“ปลอบโยนทุกคนที่คร่ำครวญ”
“ปลอบโยนทุกคนที่คร่ำครวญ”
“องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเจิมตั้งข้าพเจ้าไว้ . . . ให้ปลอบโยนทุกคนที่คร่ำครวญ.”—ยซา. 61:1, 2, ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย
1. พระเยซูทรงทำอะไรเพื่อคนที่โศกเศร้า และเพราะเหตุใด?
พระเยซูคริสต์ตรัสว่า “อาหารของเราคือการทำตามพระประสงค์ของพระองค์ผู้ทรงใช้เรามาและทำการของพระองค์ให้สำเร็จ.” (โย. 4:34) ขณะที่พระเยซูทรงทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากพระเจ้าให้สำเร็จ พระองค์ทรงสะท้อนให้เห็นคุณลักษณะอันงดงามของพระบิดา. คุณลักษณะอย่างหนึ่งก็คือความรักอันยิ่งใหญ่ของพระยะโฮวาที่ทรงมีต่อมนุษย์. (1 โย. 4:7-10) อัครสาวกเปาโลกล่าวถึงวิธีหนึ่งที่พระยะโฮวาทรงแสดงความรักเมื่อท่านพรรณนาว่าพระองค์ทรงเป็น “พระเจ้าแห่งการชูใจทุกอย่าง.” (2 โค. 1:3) พระเยซูทรงแสดงความรักเช่นนั้นเมื่อพระองค์ทำสิ่งที่มีบอกไว้ล่วงหน้าตามคำพยากรณ์ของยะซายาห์. (อ่านยะซายา 61:1, 2) พระเยซูทรงอ่านคำพยากรณ์นี้ในธรรมศาลาที่เมืองนาซาเรทและชี้ว่าถ้อยคำเหล่านั้นสำเร็จกับพระองค์เอง. (ลูกา 4:16-21) ตลอดช่วงที่พระเยซูทรงรับใช้บนแผ่นดินโลก พระองค์ทรงแสดงความรักด้วยการชูใจคนที่โศกเศร้า ให้กำลังใจ และช่วยพวกเขาให้จิตใจสงบ.
2, 3. เหตุใดสาวกของพระคริสต์ต้องเลียนแบบพระองค์ในการชูใจผู้อื่น?
2 สาวกทุกคนของพระเยซูต้องเลียนแบบพระองค์โดยการชูใจคนที่โศกเศร้า. (1 โค. 11:1) เปาโลกล่าวว่า “จงชูใจกันและส่งเสริมกันเรื่อยไป.” (1 เทส. 5:11) มีความจำเป็นมากเป็นพิเศษที่เราต้องชูใจคนอื่น ๆ เพราะในเวลานี้มนุษย์เผชิญ “วิกฤตกาลซึ่งยากจะรับมือได้.” (2 ติโม. 3:1) ผู้คนที่มีหัวใจสุจริตทั่วโลกต้องรับมือมากขึ้นเรื่อย ๆ กับการกระทำและคำพูดของคนที่ทำให้พวกเขาโศกเศร้าเสียใจและเจ็บปวดใจ.
3 ดังที่บอกล่วงหน้าในคำพยากรณ์ของคัมภีร์ไบเบิล ในสมัยสุดท้ายของระบบชั่วนี้ หลายคน “รักตัวเอง รักเงิน อวดดี เย่อหยิ่ง หมิ่นประมาท ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ อกตัญญู ไม่ภักดี ไม่มีความรักใคร่ตามธรรมชาติ ไม่ยอมประนีประนอม เป็นคนใส่ร้าย ไม่มีการควบคุมตนเอง ดุร้าย ไม่รักความดี เป็นคนทรยศ หัวดื้อ ทะนงตัว เป็นคนรักการสนุกสนานแทนที่จะรักพระเจ้า.” ทัศนคติเช่นนั้นในทุกวันนี้เลวร้ายยิ่งกว่าแต่ก่อน เพราะ ‘คนชั่วและคนหลอกลวงกำเริบชั่วร้ายยิ่งขึ้น.’—2 ติโม. 3:2-4, 13
4. เกิดอะไรขึ้นกับสภาพการณ์ของโลกในสมัยของเรา?
