ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

ความพยายามที่จะยุติความยากจน

ความพยายามที่จะยุติความยากจน

ความ​พยายาม​ที่​จะ​ยุติ​ความ​ยาก​จน

คน​ร่ำรวย​ยุติ​ความ​ยาก​จน​ของ​ตน​ได้​สำเร็จ. แต่​ความ​พยายาม​ของ​พวก​เขา​ที่​จะ​ช่วย​มวล​มนุษย์​ให้​หลุด​พ้น​จาก​ความ​ยาก​จน​ยัง​ไม่​เคย​ประสบ​ความ​สำเร็จ​เลย. ทำไม? ก็​เพราะ​คน​รวย​ส่วน​ใหญ่​ไม่​ต้องการ​ให้​ใคร​หรือ​สิ่ง​ใด​มา​ทำ​ให้​สถานภาพ​ของ​เขา​เปลี่ยน​ไป. กษัตริย์​โซโลมอน​แห่ง​ชาติ​อิสราเอล​โบราณ​เขียน​ว่า “นี่​แน่ะ, น้ำตา​ของ​ผู้​ถูก​ข่มเหง​เป็น​ต้น, ไม่​มี​คน​เช็ด​ให้; ใน​มือ​ของ​ผู้​ข่มเหง​นั้น​ได้​กุม​อำนาจ​ไว้.”—ท่าน​ผู้​ประกาศ 4:1

ผู้​มี​อิทธิพล​และ​มี​อำนาจ​ใน​สังคม​สามารถ​เปลี่ยน​โลก​นี้​โดย​ขจัด​ความ​ยาก​จน​ให้​หมด​ไป​ได้​ไหม? โซโลมอน​ได้​รับ​การ​ดล​ใจ​ให้​เขียน​ว่า “ดู​เถอะ, บรรดา​การ​งาน​นั้น​ก็​อนิจจัง​เหมือน​วิ่ง​ไล่​ตาม​ลม. อะไร ๆ ที่​คดเคี้ยว​โค้ง​โก่ง​จะ​กระทำ​ให้​ตรง​มิ​ได้.” (ท่าน​ผู้​ประกาศ 1:14, 15) ให้​เรา​มา​ดู​ความ​พยายาม​เพื่อ​จะ​ยุติ​ความ​ยาก​จน​ใน​ปัจจุบัน แล้ว​เรา​ก็​จะ​เข้าใจ​ถ้อย​คำ​ที่​กล่าว​ใน​ข้อ​คัมภีร์​นี้.

ทฤษฎี​ความ​ร่ำรวย​ถ้วน​หน้า

ใน​ศตวรรษ​ที่ 19 ขณะ​ที่​การ​ค้า​และ​อุตสาหกรรม​ทำ​ให้​บาง​ประเทศ​กลาย​เป็น​ประเทศ​ที่​ร่ำรวย​อย่าง​ที่​ไม่​เคย​เป็น​มา​ก่อน บาง​คน​ที่​มี​อิทธิพล​ต่อ​สังคม​ได้​หัน​มา​สนใจ​ปัญหา​ความ​ยาก​จน​อย่าง​จริงจัง. เป็น​ไป​ได้​ไหม​ที่​จะ​แจก​จ่าย​ทรัพยากร​ของ​โลก​ให้​ทั่ว​ถึง​กว่า​นี้?

บาง​คน​คิด​ว่า​การ​ปกครอง​แบบ​สังคม​นิยม หรือ​คอมมิวนิสต์ จะ​ทำ​ให้​สังคม​โลก​มี​ความ​เสมอ​ภาค​และ​สามารถ​กระจาย​ความ​ร่ำรวย​ให้​แก่​ประชาชน​ทุก​คน​อย่าง​ทั่ว​ถึง. จริง​อยู่ คน​ร่ำรวย​ไม่​ชอบ​แนว​คิด​นี้. แต่​คติ​พจน์​ที่​ว่า “จาก​ทุก​คน​แล้ว​แต่​ความ​สามารถ และ​สำหรับ​ทุก​คน​แล้ว​แต่​ความ​ต้องการ” กลับ​เป็น​ที่​ยอม​รับ​กัน​อย่าง​กว้างขวาง. หลาย​คน​หวัง​ว่า​ทุก​ชาติ​จะ​รับ​เอา​แนว​คิด​แบบ​สังคม​นิยม​เพื่อ​โลก​นี้​จะ​กลาย​เป็น​โลก​แห่ง​อุดมคติ. ประเทศ​ที่​ร่ำรวย​บาง​ประเทศ​ได้​รับ​เอา​แนว​คิด​แบบ​สังคม​นิยม​หลาย​อย่าง​ไป​ใช้ และ​ได้​ตั้ง​รัฐ​สวัสดิการ​ซึ่ง​ให้​คำ​มั่น​ว่า​จะ​ดู​แล​ประชาชน​ทุก​คน “ตั้ง​แต่​เกิด​จน​ตาย.” ประเทศ​เหล่า​นี้​อ้าง​ว่า​พวก​เขา​ได้​ขจัด​ความ​ยาก​จน​ซึ่ง​คุกคาม​ชีวิต​ประชาชน​ออก​ไป​แล้ว.

