ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

“พระยะโฮวาเป็นกำลังของข้าพเจ้า”

“พระยะโฮวาเป็นกำลังของข้าพเจ้า”

“พระ​ยะโฮวา​เป็น​กำลัง​ของ​ข้าพเจ้า”

เล่า​โดย โจน โควิลล์

ฉัน​เกิด​เดือน​กรกฎาคม ปี 1925 ที่​เมือง​ฮัดเดอร์สฟีลด์ ประเทศ​อังกฤษ. ฉัน​เป็น​ลูก​คน​เดียว​ของ​ครอบครัว​และ​สุขภาพ​ไม่​สู้​ดี​นัก. ที่​จริง พ่อ​เคย​พูด​ว่า “ลูก​โดน​ลม​เมื่อ​ไร ลูก​ก็​ไม่​สบาย​ทุก​ที.” และ​ดู​เหมือน​ว่า​เป็น​อย่าง​นั้น​จริง!

สมัย​ที่​ฉัน​เป็น​เด็ก นัก​เทศน์​นัก​บวช​อธิษฐาน​อย่าง​เร่าร้อน​ขอ​สันติภาพ แต่​เมื่อ​เกิด​สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่​สอง พวก​เขา​พา​กัน​อธิษฐาน​ขอ​ชัย​ชนะ. เรื่อง​นี้​ทำ​ให้​ฉัน​งง​และ​คิด​สงสัย. ตอน​นั้น แอนนี แรตคลิฟฟ์​มา​เยี่ยม​เรา เธอ​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา​คน​เดียว​ใน​ละแวก​บ้าน​ของ​เรา.

ฉัน​เรียน​รู้​ความ​จริง

แอนนี​ให้​หนังสือ​ความ​รอด​แก่​เรา​และ​ได้​เชิญ​แม่​ไป​ร่วม​พิจารณา​เรื่อง​ราว​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ซึ่ง​จัด​ขึ้น​ใน​บ้าน​ของ​แอนนี. * แม่​ชวน​ฉัน​ไป​ด้วย. ฉัน​ยัง​จำ​การ​พิจารณา​ครั้ง​แรก​นั้น​ได้. นั่น​คือ​เรื่อง​ค่า​ไถ่ และ​ฉัน​แปลก​ใจ​ที่​ไม่​รู้สึก​เบื่อ​เมื่อ​ฟัง​การ​สนทนา​โต้​ตอบ​กัน. การ​พิจารณา​ครั้ง​นั้น​มี​คำ​ตอบ​ให้​ฉัน​สำหรับ​ข้อ​สงสัย​หลาย​ข้อ. สัปดาห์​ต่อ​มา​เรา​ได้​ไป​ร่วม​อีก. คราว​นี้​มี​การ​อธิบาย​คำ​พยากรณ์​ของ​พระ​เยซู​เกี่ยว​กับ​สัญญาณ​ที่​บอก​ว่า​เรา​อยู่​ใน​สมัย​สุด​ท้าย. เมื่อ​เห็น​สภาพการณ์​ต่าง ๆ อัน​เลว​ร้าย​น่า​สลด​ใจ​ใน​โลก ฉัน​กับ​แม่​เข้าใจ​ได้​ทันที​ว่า​เรื่อง​ที่​เรา​เรียน​นี้​เป็น​ความ​จริง. วัน​นั้น เรา​ได้​รับ​เชิญ​ไป​ยัง​หอ​ประชุม​ราชอาณาจักร.

ณ หอ​ประชุม ฉัน​พบ​ไพโอเนียร์​สาว ๆ บาง​คน และ​ใน​จำนวน​นั้น​มี​จอยซ์ บาร์เบอร์ (ปัจจุบัน​คือ​เอลลิส) เธอ​ยัง​คง​ร่วม​รับใช้​กับ​ปีเตอร์ ผู้​เป็น​สามี​ที่​สำนัก​เบเธล กรุง​ลอนดอน. ฉัน​คิด​ว่า​ทุก​คน​ต้อง​ทำ​งาน​ไพโอเนียร์. ดัง​นั้น ฉัน​เริ่ม​งาน​ประกาศ 60 ชั่วโมง​ทุก​เดือน​ทันที ทั้ง ๆ ที่​ตอน​นั้น​ฉัน​ยัง​ไป​โรง​เรียน​อยู่.