4 เรื่องนี้ไม่ควรทำให้เราแปลกใจ เพราะพระคำของพระเจ้าบอกไว้อย่างชัดเจนว่า “โลกทั้งโลกอยู่ในอำนาจตัวชั่วร้าย.” (1 โย. 5:19) ส่วนหนึ่งของ “โลกทั้งโลก” ได้แก่องค์ประกอบทางการเมือง ศาสนา และการค้า รวมทั้งช่องทางต่าง ๆ ที่ถูกใช้ในการโฆษณาชวนเชื่อ. ไม่ต้องสงสัยเลยว่าซาตานพญามารถูกเรียกอย่างถูกต้องว่า “ผู้ปกครองโลก” และ “พระเจ้าของยุคนี้.” (โย. 14:30; 2 โค. 4:4) สภาพการณ์ทั่วโลกเสื่อมลงอย่างต่อเนื่องเพราะเวลานี้ซาตานโกรธมาก เนื่องจากมันรู้ว่ามันมีเวลาเหลืออยู่เพียงเล็กน้อยก่อนที่พระยะโฮวาจะขจัดทำลายมัน. (วิ. 12:12) ช่างเป็นเรื่องที่ให้กำลังใจจริง ๆ ที่รู้ว่าความอดทนของพระเจ้าต่อซาตานและระบบชั่วของมันจะสิ้นสุดลงในไม่ช้า และประเด็นที่ซาตานยกขึ้นมาเกี่ยวกับอำนาจสูงสุดในการปกครองของพระยะโฮวาจะได้รับการจัดการให้เรียบร้อย!—เย. บท 3; โยบบท 2
ข่าวดีกำลังได้รับการประกาศไปทั่วโลก
5. คำพยากรณ์เกี่ยวกับงานประกาศกำลังสำเร็จเป็นจริงอย่างไรในสมัยสุดท้ายนี้?
5 ระหว่างช่วงเวลาที่ยุ่งยากลำบากนี้ในประวัติศาสตร์มนุษย์ สิ่งที่พระเยซูทรงบอกไว้ล่วงหน้ากำลังสำเร็จเป็นจริง. พระองค์ตรัสว่า “ข่าวดีเรื่องราชอาณาจักรจะได้รับการประกาศไปทั่วแผ่นดินโลกที่มีคนอาศัยอยู่เพื่อให้พยานหลักฐานแก่ทุกชาติ แล้วอวสานจะมาถึง.” (มัด. 24:14) งานประกาศเรื่องราชอาณาจักรของพระเจ้านี้ซึ่งกำลังทำกันทั่วโลกมีขอบเขตกว้างขวางมากขึ้นเรื่อย ๆ. ปัจจุบัน พยานพระยะโฮวามากกว่า 7,500,000 คน ซึ่งสมทบกับประชาคมต่าง ๆ ทั่วโลกมากกว่า 107,000 ประชาคม กำลังประกาศเรื่องราชอาณาจักรของพระเจ้า เช่นเดียวกันกับที่พระเยซูทรงเน้นในการประกาศและการสอนของพระองค์. (มัด. 4:17) ผลอย่างหนึ่งของงานประกาศที่เรา ทำกันอยู่ในทุกวันนี้ก็คือคนที่โศกเศร้ากำลังได้รับการชูใจอย่างมาก. ในช่วงสองปีที่แล้วมีถึง 570,601 คนรับบัพติสมาเป็นพยานของพระยะโฮวา!
6. คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับขอบเขตของงานประกาศที่เรากำลังทำกันอยู่?
6 เราอาจมองเห็นได้ไม่ยากว่างานประกาศนี้กำลังทำกันอย่างกว้างขวางขนาดไหนเมื่อสังเกตว่าเวลานี้พยานพระยะโฮวาแปลและจัดพิมพ์หนังสืออธิบายคัมภีร์ไบเบิลในภาษาต่าง ๆ มากกว่า 500 ภาษา. ไม่เคยมีใครทำอะไรอย่างนี้มาก่อนในประวัติศาสตร์มนุษย์! การดำรงอยู่ขององค์การของพระยะโฮวาส่วนที่อยู่บนแผ่นดินโลก รวมทั้งงานและการเติบโตขององค์การนี้ เป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดาอย่างแท้จริง. หากไม่ได้รับการชี้นำและความช่วยเหลือจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่ทรงพลังของพระเจ้า คงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีความสำเร็จแบบนั้นเกิดขึ้นในโลกนี้ที่อยู่ใต้อำนาจการควบคุมของซาตาน. เนื่องจากข่าวดีกำลังได้รับการประกาศไปทั่วแผ่นดินโลกที่มีคนอาศัยอยู่ จึงไม่ใช่เพียงเพื่อนร่วมความเชื่อของเราเท่านั้นที่กำลังได้รับการชูใจจากพระคัมภีร์ แต่คนที่โศกเศร้าซึ่งตอบรับข่าวสารเรื่องราชอาณาจักรก็ได้รับการชูใจด้วย.