อย่าง​ไร​ก็​ตาม การ​ปกครอง​แบบ​สังคม​นิยม​ไม่​เคย​ประสบ​ความ​สำเร็จ​ใน​การ​สร้าง​สังคม​ที่​ไม่​เห็น​แก่​ตัว. เป้าหมาย​ที่​ว่า​ประชาชน​จะ​ทำ​งาน​เพื่อ​ประโยชน์​ของ​ส่วน​รวม​แทน​ที่​จะ​ทำ​เพื่อ​ตัว​เอง​กลาย​เป็น​เพียง​ความ​ฝัน​ลม ๆ แล้ง ๆ. บาง​คน​ไม่​พอ​ใจ​ที่​ตน​เอง​ต้อง​ทำ​งาน​เพื่อ​ช่วยเหลือ​เกื้อกูล​คน​ยาก​จน และ​ให้​ข้อ​สังเกต​ว่า​การ​ให้​ความ​ช่วยเหลือ​แบบ​ไม่​อั้น​ทำ​ให้​คน​ยาก​จน​บาง​คน​ไม่​อยาก​ทำ​งาน. คำ​กล่าว​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​ความ​จริง​ที่​ว่า “ไม่​มี​คน​ชอบธรรม​สัก​คน​เดียว​บน​พื้น​แผ่นดิน​โลก, ที่​ได้​ประพฤติ​ล้วน​แต่​ดี, และ​ไม่​เพลี่ยง​พล้ำ​เลย. . . . พระเจ้า​ได้​ทรง​สร้าง​มนุษย์​ให้​เป็น​คน​สัตย์​ซื่อ, แต่​มนุษย์​ทั้ง​หลาย​ได้​ค้นคว้า​เอา​ความ​ฉลาด​แกม​โกง​ออก​มา.”—ท่าน​ผู้​ประกาศ 7:20, 29

แนว​คิด​อีก​อย่าง​หนึ่ง​เรียก​ว่า​ความ​ฝัน​อเมริกัน​คือ​ความ​คาด​หวัง​ที่​ว่า​จะ​มี​ดินแดน​หนึ่ง​ที่​ทุก​คน​ซึ่ง​เต็ม​ใจ​ทำ​งาน​หนัก​สามารถ​กลาย​เป็น​คน​ร่ำรวย​ได้. ตลอด​ทั่ว​โลก หลาย​ประเทศ​ได้​ขาน​รับ​นโยบาย​ต่าง ๆ ที่​ทำ​ให้​สหรัฐ​ร่ำรวย​มา​แล้ว ทั้ง​การ​ปกครอง​ระบอบ​ประชาธิปไตย ระบบ​วิสาหกิจ​เสรี และ​ระบบ​การ​ค้า​เสรี. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ไม่​ใช่​ทุก​ประเทศ​สามารถ​เอา​นโยบาย​ความ​ฝัน​อเมริกัน​ไป​ใช้​ได้ เพราะ​ความ​มั่งคั่ง​ร่ำรวย​ของ​ประเทศ​ใน​อเมริกา​เหนือ​ไม่​ได้​เกิด​จาก​ระบบ​การ​เมือง​เพียง​อย่าง​เดียว. ปัจจัย​สำคัญ​ที่​ทำ​ให้​อเมริกา​ประสบ​ความ​สำเร็จ​คือ​ทรัพยากร​ธรรมชาติ​ที่​มี​อยู่​อย่าง​มหาศาล และ​ทำเล​ที่​ตั้ง​ที่​สามารถ​ติด​ต่อ​ค้า​ขาย​กับ​นานา​ชาติ​ได้​ง่าย. นอก​จาก​นั้น ระบบ​เศรษฐกิจ​โลก​ที่​มี​การ​แข่งขัน​สูง​ไม่​ได้​ทำ​ให้​มี​ผู้​ชนะ​ที่​กลาย​เป็น​ชาติ​ที่​ร่ำรวย​เท่า​นั้น แต่​ยัง​ทำ​ให้​มี​ผู้​แพ้​ซึ่ง​ต้อง​ยาก​จน​ลง​ด้วย. มี​ทาง​เป็น​ไป​ได้​ไหม​ที่​จะ​สนับสนุน​ประเทศ​ร่ำรวย​ให้​หัน​มา​ช่วย​ประเทศ​ที่​ยัง​ยาก​จน​อยู่?