อีก​ห้า​เดือน​ต่อ​มา วัน​ที่ 11 กุมภาพันธ์ 1940 ฉัน​และ​แม่​ได้​รับ​บัพติสมา ณ การ​ประชุม​หมวด​ใน​เมือง​แบรด​ฟอร์ด. พ่อ​ไม่​ขัด​ขวาง​ศาสนา​ใหม่​ของ​เรา แต่​พ่อ​ก็​ไม่​ได้​เป็น​พยาน​ฯ. ตอน​ที่​ฉัน​รับ​บัพติสมา​ก็​เริ่ม​จะ​มี​การ​ให้​คำ​พยาน​ตาม​ถนน. ฉัน​ร่วม​งาน​นี้​เช่น​กัน ด้วย​การ​สะพาย​กระเป๋า​วารสาร​และ​แขวน​ป้าย​ประกบ​ทั้ง​ด้าน​หน้า​และ​หลัง. วัน​เสาร์​วัน​หนึ่ง ฉัน​ถูก​มอบหมาย​ให้​ยืน​ใน​บริเวณ​ที่​ผู้​คน​เดิน​ขวักไขว่​ซื้อ​สินค้า​กัน. ฉัน​ยัง​คง​กลัว​หน้า​มนุษย์ และ​ก็​เป็น​ดัง​ที่​หวั่น​เกรง ดู​เหมือน​ว่า​นัก​เรียน​ทุก​คน​ใน​ชั้น​เดิน​เลี้ยว​มา​ทาง​ที่​ฉัน​ยืน​อยู่!

ปี 1940 ประชาคม​ที่​เรา​ร่วม​นั้น​จำเป็น​ต้อง​แบ่ง​เป็น​สอง​ประชาคม. เมื่อ​แบ่ง​เรียบร้อย​แล้ว เพื่อน​วัย​เดียว​กัน​กับ​ฉัน​เกือบ​ทั้ง​หมด​แยก​ไป​อยู่​อีก​ประชาคม​หนึ่ง. ฉัน​บ่น​เรื่อง​นี้​ต่อ​ผู้​ดู​ผู้​เป็น​ประธาน. เขา​พูด​ว่า “ถ้า​คุณ​ต้องการ​มี​เพื่อน​หนุ่ม ๆ สาว ๆ ก็​ออก​ไป​ประกาศ​สิ แล้ว​คุณ​จะ​พบ​พวก​เขา​ใน​เขต​งาน.” และ​แน่นอน ฉัน​ทำ​อย่าง​นั้น​จริง ๆ! ไม่​ช้า​ไม่​นาน ฉัน​ก็​ได้​พบ​เอลซี โนเบิล. เธอ​รับ​เอา​ความ​จริง​และ​เรา​กลาย​เป็น​เพื่อน​กัน​ตลอด​ชีวิต.