ชูใจเพื่อนผู้นมัสการ
7. (ก) เหตุใดเราไม่อาจคาดหมายว่าพระยะโฮวาจะขจัดปัญหาทั้งหมดที่ทำให้เราเป็นทุกข์ในเวลานี้? (ข) เรารู้ได้อย่างไรว่าเราสามารถทนการข่มเหงและความทุกข์ลำบากได้?
7 ในโลกนี้ที่เต็มไปด้วยความชั่วและความทุกข์ เราแน่ใจได้เลยว่าเราจะพบกับปัญหาบางอย่างที่ทำให้เป็นทุกข์โศกเศร้า. เราไม่อาจคาดหมายได้ว่าพระเจ้าจะขจัดต้นตอของความทุกข์หรือความโศกเศร้าทั้งหมดจนกว่าจะถึงเวลาที่พระองค์ทรงทำลายระบบนี้. นอกจากนั้น มีการบอกไว้ล่วงหน้าว่าคริสเตียนจะถูกข่มเหง. และการข่มเหงจะเปิดโอกาสให้เราแสดงความซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อพระยะโฮวาและแสดงให้เห็นว่าเราสนับสนุนอำนาจการปกครองเหนือเอกภพของพระองค์. (2 ติโม. 3:12) อย่างไรก็ตาม โดยได้รับความช่วยเหลือและการชูใจจากพระบิดาของเราผู้อยู่ในสวรรค์ เราสามารถเป็นเหมือนคริสเตียนผู้ถูกเจิมในเมืองเทสซาโลนิเกสมัยโบราณที่ทนการข่มเหงและความทุกข์ลำบากด้วยความเพียรอดทนและความเชื่อ.—อ่าน 2 เทสซาโลนิเก 1:3-5
8. มีหลักฐานอะไรจากพระคัมภีร์ที่แสดงว่าพระยะโฮวาทรงชูใจผู้รับใช้ของพระองค์?
8 ไม่มีข้อสงสัยในเรื่องที่ว่าพระยะโฮวาประทานการชูใจที่จำเป็นแก่ผู้รับใช้ของพระองค์. ตัวอย่างเช่น เมื่อผู้พยากรณ์เอลียาห์ถูกราชินีอีซาเบลผู้ชั่วร้ายขู่จะเอาชีวิต ท่านผู้พยากรณ์เกิดความกลัวแล้วหนีไป และถึงกับพูดว่าท่านอยากตาย. แต่แทนที่พระยะโฮวาจะตำหนิเอลียาห์ พระองค์ทรงชูใจท่านและประทานความกล้าเพื่อช่วยให้ท่านทำหน้าที่ในฐานะผู้พยากรณ์ได้สำเร็จ. (1 กษัต. 19:1-21) ข้อเท็จจริงที่ว่าพระยะโฮวาทรงชูใจประชาชนของพระองค์ยังเห็นได้ด้วยจากประสบการณ์ของประชาคมคริสเตียนในศตวรรษแรก. ตัวอย่างเช่น มีรายงานที่บอกว่า “ประชาคมทั่วแคว้นยูเดีย แกลิลี และซะมาเรีย . . . มีช่วงเวลาหนึ่งที่สงบสุขและเจริญขึ้น.” นอกจากนั้น “เนื่องจากพวกเขาดำเนินชีวิตด้วยความยำเกรงพระยะโฮวา อีกทั้งดำเนินชีวิตโดยได้รับการชูใจจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ ประชาคมจึงทวีขึ้น.” (กิจ. 9:31) เรารู้สึกขอบคุณสักเพียงไรที่เราเองก็ได้รับ “การชูใจจากพระวิญญาณบริสุทธิ์” ด้วย!
9. เหตุใดการเรียนรู้เกี่ยวกับพระเยซูช่วยชูใจเราได้?