แผน​มาร์แชล—ยุทธการ​ปราบ​ความ​ยาก​จน​หรือ?

หลัง​จาก​สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่​สอง ยุโรป​ประสบ​ความ​เสียหาย​อย่าง​หนัก​และ​ผู้​คน​มาก​มาย​กลัว​ว่า​พวก​เขา​จะ​พา​กัน​อด​ตาย​เพราะ​ขาด​แคลน​อาหาร. รัฐบาล​สหรัฐ​เป็น​ห่วง​ว่า​แนว​คิด​แบบ​สังคม​นิยม​จะ​เป็น​ที่​ชื่น​ชอบ​ของ​ประชาชน​ใน​ยุโรป​มาก​ขึ้น. ดัง​นั้น สหรัฐ​จึง​ทุ่ม​เงิน​จำนวน​มหาศาล​ตลอด​สี่​ปี​เพื่อ​ฟื้นฟู​ระบบ​อุตสาหกรรม​และ​เกษตรกรรม​ใน​ประเทศ​ต่าง ๆ ที่​ยอม​รับ​นโยบาย​ของ​สหรัฐ. แผน​งาน​ฟื้นฟู​ยุโรป​นี้​ซึ่ง​เรียก​ว่า​แผน​มาร์แชล​ถือ​ว่า​ประสบ​ความ​สำเร็จ​ที​เดียว. อิทธิพล​ของ​สหรัฐ​ใน​ยุโรป​ตะวัน​ตก​ได้​เพิ่ม​ขึ้น และ​ความ​ยาก​จน​ที่​เป็น​ภัย​คุกคาม​ชีวิต​ก็​แทบ​จะ​ถูก​ปราบ​จน​หมด​สิ้น. แผนการ​นี้​จะ​ปราบ​ความ​ยาก​จน​ตลอด​ทั่ว​โลก​ได้​จริง ๆ ไหม?

ความ​สำเร็จ​ของ​แผน​มาร์แชล​ทำ​ให้​รัฐบาล​สหรัฐ​เสนอ​ความ​ช่วยเหลือ​แก่​ประเทศ​ยาก​จน​ทั่ว​โลก โดย​ช่วย​ประเทศ​เหล่า​นั้น​พัฒนา​ด้าน​การ​เกษตร สาธารณสุข การ​ศึกษา และ​การ​คมนาคม​ขน​ส่ง. สหรัฐ​ยอม​รับ​อย่าง​ตรง​ไป​ตรง​มา​ว่า​การ​ให้​ความ​ช่วยเหลือ​เช่น​นี้​ที่​แท้​แล้ว​ก็​เพื่อ​ประโยชน์​ของ​สหรัฐ​เอง. ประเทศ​อื่น ๆ ก็​พยายาม​แผ่​ขยาย​อิทธิพล​ออก​ไป​โดย​หยิบ​ยื่น​ความ​ช่วยเหลือ​ให้​แก่​ประเทศ​ยาก​จน​เช่น​กัน. ประเทศ​เหล่า​นี้​ทุ่ม​เงิน​สนับสนุน​ไป​มาก​กว่า​เงิน​ที่​สหรัฐ​ใช้​ใน​แผน​มาร์แชล​หลาย​เท่า แต่​หลัง​จาก​ผ่าน​ไป​หก​สิบ​ปี​ความ​พยายาม​ของ​พวก​เขา​กลับ​ไม่​บรรลุ​ผล​อย่าง​ที่​หวัง​ไว้. จริง​อยู่ หลาย​ประเทศ​ที่​เคย​ยาก​จน​ก็​ร่ำรวย​ขึ้น​อย่าง​ไม่​น่า​เชื่อ​โดย​เฉพาะ​ประเทศ​แถบ​เอเชีย​ตะวัน​ออก. แต่​ใน​อีก​หลาย​ประเทศ แม้​การ​ช่วยเหลือ​ที่​ได้​รับ​จะ​ทำ​ให้​อัตรา​การ​เสีย​ชีวิต​ของ​เด็ก​ลด​ลง​และ​เด็ก​จำนวน​มาก​ขึ้น​ได้​รับ​การ​ศึกษา แต่​ประเทศ​เหล่า​นั้น​ก็​ยัง​ยาก​จน​ข้นแค้น​อยู่​ดี.