งาน​รับใช้​ประเภท​ไพโอเนียร์​และ​พระ​พร​มาก​มาย

ภาย​หลัง​จบ​โรง​เรียน ฉัน​ทำ​งาน​ให้​กับ​นัก​บัญชี​คน​หนึ่ง. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ฉัน​สังเกต​เห็น​ผู้​รับใช้​เต็ม​เวลา​หลาย​คน​มี​ความ​ชื่นชม​ยินดี และ​ฉัน​ยิ่ง​ปรารถนา​จะ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​โดย​การ​เป็น​ไพโอเนียร์. เดือน​พฤษภาคม 1945 ฉัน​มี​ความ​ยินดี​ที่​ได้​เริ่ม​รับใช้​ฐานะ​ไพโอเนียร์​พิเศษ. ตลอด​วัน​แรก​ที่​ทำ​งาน​ไพโอเนียร์ ฝน​ตก​หนัก​ทั้ง​วัน. กระนั้น ด้วย​ความ​ดีใจ​ที่​ได้​ออก​ไป​ประกาศ ฉัน​ไม่​รู้สึก​กังวล​เรื่อง​ฝน. จริง ๆ แล้ว การ​อยู่​นอก​บ้าน​ทุก​วัน​และ​ขี่​จักรยาน​ไป​ประกาศ​เป็น​การ​ออก​กำลัง​อย่าง​สม่ำเสมอ มี​ผล​ดี​ต่อ​สุขภาพ​ของ​ฉัน. ถึง​แม้​ฉัน​ไม่​เคย​หนัก​เกิน 42 กิโลกรัม แต่​ก็​ไม่​เจ็บ​ป่วย​ถึง​กับ​ทำ​ให้​การ​เป็น​ไพโอเนียร์​ของ​ฉัน​มี​อัน​ต้อง​ชะงัก​ไป. ตลอด​หลาย​ปี ฉัน​ประสบ​ด้วย​ตัว​เอง​ใน​ความ​หมาย​ตาม​ตัว​อักษร​ที่​ว่า ‘พระ​ยะโฮวา​เป็น​กำลัง​ของ​ข้าพเจ้า.’—เพลง. 28:7.

โดย​มี​เป้าหมาย​ใน​การ​จัด​ตั้ง​ประชาคม​ใหม่ ฉัน​ใน​ฐานะ​ไพโอเนียร์​พิเศษ​จึง​ถูก​ส่ง​ไป​ยัง​เมือง​ที่​ไม่​มี​พยาน​ฯ​เลย. ที​แรก​ฉัน​ประกาศ​ใน​ประเทศ​อังกฤษ​นาน​สาม​ปี ต่อ​จาก​นั้น​อีก​สาม​ปี​ประกาศ​ใน​ไอร์แลนด์. ระหว่าง​เป็น​ไพโอเนียร์​ใน​ลิสเบิร์น ไอร์แลนด์ ฉัน​นำ​การ​ศึกษา​กับ​ชาย​ผู้​หนึ่ง​ซึ่ง​เป็น​ผู้​ศิษยาภิบาล​ใน​โบสถ์​โปรเตสแตนต์. เมื่อ​เขา​ได้​เรียน​ความ​จริง​เกี่ยว​กับ​คำ​สอน​พื้น​ฐาน​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล เขา​ก็​นำ​ความ​รู้​ใหม่​นี้​ไป​สอน​ใน​โบสถ์​ของ​เขา. สานุศิษย์​บาง​คน​ใน​กลุ่ม​ได้​ฟ้อง​ผู้​ดู​แล​คริสตจักร และ​แน่นอน ศิษยาภิบาล​คน​นี้​จำ​ต้อง​ชี้​แจง​ให้​เหตุ​ผล. เขา​พูด​ว่า​เขา​สำนึก​ถึง​หน้า​ที่​ของ​คริสเตียน​ที่​ต้อง​บอก​สานุศิษย์​ว่า​เขา​เคย​สอน​หลาย​อย่าง​ที่​ไม่​ถูก​ต้อง. ถึง​แม้​ครอบครัว​ของ​เขา​ต่อ​ต้าน​อย่าง​รุนแรง แต่​เขา​ได้​อุทิศ​ชีวิต​แด่​พระ​ยะโฮวา​และ​รับใช้​พระองค์​อย่าง​ซื่อ​สัตย์​มั่นคง​กระทั่ง​สิ้น​ชีวิต.

