงพระยะโฮวาว่า “พระองค์ดีจริง ๆ พระองค์รักษาความดีไว้เพื่อคนที่เกรงกลัวพระองค์” (สดุดี 31:19) แต่พระยะโฮวารักษาความดีไว้สำหรับคนที่เกรงกลัวพระองค์ยังไง?
พระยะโฮวาให้สิ่งดี ๆ ที่เป็นประโยชน์กับเราตลอดไป
12. พระยะโฮวาให้อะไรกับเราซึ่งมีค่ามากกว่าอาหาร และทำไมถึงเป็นอย่างนั้น?
12 พระเยซูพูดว่า “พระคัมภีร์บอกไว้ว่า ‘มนุษย์จะมีชีวิตอยู่ได้ ไม่ใช่ด้วยอาหารเท่านั้น แต่ด้วยคำพูดทุกคำที่มาจากพระยะโฮวา’” (มัทธิว 4:4) คำของพระยะโฮวาที่อยู่ในคัมภีร์ไบเบิลมีประโยชน์มากกว่าอาหารที่เรากินเพราะช่วยให้เรามีชีวิตตลอดไปได้ ในบท 8 ของหนังสือเล่มนี้ เราได้เรียนแล้วว่าในสมัยสุดท้ายพระยะโฮวาใช้อำนาจเพื่อช่วยผู้คนให้นมัสการพระองค์อย่างถูกต้องและมีความเชื่อเข้มแข็ง สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้เป็นอย่างนั้นได้ก็คือความรู้มากมายที่เสริมความเชื่อ
13, 14. (ก) ผู้พยากรณ์เอเสเคียลเห็นอะไรในนิมิต และนิมิตนั้นมีความหมายยังไงกับพวกเรา? (ข) พระยะโฮวาให้อะไรกับคนที่เชื่อฟังพระองค์เพื่อพวกเขาจะมีชีวิตตลอดไป?
13 ในคำพยากรณ์ที่สำคัญเรื่องการฟื้นฟู ผู้พยากรณ์เอเสเคียลเห็นนิมิตเกี่ยวกับวิหารที่ได้รับการฟื้นฟูและเต็มไปด้วยสง่าราศี เขาเห็นน้ำไหลออกมาจากวิหารและค่อย ๆ ลึกมากขึ้นจนกลายเป็นแม่น้ำ ไม่ว่าน้ำจะไหลไปที่ไหนก็จะเกิดผลดีที่นั่น ริมแม่น้ำทั้งสองฝั่งมีต้นไม้ที่ผลของมันใช้เป็นอาหารและใบใช้เป็นยารักษาโรคได้ เมื่อแม่น้ำนี้ไหลลงทะเลตายก็ทำให้น้ำที่นั่นกลายเป็นน้ำดีและเต็มไปด้วยปลามากมาย (เอเสเคียล 47:1-12) แต่ทั้งหมดนี้หมายความว่ายังไง?
14 นิมิตนี้หมายความว่าพระยะโฮวาจะช่วยให้ผู้คนกลับมานมัสการพระองค์ในแบบที่ถูกต้อง เหมือนกับน้ำที่ค่อย ๆ ลึกมากขึ้นจนกลายเป็นแม่น้ำ สิ่งดี ๆ ที่พระยะโฮวาให้เพื่อช่วยพวกเขาให้มีชีวิตตลอดไปก็จะมีมากขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนกัน เรื่องนี้เกิดขึ้นจริงตั้งแต่ปี 1919 ตอนนั้นคริสเตียนแท้กลับมานมัสการพระองค์ในแบบที่ถูกต้องอีกครั้ง พระยะโฮวาให้สิ่งดี ๆ หลายอย่างเพื่อสอนความจริงให้กับผู้คนนับล้านโดยใช้คัมภีร์ไบเบิล สิ่งพิมพ์ต่าง ๆ การประชุม และการประชุมใหญ่ นอกจากนั้น พระองค์ยังสอนความจริงสำคัญเรื่องค่าไถ่ของพระเยซูซึ่งช่วยให้คนที่รักและเกรงกลัวพระองค์มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่สะอาดและมีความหวังเรื่องชีวิตตลอดไปด้วย a เห็นชัดเลยว่าในสมัยสุดท้ายผู้คนส่วนใหญ่ไม่มีความสุขเพราะพวกเขาไม่เชื่อฟังคำของพระยะโฮวา แต่คนของพระยะโฮวามีความสุขเพราะพวกเขามีทุกอย่างที่ช่วยให้ใกล้ชิดกับพระยะโฮวา—อิสยาห์ 65:13
15. ในช่วงหนึ่งพันปีที่พระเยซูปกครอง พระยะโฮวาจะแสดงความดีกับคนที่ซื่อสัตย์ยังไง?