9 ในฐานะคริสเตียน เราได้รับการชูใจจากการเรียนรู้เกี่ยวกับพระเยซูคริสต์และจากการดำเนินตามรอยพระบาทพระองค์. พระเยซูตรัสว่า “เจ้าทั้งหลายที่ตรากตรำและมีภาระมากจงมาหาเราเถิด แล้วเราจะทำให้เจ้าทั้งหลายสดชื่น. จงรับแอกของเราแบกไว้และเรียนจากเรา เพราะเราเป็นคนอ่อนโยนและถ่อมใจ แล้วเจ้าทั้งหลายจะสดชื่น. เพราะแอกของเราพอเหมาะและภาระของเราก็เบา.” (มัด. 11:28-30) เฉพาะเพียงแค่การเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีที่พระเยซูทรงปฏิบัติต่อผู้คนด้วยความรักและกรุณา แล้วทำตามตัวอย่างที่ดีของพระองค์ ก็ช่วยบรรเทาความเครียดได้มากอยู่แล้ว.
10, 11. มีใครบ้างในประชาคมที่อาจช่วยชูใจผู้อื่นได้?
10 เพื่อนคริสเตียนสามารถชูใจเราได้ด้วย. ตัวอย่างเช่น ขอให้เราพิจารณาวิธีที่ผู้ปกครองในประชาคมช่วยพี่น้องยโก. 5:14, 15) พี่น้องคนอื่น ๆ ในประชาคมก็สามารถช่วยชูใจได้ด้วย.
ที่มีปัญหาซึ่งทำให้ทุกข์ใจ. สาวกยาโกโบเขียนว่า “มีพวกท่านคนใดเจ็บป่วย [ฝ่ายวิญญาณ] หรือ? ให้เขาเชิญพวกผู้เฒ่าผู้แก่ในประชาคมมาหาเขา แล้วขอให้คนเหล่านั้นอธิษฐานเพื่อเขา.” ผลจะเป็นอย่างไร? “การอธิษฐานด้วยความเชื่อจะทำให้คนป่วยหายดี และพระยะโฮวาจะทรงโปรดให้เขาฟื้นตัว. ถ้าเขาได้ทำบาป พระองค์จะทรงให้อภัยเขา.” (11 ผู้หญิงมักจะคุยกับผู้หญิงด้วยกันในเรื่องปัญหาต่าง ๆ ได้ง่ายกว่า. โดยเฉพาะ พี่น้องหญิงที่มีอายุมากกว่าและมีประสบการณ์มากกว่าย่อมสามารถให้คำแนะนำที่ดีหลาย ๆ อย่างแก่พี่น้องหญิงที่อายุน้อยกว่า. พี่น้องหญิงเหล่านี้อาจเคยประสบปัญหาคล้าย ๆ กันในชีวิตของพวกเขา. ความเห็นอกเห็นใจและคุณลักษณะแบบผู้หญิงอาจช่วยได้มาก. (อ่านทิทุส 2:3-5) แน่นอน ผู้ปกครองและคนอื่น ๆ สามารถ “พูดชูใจคนทุกข์ใจ” ที่อยู่ท่ามกลางพวกเขา และพวกเขาควรทำเช่นนั้น. (1 เทส. 5:14, 15) นับว่าดีที่จะระลึกไว้เสมอว่าพระเจ้า “ทรงชูใจเราทุกครั้งที่ตกอยู่ในความทุกข์ลำบาก เพื่อเราจะชูใจคนที่ตกอยู่ในความทุกข์ลำบากต่าง ๆ ได้.”—2 โค. 1:4
12. เหตุใดจึงสำคัญที่เราจะเข้าร่วมการประชุมคริสเตียน?
12 วิธีหนึ่งที่สำคัญมากในการได้รับการชูใจก็คือการเข้าร่วมการประชุมคริสเตียนซึ่งมีการพิจารณาเรื่องต่าง ๆ จากคัมภีร์ไบเบิลที่ให้กำลังใจเรา. บันทึกในพระคัมภีร์บอกว่ายูดาและซีลัส “กล่าวให้กำลังใจพี่น้องหลายประการและช่วยให้พวกเขาเข้มแข็งขึ้น.” (กิจ. 15:32) ทั้งก่อนและหลังการประชุม พี่น้องในประชาคมจะสนทนากันอย่างที่ให้กำลังใจกัน. ดังนั้น แม้แต่เมื่อเราเป็นทุกข์เพราะปัญหาบางอย่าง ขอเราอย่าได้ปลีกตัว เพราะการทำอย่างนั้นจะไม่ทำให้อะไรดีขึ้น. (สุภา. 18:1) แทนที่จะเป็นอย่างนั้น เราควรทำตามคำแนะนำที่ได้รับการดลใจของอัครสาวกเปาโล ที่ว่า “ให้เราพิจารณากันและกันเพื่อเร้าใจให้เกิดความรักและการดี อย่าขาดการประชุมกันอย่างที่บางคนทำเป็นนิสัย แต่ให้ชูใจกัน และทำอย่างนั้นให้มากขึ้นเมื่อพวกท่านเห็นวันนั้นใกล้เข้ามา.”—ฮีบรู 10:24, 25
พระคำของพระเจ้าชูใจเรา
13, 14. จงชี้ให้เห็นว่าพระคัมภีร์ช่วยชูใจเราได้อย่างไร.