ความ​ช่วยเหลือ​จาก​ต่าง​ชาติ—ทำไม​ไม่​ได้​ผล​อย่าง​ที่​คาด​หวัง​ไว้?

เห็น​ได้​ชัด​ว่า การ​ช่วย​ประเทศ​ยาก​จน​ให้​หลุด​พ้น​จาก​ความ​จน​นั้น​ยาก​กว่า​การ​ช่วย​ประเทศ​ร่ำรวย​ให้​ฟื้น​ตัว​จาก​สงคราม. ประเทศ​ใน​ยุโรป​มี​ระบบ​อุตสาหกรรม การ​ค้า และ​การ​ขน​ส่ง​ดี​อยู่​แล้ว. มี​เพียง​ระบบ​เศรษฐกิจ​เท่า​นั้น​ที่​จำเป็น​ต้อง​ได้​รับ​การ​ฟื้นฟู. ส่วน​ประเทศ​ที่​ยาก​จน แม้​ต่าง​ชาติ​จะ​เข้า​มา​ช่วย​สร้าง​ถนน โรง​เรียน และ​สถาน​พยาบาล​แล้ว​ก็​ตาม ผู้​คน​ก็​ยัง​ยาก​จน​ข้นแค้น​เพราะ​ประเทศ​เหล่า​นั้น​ไม่​มี​ระบบ​ธุรกิจ ทรัพยากร​ธรรมชาติ และ​ช่อง​ทาง​ติด​ต่อ​ค้า​ขาย​กับ​ประเทศ​อื่น ๆ.

วัฏจักร​ของ​ความ​ยาก​จน​เป็น​ปัญหา​ที่​ซับซ้อน​และ​ไม่​สามารถ​แก้ไข​ได้​ง่าย ๆ. ตัว​อย่าง​เช่น โรค​ภัย​ทำ​ให้​เกิด​ความ​ยาก​จน​และ​ความ​ยาก​จน​ก็​ทำ​ให้​เกิด​โรค​ภัย. การ​ขาด​อาหาร​อาจ​ทำ​ให้​เด็ก​มี​สภาพ​ร่าง​กาย​และ​จิตใจ​ที่​อ่อนแอ​มาก. และ​เมื่อ​เด็ก​เหล่า​นี้​โต​เป็น​ผู้​ใหญ่​เขา​ก็​ไม่​สามารถ​ดู​แล​ลูก​ของ​ตน​ได้. นอก​จาก​นั้น เมื่อ​ประเทศ​ร่ำรวย​ขน​อาหาร​ที่​เหลือ​จาก​การ​บริโภค​ใน​ประเทศ​ของ​ตน​ไป “ช่วย” ประเทศ​ยาก​จน ชาว​นา​ชาว​ไร่​รวม​ทั้ง​พ่อค้า​ปลีก​ใน​ประเทศ​เหล่า​นั้น​ก็​ไม่​สามารถ​ทำ​มา​ค้า​ขาย​ได้ พวก​เขา​จึง​ยาก​จน​ลง​ไป​อีก. การ​ส่ง​เงิน​ไป​ช่วยเหลือ​รัฐบาล​ใน​ประเทศ​ยาก​จน​อาจ​เป็น​การ​เริ่ม​วัฏจักร​อีก​อย่าง​หนึ่ง. เนื่อง​จาก​เงิน​ช่วยเหลือ​เป็น​สิ่ง​ที่​ยักยอก​ได้​ง่าย​จึง​อาจ​ทำ​ให้​เกิด​การ​คอร์รัปชัน และ​การ​คอร์รัปชัน​ก็​อาจ​ทำ​ให้​คน​ยาก​จน​ลง. กล่าว​โดย​รวม​แล้ว ความ​ช่วยเหลือ​จาก​ต่าง​ชาติ​ไม่​สามารถ​แก้​ปัญหา​ความ​ยาก​จน​ได้ เพราะ​ต้น​เหตุ​ที่​แท้​จริง​ของ​ปัญหา​ไม่​ได้​รับ​การ​แก้ไข.