ใน​เมือง​ลาร์น เขต​งาน​มอบหมาย​ของ​ฉัน​แห่ง​ที่​สอง​ใน​ไอร์แลนด์ ฉัน​ประกาศ​ที่​นั่น​คน​เดียว​นาน​หก​สัปดาห์ เนื่อง​จาก​เพื่อน​ไพโอเนียร์​ของ​ฉัน​ได้​ไป​ร่วม​การ​ประชุม​ใหญ่​การ​เพิ่ม​พูน​แห่ง​ระบอบ​ของ​พระเจ้า​ที่​นิวยอร์ก​ใน​ปี 1950. นั่น​เป็น​ช่วง​ที่​ฉัน​รู้สึก​แย่​มาก ๆ. ฉัน​ต้องการ​อย่าง​ยิ่ง​จะ​ไป​ร่วม​การ​ประชุม​ครั้ง​นั้น. กระนั้น ใน​ช่วง​หลาย​สัปดาห์​ระหว่าง​รับใช้​ใน​เขต​งาน ฉัน​ได้​ประสบ​หลาย​เหตุ​การณ์​ซึ่ง​ทำ​ให้​ฉัน​มี​กำลังใจ. ฉัน​ได้​พบ​ชาย​สูง​อายุ​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​เคย​รับ​หนังสือ​เล่ม​หนึ่ง​ของ​เรา​ไว้​เมื่อ 20 กว่า​ปี​ก่อน​หน้า​นั้น. ตลอด​เวลา​หลาย​ปี เขา​อ่าน​หนังสือ​เล่ม​นั้น​หลาย​ครั้ง​แทบ​ท่อง​จำ​ได้​ทั้ง​หมด. เขา​ได้​รับ​เอา​ความ​จริง​พร้อม​กับ​ลูก​ชาย​และ​ลูก​สาว.

รับ​การ​อบรม​ที่​โรง​เรียน​กิเลียด

ปี 1951 ฉัน​ได้​รับ​เชิญ​พร้อม​กับ​ไพโอเนียร์​สิบ​คน​จาก​ประเทศ​อังกฤษ​ไป​เป็น​นัก​เรียน​รุ่น​ที่ 17 ของ​โรง​เรียน​กิเลียด​ใน​เซาท์แลนซิง นิวยอร์ก. ฉัน​ชื่นชม​เสีย​นี่​กระไร​ที่​พวก​เรา​ได้​รับ​คำ​สอน​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล​ใน​ช่วง​หลาย​เดือน​นั้น! เมื่อ​ก่อน พี่​น้อง​หญิง​ยัง​ไม่​มี​โอกาส​เป็น​นัก​เรียน​ใน​โรง​เรียน​การ​รับใช้​ตาม​ระบอบ​ของ​พระเจ้า​ใน​ประชาคม แต่​ที่​กิเลียด พวก​เรา​ได้​รับ​มอบหมาย​เป็น​นัก​เรียน​บรรยาย​และ​รายงาน. นึก​ภาพ​เอา​เถอะ​ว่า​พวก​เรา​ประหม่า​และ​ตื่นเต้น​เพียง​ใด! ขณะ​ฉัน​บรรยาย​หน้า​ชั้น​ครั้ง​แรก มือ​ที่​จับ​กระดาษ​สั่น​ระริก​ตลอด​เวลา. บราเดอร์ แมกซ์เวลล์ เฟรนด์ ผู้​สอน​ให้​คำ​แนะ​นำ​ฉัน​ด้วย​คำ​พูด​ติด​ตลก​ว่า “คุณ​ไม่​ใช่​แค่​มี​อาการ​ประหม่า​ตอน​เริ่ม​ต้น​เหมือน​นัก​พูด​ที่​ดี​ทุก​คน​เท่า​นั้น แต่​คุณ​ประหม่า​ตั้ง​แต่​ต้น​จน​จบ.” ใน​ช่วง​การ​อบรม พวก​เรา​ทุก​คน​ได้​ปรับ​ปรุง​ความ​สามารถ​ของ​ตัว​เอง​ใน​การ​พูด​หน้า​ชั้น. เวลา​ที่​เรา​ได้​รับ​การ​ฝึก​อบรม​ผ่าน​ไป​เร็ว​เหลือ​เกิน และ​พวก​เรา​ที่​จบ​หลัก​สูตร​ได้​รับ​หน้า​ที่​มอบหมาย​ไป​ทำ​งาน​ต่าง​แดน​ใน​หลาย​ประเทศ. เขต​มอบหมาย​ของ​ฉัน​คือ​ประเทศ​ไทย!