13 ไม่ว่าเราเป็นคริสเตียนที่รับบัพติสมาแล้วหรือเพิ่งเริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับพระเจ้าและพระประสงค์ของพระองค์ เราสามารถได้รับการชูใจอย่างมากจากพระคำของพระเจ้า. เปาโลเขียนว่า “ด้วยว่าทุกสิ่งที่เขียนไว้ก่อนแล้วก็เขียนไว้เพื่อสั่งสอนเรา เพื่อเราจะมีความหวังโดยความเพียรอดทนของเราและโดยการชูใจจากพระคัมภีร์.” (โรม 15:4) พระคัมภีร์บริสุทธิ์สามารถชูใจเราและทำให้เรา “มีคุณสมบัติครบถ้วน ถูกเตรียมไว้พร้อมสำหรับการดีทุกอย่าง.” (2 ติโม. 3:16, 17) แน่นอน การรู้ความจริงเกี่ยวพระประสงค์ของพระเจ้าและการมีความหวังแท้สำหรับอนาคตจะช่วยชูใจเราได้อย่างมาก. ดังนั้น ขอให้เราใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากพระคำของพระเจ้าและหนังสือ ที่อาศัยคัมภีร์ไบเบิลเป็นหลักซึ่งสามารถชูใจเราและเป็นประโยชน์แก่เราในหลาย ๆ ทาง.
14 พระเยซูทรงวางตัวอย่างที่ดีไว้สำหรับเราด้วยการใช้พระคัมภีร์ในการสอนและชูใจคนอื่น ๆ. ตัวอย่างเช่น ในการปรากฏพระกายครั้งหนึ่งหลังจากที่ทรงถูกปลุกให้คืนพระชนม์ พระองค์ ‘ทรงชี้แจงให้อัครสาวกสองคนของพระองค์เข้าใจพระคัมภีร์อย่างถี่ถ้วน.’ เมื่อพระองค์ตรัสกับพวกเขา พวกเขาถูกกระตุ้นใจอย่างมาก. (ลูกา 24:32) สอดคล้องกับตัวอย่างอันยอดเยี่ยมของพระเยซู อัครสาวกเปาโล “ถกเรื่องในพระคัมภีร์.” ชาวเมืองเบโรยาที่ฟังท่าน “รับฟังถ้อยคำ . . . ด้วยใจกระตือรือร้นอย่างยิ่งและค้นดูพระคัมภีร์อย่างรอบคอบทุกวัน.” (กิจ. 17:2, 10, 11) นับว่าเหมาะสมสักเพียงไรที่เราจะอ่านคัมภีร์ไบเบิลทุกวัน รับประโยชน์จากการอ่านพระคัมภีร์และจากหนังสือต่าง ๆ ของคริสเตียนที่เขียนไว้เพื่อจะชูใจเราและให้ความหวังแก่เราในสมัยที่ยุ่งยากลำบากนี้!
วิธีอื่น ๆ ที่จะชูใจคนอื่น
15, 16. มีอะไรบ้างที่เราอาจทำได้เพื่อช่วยเหลือและชูใจเพื่อนคริสเตียน?
15 เราสามารถช่วยเหลือและชูใจเพื่อนคริสเตียนได้ด้วยวิธีต่าง ๆ ที่ทำได้จริง. ตัวอย่างเช่น เราอาจช่วยซื้อของให้ผู้สูงอายุหรือเพื่อนร่วมความเชื่อที่เจ็บป่วย. เราอาจช่วยทำงานบ้าน ซึ่งการทำอย่างนั้นเป็นการแสดงความสนใจต่อพวกเขาเป็นส่วนตัว. (ฟิลิป. 2:4) เราอาจชมเชยเพื่อนผู้นมัสการเกี่ยวกับคุณลักษณะที่ดีของพวกเขา เช่น ความรัก การรู้จักแก้ปัญหา ความกล้าหาญ และความเชื่อ.