15 น้ำในนิมิตของเอเสเคียลจะยังไหลต่อไปหลังจากโลกชั่วนี้ถูกทำลายและจะไหลมากขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงหนึ่งพันปีที่พระเยซูปกครอง ในตอนนั้น พระยะโฮวาจะใช้ค่าไถ่ของพระเยซูเพื่อช่วยให้คนที่ซื่อสัตย์ค่อย ๆ กลายเป็นมนุษย์สมบูรณ์แบบ เราคงมีความสุขมากแน่ ๆ เพราะพระยะโฮวาให้สิ่งดี ๆ มากมาย
วิธีอื่นที่พระยะโฮวาแสดงความดีของพระองค์
16. พระยะโฮวามีคุณลักษณะดี ๆ อะไรอีกที่เกี่ยวข้องกับความดีของพระองค์?
16 ความดีของพระยะโฮวาไม่ใช่แค่การให้อย่างใจกว้างเท่านั้น พระเจ้าบอกกับโมเสสว่า “เราจะให้เจ้าเห็นคุณความดีทั้งหมดของเรา และจะ ประกาศให้เจ้ารู้เกี่ยวกับชื่อยะโฮวา” แล้ว “พระยะโฮวาได้ผ่านหน้าเขาไปและบอกว่า ‘พระยะโฮวา พระยะโฮวา พระเจ้าที่เมตตา สงสาร ไม่โกรธง่าย รักใครก็รักมั่นคง และรักษาคำพูดเสมอ’” (อพยพ 33:19; 34:6, เชิงอรรถ) จากข้อเหล่านี้เราเห็นว่าความดีของพระยะโฮวาเกี่ยวข้องกับคุณลักษณะดี ๆ หลายอย่าง ให้เรามาดูสองอย่างด้วยกัน
17. ความกรุณาคืออะไร และพระยะโฮวาแสดงคุณลักษณะนี้กับมนุษย์ยังไง?
17 “กรุณา” คุณลักษณะนี้เกี่ยวข้องกับ “ความสงสาร” และบอกให้เรารู้ว่าพระยะโฮวาอ่อนโยนและเข้าหาได้ง่าย คนที่มีอำนาจมักจะหยาบคายหรือชอบกดขี่ แต่พระยะโฮวาไม่เป็นอย่างนั้น พระองค์ใจดีและอ่อนโยนเสมอ ตัวอย่างเช่น พระยะโฮวาบอกกับอับรามว่า “จากที่ที่เจ้าอยู่นี้ ขอให้เงยหน้ามองไปทางทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศตะวันออก และทิศตะวันตก” (ปฐมกาล 13:14) คัมภีร์ไบเบิลหลายฉบับไม่ใส่คำว่า “ขอ” แต่นักวิชาการด้านคัมภีร์ไบเบิลบอกว่าในภาษาฮีบรู ข้อนี้ไม่ใช่คำสั่งแต่เป็นการขออย่างสุภาพ และยังมีตัวอย่างอื่น ๆ อีกในเรื่องนี้ (ปฐมกาล 31:12; เอเสเคียล 8:5) คิดดูสิ พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดพูดว่า “ขอ” กับมนุษย์ที่ต่ำต้อย ในโลกที่มีแต่คนหยาบคายและก้าวร้าว คุณรู้สึกยังไงที่ได้รู้ว่าพระยะโฮวาเป็นพระเจ้าที่กรุณา?
18. พระยะโฮวา “รักษาคำพูดเสมอ” ยังไง และทำไมเรื่องนี้ถึงให้กำลังใจเรา?
18 “รักษาคำพูดเสมอ” ผู้คนในทุกวันนี้มักจะไม่ซื่อสัตย์ แต่คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า “พระเจ้าไม่ใช่มนุษย์ถึงจะได้พูดโกหก” (กันดารวิถี 23:19) ในทิตัส 1:2 ก็บอกว่า “พระเจ้าโกหกไม่ได้” พระยะโฮวามีแต่ความดี พระองค์ไม่มีทางพูดโกหก เราเลยมั่นใจได้ว่าคำสัญญาของพระองค์จะเป็นจริงแน่นอน มีการเรียกพระยะโฮวาว่า “พระเจ้าแห่งความจริง” (สดุดี 31:5) พระองค์ไม่ได้ปิดบังเรื่องของพระองค์ แต่พระองค์บอกความจริงทุกอย่างซึ่งเป็นสติปัญญาที่ลึกซึ้งให้ผู้รับใช้ของพระองค์ รู้ b พระองค์ยังสอนพวกเขาให้รู้วิธีเอาสิ่งที่ได้เรียนไปใช้เพื่อจะ “ใช้ชีวิตตามความจริง” (3 ยอห์น 3) แล้วความดีของพระยะโฮวาควรมีผลกับความคิด ความรู้สึก และการกระทำของเรายังไง?
“มีหน้าตาเบิกบานเพราะความดีของพระยะโฮวา”
19, 20. (ก) ซาตานทำยังไงเพื่อให้เอวาสงสัยความดีของพระยะโฮวา และผลเป็นยังไง? (ข) คุณรู้สึกยังไงเมื่อคิดถึงความดีของพระยะโฮวา และทำไมคุณถึงรู้สึกอย่างนั้น?