“สยาม​เมือง​ยิ้ม”

ฉัน​ถือ​ว่า​ได้​รับ​ของ​ประทาน​จาก​พระ​ยะโฮวา​ที่​แอสทริด แอนเดอร์สัน​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​เป็น​เพื่อน​มิชชันนารี​ทำ​งาน​ด้วย​กัน​ใน​ประเทศ​ไทย. เรา​โดยสาร​เรือ​สินค้า​นาน​เจ็ด​สัปดาห์​กว่า​จะ​ถึง​ที่​หมาย​ปลาย​ทาง. เมื่อ​พวก​เรา​มา​ถึง​กรุงเทพ​ฯ เมือง​หลวง เรา​เห็น​เมือง​ที่​มี​ผู้​คน​พลุกพล่าน​ซื้อ​ขาย​ของ​ใน​ตลาด และ​มี​คู​คลอง​เป็น​เส้น​ทาง​สัญจร​เชื่อม​ต่อ​กัน. ปี 1952 ประเทศ​ไทย​มี​ผู้​ประกาศ​ข่าว​ราชอาณาจักร​ไม่​ถึง 150 คน.

เมื่อ​เรา​เห็น​วารสาร​หอสังเกตการณ์​ภาษา​ไทย​ครั้ง​แรก เรา​สงสัย​ว่า ‘เรา​จะ​สามารถ​อ่าน​ตัว​หนังสือ​แบบ​นี้​ได้​อย่าง​ไร​นะ?’ มัน​เป็น​ข้อ​ท้าทาย​โดย​เฉพาะ​ที่​จะ​อ่าน​คำ​ต่าง ๆ ด้วย​การ​ออก​เสียง​สูง​ต่ำ​ให้​ถูก​ต้อง. ตัว​อย่าง​เช่น คำ​ว่า “ข้าว” จะ​เริ่ม​ออก​เสียง​สูง​แล้ว​ลง​มา​ต่ำ. แต่​คำ​เดียว​กัน​นี้​ถ้า​ออก​เสียง​ต่ำ​จะ​หมาย​ถึง “ข่าว.” ดัง​นั้น ขณะ​ที่​เรา​ออก​ไป​ใน​งาน​ประกาศ เรา​ไม่​เฉลียว​ใจ​เลย​ที่​บอก​ประชาชน​ว่า “ดิฉัน​นำ​ข้าว​ดี​มา​บอก” แทน​ที่​จะ​เป็น “ข่าว​ดี”! แต่​ที​ละ​เล็ก​ที​ละ​น้อย และ​หลัง​จาก​เรา​เจอ​เรื่อง​ที่​ชวน​ให้​หัวเราะ​หลาย​ครั้ง เรา​ก็​พูด​ภาษา​นี้​ได้.

คน​ไทย​ยิ้ม​ง่าย. เหมาะ​สม​แล้ว​ที่​รับ​สมญา​ว่า​สยาม​เมือง​ยิ้ม. เขต​งาน​มอบหมาย​แรก​ของ​เรา​คือ​เมือง​โค​ราช (ปัจจุบัน​เรียก​ว่า​นครราชสีมา) เรา​ทำ​งาน​ประกาศ​ที่​นั่น​สอง​ปี. ต่อ​จาก​นั้น เรา​ถูก​มอบหมาย​ไป​เชียงใหม่. ชาว​ไทย​ส่วน​ใหญ่​นับถือ​ศาสนา​พุทธ​และ​ไม่​ค่อย​รู้​จัก​คัมภีร์​ไบเบิล. ระหว่าง​อยู่​ที่​โค​ราช ฉัน​เคย​นำ​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​กับ​นาย​ไปรษณีย์. เรา​พิจารณา​กัน​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​อับราฮาม​ปฐม​บรรพบุรุษ. เนื่อง​จาก​เขา​เคย​ได้​ยิน​ชื่อ​อับราฮาม เขา​พยัก​หน้า​แสดง​อาการ​รับ​รู้​อย่าง​ตื่นเต้น. แต่​ไม่​นาน​ฉัน​ก็​รู้​ว่า​เรา​ไม่​ได้​พูด​เรื่อง​อับราฮาม​คน​เดียว​กัน. นาย​ไปรษณีย์​นึก​ถึง​อับราฮาม ลินคอล์น อดีต​ประธานาธิบดี​ของ​สหรัฐ​ต่าง​หาก!