16 เพื่อจะชูใจผู้สูงอายุ เราอาจไปเยี่ยมพวกเขาและตั้งใจฟังพวกเขาเล่าประสบการณ์ในอดีตและพระพรที่เห็นเด่นชัดที่ได้รับจากการรับใช้พระยะโฮวา. ที่จริง การทำอย่างนี้อาจให้กำลังใจและชูใจเราเองเสียด้วยซ้ำ! เราอาจอ่านคัมภีร์ไบเบิลหรือหนังสือที่อธิบายคัมภีร์ไบเบิลให้พี่น้องที่เราไปเยี่ยมฟัง. เราอาจพิจารณาบทความในหอสังเกตการณ์ ที่จะศึกษาในสัปดาห์นั้น หรือเรื่องที่จะพิจารณาในการศึกษาพระคัมภีร์ประจำประชาคมในสัปดาห์นั้น. เราอาจชมดีวีดีเกี่ยวกับเรื่องราวในพระคัมภีร์ด้วยกันกับพวกเขา. นอกจากนั้น เราอาจอ่านหรือเล่าประสบการณ์บางอย่างที่ให้กำลังใจจากหนังสือต่าง ๆ ของสมาคม.
17, 18. ในฐานะผู้รับใช้ที่ภักดีของพระยะโฮวา ทำไมเราจึงแน่ใจได้ว่าพระองค์จะเกื้อหนุนและชูใจเรา?
17 ถ้าเราสังเกตว่าเพื่อนผู้นมัสการพระยะโฮวาคนหนึ่งจำเป็นต้องได้รับการชูใจ เราอาจเอ่ยถึงเขาในคำอธิษฐานส่วนตัวของเรา. (โรม 15:30; โกโล. 4:12) เมื่อเราเองรับมือปัญหาต่าง ๆ ในชีวิตและพยายามชูใจคนอื่น ๆ เราก็จะมีความเชื่อมั่นแบบเดียวกับผู้ประพันธ์เพลงสรรเสริญที่ร้องว่า “จงทอดภาระของท่านไว้กับพระยะโฮวา, และพระองค์จะทรงเป็นธุระให้. พระองค์จะไม่ยอมให้คนชอบธรรมแตกฉานซ่านเซ็นไป.” (เพลง. 55:22) จริงทีเดียว พระยะโฮวาจะทรงอยู่พร้อมเสมอที่จะชูใจและเกื้อหนุนเราในฐานะผู้รับใช้ที่ภักดีของพระองค์.
18 พระเจ้าทรงบอกผู้นมัสการพระองค์ในสมัยโบราณว่า “เราเอง คือเราเองผู้ชูใจเจ้า.” (ยซา. 51:12, พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับมาตรฐาน) พระยะโฮวาทรงทำอย่างเดียวกันนั้นเพื่อเรา และจะทรงอวยพรการกระทำและคำพูดที่ดีที่เราใช้ในการชูใจผู้โศกเศร้า. ไม่ว่าเรามีความหวังจะอยู่ในสวรรค์หรือบนแผ่นดินโลก เราแต่ละคนสามารถได้รับการชูใจจากถ้อยคำของเปาโลที่กล่าวกับเพื่อนคริสเตียนผู้ถูกเจิมว่า “ขอให้พระเยซูคริสต์เจ้าของเราและพระเจ้าพระบิดาของเรา ผู้ทรงรักเราและทรงประทานการชูใจตลอดไปและความหวังอันยอดเยี่ยมแก่เราด้วยพระกรุณาอันใหญ่หลวงนั้น ทรงชูใจพวกท่านและช่วยให้พวกท่านแน่วแน่ในการทำดี และการพูดที่ดีทุกอย่าง.”—2 เทส. 2:16, 17
คุณจำได้ไหม?
• งานของเราในการชูใจคนที่เป็นทุกข์โศกเศร้ามีขอบเขตกว้างขนาดไหน?
• มีอะไรบ้างที่เราสามารถทำได้เพื่อชูใจคนอื่น ๆ?
• มีหลักฐานอะไรในพระคัมภีร์ที่แสดงว่าพระยะโฮวาทรงชูใจประชาชนของพระองค์?
[คำถาม]
[ภาพหน้า 28]
คุณมีส่วนร่วมในการชูใจคนที่โศกเศร้าไหม?
[ภาพหน้า 30]
ทั้งคนหนุ่มสาวและผู้สูงอายุสามารถให้กำลังใจคนอื่น ๆ