ต้น​เหตุ​ของ​ความ​ยาก​จน

ความ​ยาก​จน​ข้นแค้น​เป็น​ผล​มา​จาก​การ​ที่​ชาติ​ต่าง ๆ รัฐบาล และ​ประชาชน​ต่าง​ก็​ทำ​สิ่ง​ที่​ส่ง​เสริม​และ​ปก​ป้อง​ผล​ประโยชน์​ของ​ตน​เอง​เท่า​นั้น. ตัว​อย่าง​เช่น รัฐบาล​ของ​ประเทศ​ที่​ร่ำรวย​ไม่​ค่อย​ให้​ความ​สำคัญ​กับ​การ​ยุติ​ความ​ยาก​จน​ใน​โลก เพราะ​รัฐบาล​เหล่า​นี้​เข้า​มา​บริหาร​ประเทศ​ได้​ด้วย​การ​เลือก​ตั้ง​ตาม​ระบอบ​ประชาธิปไตย และ​พวก​เขา​ต้อง​คอย​เอา​อก​เอา​ใจ​กลุ่ม​คน​ที่​เลือก​เขา​เข้า​มา. ดัง​นั้น รัฐบาล​ประเทศ​ร่ำรวย​เหล่า​นี้​จึง​ไม่​ยอม​ให้​เกษตรกร​ใน​ประเทศ​ยาก​จน​ขาย​ผล​ผลิต​ให้​กับ​ประเทศ​ของ​ตน​เพื่อ​ไม่​ให้​เกษตรกร​ใน​ประเทศ​สูญ​เสีย​ราย​ได้. นอก​จาก​นั้น ผู้​นำ​ใน​ประเทศ​ร่ำรวย​มัก​ให้​เงิน​ช่วยเหลือ​เกษตรกร​ใน​ประเทศ​ของ​ตน เพื่อ​พวก​เขา​จะ​ขาย​ผล​ผลิต​ได้​มาก​กว่า​เกษตรกร​ใน​ประเทศ​ยาก​จน.

เห็น​ได้​ชัด​ว่า ปัญหา​ความ​ยาก​จน​แท้​จริง​แล้ว​เกิด​จาก​มนุษย์​เอง เพราะ​ประชาชน​และ​รัฐบาล​ต่าง​ก็​พยายาม​จะ​ปก​ป้อง​ผล​ประโยชน์​ของ​ตน​เอง. โซโลมอน​ผู้​เขียน​คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ไว้​ดัง​นี้: “มนุษย์​ใช้​อำนาจ​เหนือ​มนุษย์​อย่าง​ที่​ก่อ​ผล​เสียหาย​แก่​เขา.”—ท่าน​ผู้​ประกาศ 8:9, ล.ม.

ถ้า​เช่น​นั้น มี​ทาง​เป็น​ไป​ได้​ไหม​ที่​จะ​ยุติ​ความ​ยาก​จน? มี​รัฐบาล​ใด​ไหม​ที่​สามารถ​เปลี่ยน​นิสัย​มนุษย์​ได้?

[กรอบ​หน้า 6]