เรา​พึง​พอ​ใจ​เมื่อ​เรา​สอน​พระ​คัมภีร์​แก่​ชาว​ไทย​ที่​มี​หัวใจ​สุจริต และ​ใน​เวลา​เดียว​กัน คน​ไทย​ก็​สอน​เรา​ใน​เรื่อง​การ​ดำเนิน​ชีวิต​ที่​เรียบ​ง่าย. บทเรียน​ดัง​กล่าว​มี​ค่า เพราะ​บ้าน​มิชชันนารี​แห่ง​แรก​ใน​โค​ราช​ไม่​มี​ไฟฟ้า ไม่​มี​น้ำ​ประปา. การ​อยู่​ใน​เขต​งาน​มอบหมาย​เช่น​นั้น เรา “ได้​เรียน​รู้​เคล็ดลับ​ทั้ง . . . ของ​การ​อยู่​อย่าง​ที่​มี​บริบูรณ์​และ​การ​อยู่​อย่าง​ขัดสน.” เช่น​เดียว​กัน​กับ​อัครสาวก​เปาโล เรา​ได้​ประสบ​ว่า​การ ‘มี​กำลัง​โดย​พระองค์​ผู้​ทรง​ประทาน​กำลัง​แก่​ข้าพเจ้า’ หมาย​ความ​เช่น​ไร.—ฟิลิปปอย. 4:12, 13.

เพื่อน​ร่วม​งาน​คน​ใหม่​และ​เขต​งาน​ใหม่

ย้อน​ไป​เมื่อ​ปี 1945 ฉัน​ได้​ไป​เที่ยว​ลอนดอน. ระหว่าง​การ​เยือน​ครั้ง​นั้น ฉัน​พร้อม​ด้วย​ไพโอเนียร์​และ​พี่​น้อง​จาก​เบเธล​บาง​คน​ได้​ไป​ชม​พิพิธภัณฑสถาน​แห่ง​บริเตน. หนึ่ง​ใน​นั้น​คือ​แอลลัน โค​วิลล์ ซึ่ง​ต่อ​มา​ไม่​นาน​ได้​เข้า​เรียน​ใน​รุ่น​ที่ 11 ของ​โรง​เรียน​กิเลียด. เขา​ถูก​มอบหมาย​ไป​ที่​ประเทศ​ฝรั่งเศส และ​ภาย​หลัง​ไป​ที่​เบลเยียม. * ต่อ​มา ช่วง​ที่​ฉัน​ยัง​รับใช้​ฐานะ​มิชชันนารี​ใน​ประเทศ​ไทย เขา​ขอ​ฉัน​แต่งงาน​ด้วย และ​ฉัน​ได้​ตอบรับ​คำ​ขอ​ของ​เขา.

เรา​แต่งงาน​ใน​กรุง​บรัสเซลส์ ประเทศ​เบลเยียม เมื่อ​วัน​ที่ 9 กรกฎาคม 1955. ฉัน​ใฝ่ฝัน​อยู่​เสมอ​ที่​จะ​ไป​ดื่ม​น้ำ​ผึ้ง​พระ​จันทร์​ที่​ปารีส ดัง​นั้น แอลลัน​จึง​เตรียม​แผน​จะ​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​ใหญ่​ที่​นั่น​ใน​สัปดาห์​ถัด​ไป. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ทันที​ที่​เรา​ไป​ถึง แอลลัน​ถูก​ขอร้อง​ให้​เป็น​ล่าม​ตลอด​ช่วง​ที่​มี​การ​ประชุม​ใหญ่. ทุก​วัน​เขา​ออก​จาก​ที่​พัก​แต่​เช้า และ​กว่า​เรา​กลับ​ถึง​ที่​พัก​ก็​ดึก​แล้ว. ฉะนั้น เป็น​อัน​ว่า​ฉัน​ดื่ม​น้ำ​ผึ้ง​พระ​จันทร์​ใน​ปารีส ทว่า​ส่วน​ใหญ่​แล้ว ฉัน​มอง​เห็น​แอลลัน​จาก​ระยะ​ไกล—บน​เวที​โน่น! แม้​เป็น​เช่น​นั้น​ก็​ตาม ฉัน​ดีใจ​ที่​เห็น​สามี​ผู้​ซึ่ง​ฉัน​เพิ่ง​แต่งงาน​ด้วย​นั้น​กำลัง​รับใช้​พี่​น้อง​ชาย​หญิง และ​ไม่​มี​ข้อ​สงสัย​ใด ๆ คา​ใจ​ฉัน​เลย​ว่า หาก​พระ​ยะโฮวา​ทรง​เป็น​ส่วน​สำคัญ​ที่​สุด​ใน​ชีวิต​สมรส​ของ​เรา เรา​ย่อม​มี​ความ​สุข​อย่าง​แท้​จริง.