19 ตอนที่ซาตานหลอกเอวาในสวนเอเดน มันทำให้เธอสงสัยว่าพระยะโฮวาเป็นพระเจ้าที่ดีจริง ๆ ไหม พระยะโฮวาเคยบอกอาดัมว่า “เจ้ากินผลจากต้นไม้ทุกต้นในสวนนี้ได้จนพอใจ” ในสวนเอเดนมีต้นไม้มากมาย แต่มีแค่ต้นเดียวเท่านั้นที่พระยะโฮวาห้ามไม่ให้พวกเขากิน แต่ขอสังเกตคำถามแรกที่ซาตานพูดกับเอวาว่า “พระเจ้าไม่ให้พวกคุณกินผลไม้ทุกต้นในสวนนี้จริง ๆ หรือ?” (ปฐมกาล 2:9, 16; 3:1) ซาตานได้เปลี่ยนคำพูดของพระยะโฮวาเพื่อทำให้เอวาคิดว่าพระองค์หวงสิ่งดี ๆ ไว้จากเธอ เธอเลยสงสัยว่าพระยะโฮวาเป็นพระเจ้าที่ดีจริง ๆ ไหมทั้ง ๆ ที่พระองค์ให้ทุกอย่างกับเธอ
20 ความสงสัยของเอวาครั้งนั้นทำให้ผู้คนมากมายต้องเจ็บปวดและทนทุกข์ แต่ขอให้เรามั่นใจในคำพูดที่เยเรมีย์ 31:12 ที่ว่า “พวกเขาจะ . . . มีหน้าตาเบิกบานเพราะความดีของพระยะโฮวา” ความดีของพระยะโฮวาจะทำให้เรามีความสุขจริง ๆ ดังนั้น เราไม่ควรสงสัยในเจตนาของพระยะโฮวาเพราะพระองค์เป็นพระเจ้าที่ดีเยี่ยม เราไว้ใจพระองค์ได้อย่างเต็มที่เพราะพระองค์อยากให้คนที่รักพระองค์ได้รับสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ
21, 22. (ก) เมื่อได้รู้ว่าพระยะโฮวาดีจริง ๆ คุณอยากจะทำอะไรเพื่อพระองค์บ้าง? (ข) เราจะเรียนคุณลักษณะอะไรในบทต่อไป และคุณลักษณะนั้นต่างจากความดียังไง?
21 เรามีความสุขมากตอนที่ได้บอกคนอื่นเรื่องความดีของพระเจ้า สดุดี 145:7 บอกเกี่ยวกับประชาชนของพระยะโฮวาว่า “พวกเขาจะคิดถึงความดีมากมายของพระองค์ และจะพูดถึงสิ่งเหล่านั้นไม่หยุด” เราได้รับประโยชน์จากความดีของพระยะโฮวาทุกวัน เราน่าจะขอบคุณความดีของพระยะโฮวาทุกวันและพูดเรื่องนั้นอย่างเจาะจง การคิดถึงความดีของพระยะโฮวา ขอบคุณพระองค์ทุกวัน และบอกคนอื่นเรื่องความดีของพระองค์จะช่วยเราให้เลียนแบบพระเจ้าของเรา และถ้าเราพยายามหาวิธีที่จะทำดีเหมือนที่พระยะโฮวาทำ เราก็จะยิ่งใกล้ชิดกับพระองค์มากขึ้น อัครสาวกยอห์นบอกไว้ว่า “เพื่อนรัก ขอให้เลียนแบบตัวอย่างที่ดี อย่าเลียนแบบตัวอย่างที่ไม่ดี คนที่ทำดีก็อยู่ฝ่ายพระเจ้า”—3 ยอห์น 11
22 ความดีของพระยะโฮวายังเกี่ยวข้องกับคุณลักษณะอื่น ๆ ด้วย เช่น พระเจ้า “รักใครก็รักมั่นคง” (อพยพ 34:6) คุณลักษณะนี้พิเศษมากเพราะพระยะโฮวาแสดงกับผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของพระองค์เท่านั้น ในบทต่อไปเราจะได้เรียนว่าพระองค์ทำแบบนั้นยังไง
a ไม่มีตัวอย่างไหนที่ทำให้เห็นความดีของพระยะโฮวาได้ดีกว่าเรื่องค่าไถ่ พระยะโฮวาจะเลือกทูตสวรรค์องค์ไหนก็ได้เพื่อมาตายแทนเรา แต่พระองค์เลือกลูกชายที่รักของพระองค์ให้มาเป็นค่าไถ่เพื่อเรา
b คัมภีร์ไบเบิลมักจะเชื่อมโยงความจริงกับความสว่าง เช่น ในหนังสือสดุดีบอกว่า “ขอส่งแสงสว่างและความจริงของพระองค์ออกมา” (สดุดี 43:3) พระยะโฮวาช่วยคนที่เต็มใจเรียนรู้ให้เข้าใจความจริงเกี่ยวกับพระองค์มากขึ้น—2 โครินธ์ 4:6; 1 ยอห์น 1:5