กฎหมาย​ที่​ป้องกัน​ความ​ยาก​จน

พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ได้​ประทาน​ประมวล​กฎหมาย​หรือ​พระ​บัญญัติ​แก่​ชาติ​อิสราเอล​โบราณ. การ​เชื่อ​ฟัง​พระ​บัญญัติ​นี้​จะ​ช่วย​ป้องกัน​ความ​ยาก​จน​ได้. พระ​บัญญัติ​กำหนด​ไว้​ว่า​นอก​จาก​ตระกูล​เลวี​ซึ่ง​ทำ​หน้า​ที่​ปุโรหิต​แล้ว ชาว​อิสราเอล​ทุก​ตระกูล​จะ​ได้​รับ​ที่​ดิน​เป็น​มรดก. ที่​ดิน​มรดก​ของ​ครอบครัว​จะ​เป็น​กรรมสิทธิ์​ถาวร​เพราะ​ไม่​สามารถ​ขาย​ขาด​ได้. ทุก ๆ 50 ปี​ที่​ดิน​ทั้ง​หมด​จะ​ต้อง​ถูก​คืน​ให้​แก่​เจ้าของ​เดิม​หรือ​ครอบครัว​ของ​เขา. (เลวีติโก 25:10, 23) ถ้า​ใคร​ก็​ตาม​ขาย​ที่​ดิน​มรดก​ของ​ตน​เนื่อง​จาก​ความ​เจ็บ​ป่วย ภัย​พิบัติ หรือ​เพราะ​ความ​เกียจ​คร้าน เขา​จะ​ได้​รับ​ที่​ดิน​แปลง​นั้น​กลับ​มา​โดย​ไม่​ต้อง​ซื้อ​คืน​ใน​ปี​จูบิลี. ไม่​มี​ครอบครัว​ใด​จะ​ยาก​จน​ไป​ตลอด​ชั่ว​ลูก​ชั่ว​หลาน.

มี​การ​จัด​เตรียม​อีก​อย่าง​หนึ่ง​ที่​แสดง​ถึง​ความ​เมตตา​กรุณา​ของ​พระเจ้า. พระ​บัญญัติ​อนุญาต​ให้​คน​ที่​ประสบ​ความ​ทุกข์​ยาก​สามารถ​ขาย​ตัว​เอง​เป็น​ทาส. เขา​จะ​ได้​รับ​ค่า​ตัว​ล่วง​หน้า​เพื่อ​จะ​ใช้​หนี้​ได้. ถ้า​ครบ​เจ็ด​ปี​แล้ว เขา​ยัง​ไถ่​ตัว​เอง​ไม่​ได้ นาย​ทาส​จะ​ต้อง​ปล่อย​เขา​เป็น​อิสระ​และ​ให้​เมล็ด​พืช​พร้อม​กับ​ฝูง​สัตว์​แก่​เขา​เพื่อ​จะ​ไป​ตั้ง​ตัว​ใหม่. นอก​จาก​นั้น ถ้า​คน​ยาก​จน​จำเป็น​ต้อง​กู้​ยืม​เงิน พระ​บัญญัติ​ก็​ห้าม​ไม่​ให้​คิด​ดอกเบี้ย​จาก​เขา. พระ​บัญญัติ​ยัง​กำหนด​ด้วย​ว่า​เมื่อ​ทำ​การ​เก็บ​เกี่ยว ชาว​อิสราเอล​จะ​ต้อง​เหลือ​พืช​ผล​ริม​ไร่​นา​ไว้​เพื่อ​คน​ยาก​จน​จะ​เก็บ​กิน​ได้. ถ้า​ทุก​คน​ปฏิบัติ​ตาม​กฎหมาย​ดัง​กล่าว​ก็​จะ​ไม่​มี​ประชาชน​คน​ใด​เป็น​ขอ​ทาน.—พระ​บัญญัติ 15:1-14; เลวีติโก 23:22

อย่าง​ไร​ก็​ตาม ประวัติศาสตร์​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​มี​ชาว​อิสราเอล​บาง​คน​เป็น​คน​ยาก​จน. ทำไม​จึง​เป็น​เช่น​นั้น? ก็​เพราะ​ชาติ​นี้​ไม่​ได้​เชื่อ​ฟัง​พระ​บัญญัติ​ของ​พระ​ยะโฮวา. ฉะนั้น ชาติ​อิสราเอล​จึง​กลาย​เป็น​เหมือน​ชาติ​ส่วน​ใหญ่​ใน​โลก​ที่​บาง​คน​ร่ำรวย​เป็น​เศรษฐี​ที่​ดิน ขณะ​ที่​บาง​คน​ก็​ยาก​จน​ข้นแค้น​ถึง​ขนาด​ไม่​มี​ที่​ดิน​เป็น​ของ​ตน​เอง. ความ​ยาก​จน​เกิด​ขึ้น​ใน​หมู่​ชาว​อิสราเอล​เพราะ​บาง​คน​ไม่​ใส่​ใจ​ทำ​ตาม​พระ​บัญญัติ​ของ​พระเจ้า​และ​คิด​ถึง​ผล​ประโยชน์​ของ​ตน​เอง​มาก​กว่า​ผล​ประโยชน์​ของ​ผู้​อื่น.—มัดธาย 22:37-40