การ​สมรส​ยัง​นำ​ฉัน​สู่​เขต​งาน​ใหม่​อีก​แห่ง​หนึ่ง—เบลเยียม. เกือบ​ทุก​อย่าง​ที่​ฉัน​รู้​เรื่อง​ราว​เกี่ยว​กับ​เบลเยียม​ก็​คือ ประเทศ​นี้​เคย​เป็น​สมรภูมิ​หลาย​ครั้ง แต่​ไม่​นาน​จึง​ได้​มา​รู้​ว่า​ชาว​เบลเยียม​ส่วน​ใหญ่​รัก​ความ​สงบ. เขต​งาน​ของ​ฉัน​ยัง​หมาย​รวม​ไป​ถึง​การ​ที่​จะ​ต้อง​เรียน​ภาษา​ฝรั่งเศส​อีก​ด้วย ซึ่ง​เป็น​ภาษา​พูด​ใน​ภูมิภาค​ทาง​ใต้​ของ​ประเทศ.

ใน​ปี 1955 มี​ผู้​ประกาศ​มาก​กว่า 4,500 คน​ใน​เบลเยียม. เป็น​เวลา​เกือบ 50 ปี ที่​ฉัน​กับ​แอลลัน​รับใช้​ใน​เบเธล และ​เดิน​ทาง​เยี่ยม​หมวด. เริ่ม​แรก​ใน​ช่วง​สอง​ปี​ครึ่ง เรา​ใช้​จักรยาน​เป็น​พาหนะ ทั้ง​ขึ้น​เขา​ลง​ห้วย ไม่​ว่า​สภาพ​ดิน​ฟ้า​อากาศ​เป็น​อย่าง​ไร. ตลอด​เวลา​หลาย​ปี เรา​พัก​ค้าง​คืน​ที่​บ้าน​ของ​พี่​น้อง​พยาน​ฯ​มาก​กว่า 2,000 ครอบครัว! บ่อย​ครั้ง​ฉัน​พบ​เห็น​พี่​น้อง​ชาย​หญิง​ซึ่ง​สุขภาพ​ร่าง​กาย​ไม่​ค่อย​แข็งแรง แต่​พวก​เขา​ก็​ยัง​คง​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​ด้วย​สุด​กำลัง​ที่​มี​อยู่. ตัว​อย่าง​ของ​พวก​เขา​สนับสนุน​ฉัน​ที่​จะ​ไม่​ทิ้ง​งาน​รับใช้. พอ​สิ้น​สัปดาห์​ของ​การ​เยี่ยม​แต่​ละ​ประชาคม เรา​รู้สึก​ได้​รับ​การ​หนุน​กำลังใจ​เสมอ. (โรม 1:11, 12) แอลลัน​ได้​พิสูจน์​ตัว​เขา​เอง​ว่า​เป็น​เพื่อน​แท้. ถ้อย​คำ​ที่​ท่าน​ผู้​ประกาศ 4:9, 10 เป็น​จริง​สัก​เพียง​ใด​ที่​ว่า “สอง​คน​ก็​ดี​กว่า​คน​เดียว . . . ด้วย​ว่า​ถ้า​คน​หนึ่ง​ล้ม​ลง, อีก​คน​หนึ่ง​จะ​ได้​พยุง​ยก​เพื่อน​ของ​ตน​ให้​ลุก​ขึ้น”!

พระ​พร​มาก​หลาย​ใน​ชีวิต​เนื่อง​ด้วย​การ​รับใช้​ที่​ได้ ‘กำลัง​จาก​พระ​ยะโฮวา’

ใน​ช่วง​หลาย​ปี ฉัน​และ​แอลลัน​มี​ประสบการณ์​ที่​น่า​ยินดี​หลาย​ครั้ง​จาก​การ​ช่วย​บาง​คน​ให้​รับใช้​พระ​ยะโฮวา. อย่าง​เช่น ใน​ปี 1983 เรา​ได้​ไป​เยี่ยม​ประชาคม​ภาษา​ฝรั่งเศส​ใน​เมือง​แอนทเวิร์ป ที่​นั่น​เรา​พัก​กับ​ครอบครัว​หนึ่ง​ซึ่ง​ได้​ต้อนรับ​เบนจามิน บันดิวิลา บราเดอร์​หนุ่ม​จาก​สาธารณรัฐ​ซาอีร์​ด้วย (เวลา​นี้​คือ​สาธารณรัฐ​ประชาธิปไตย​คองโก). เบนจามิน​ย้าย​มา​เบลเยียม​เพื่อ​ศึกษา​ต่อ. เขา​บอก​พวก​เรา​ว่า “ผม​อิจฉา​พวก​คุณ​จริง ๆ ที่​ใช้​ชีวิต​แบบ​นี้ ซึ่ง​ได้​สละ​เวลา​เต็ม​ที่​ทำ​งาน​รับใช้​พระ​ยะโฮวา.” แอลลัน​ตอบ​ว่า “คุณ​พูด​ว่า​คุณ​อิจฉา​พวก​เรา แล้ว​คุณ​เอง​ยัง​มุ่ง​มั่น​แสวง​อาชีพ​ทาง​โลก. คุณ​คิด​หรือ​เปล่า​ว่า​มัน​ขัด​กัน?” การ​พูด​อย่าง​ตรง​ไป​ตรง​มา​คราว​นั้น​ทำ​ให้​เบนจามิน​คิด​ใคร่ครวญ​ชีวิต​ตัว​เอง. ภาย​หลัง เมื่อ​กลับ​ไป​ที่​ซาอีร์ เขา​ได้​เริ่ม​งาน​ไพโอเนียร์ และ​เวลา​นี้​รับใช้​ใน​ฐานะ​สมาชิก​คณะ​กรรมการ​สาขา.

ปี 1999 ฉัน​ต้อง​เข้า​รับ​การ​ผ่าตัด​เพื่อ​รักษา​แผล​ใน​หลอด​อาหาร. ตั้ง​แต่​นั้น น้ำหนัก​ตัว​ฉัน​เหลือ​เพียง 30 กิโลกรัม. ฉัน​เป็น “ภาชนะ​ดิน” ที่​บอบบาง​จริง ๆ. กระนั้น ฉัน​สำนึก​ใน​พระคุณ​ของ​พระ​ยะโฮวา​ที่​ทรง​ประทาน “กำลัง​ที่​มาก​กว่า​ปกติ” แก่​ฉัน. หลัง​การ​ผ่าตัด พระองค์​ทรง​โปรด​ให้​ฉัน​สามารถ​ร่วม​รับใช้​ใน​งาน​เดิน​ทาง​กับ​แอลลัน​ได้​อีก. (2 โค. 4:7) ครั้น​แล้ว ใน​เดือน​มีนาคม 2004 แอลลัน​ก็​สิ้น​ลม​ขณะ​นอน​หลับ. ฉัน​อาลัย​คิด​ถึง​เขา​มาก แต่​สิ่ง​ที่​ปลอบ​ประโลม​ฉัน​คือ​การ​รู้​ว่า​เขา​อยู่​ใน​ความ​ทรง​จำ​ของ​พระ​ยะโฮวา.

ตอน​นี้ ฉัน​อายุ 83 ปี มอง​ย้อน​เวลา​ที่​รับใช้​เต็ม​เวลา​มา​นาน​กว่า 63 ปี. ฉัน​ยัง​คง​ขันแข็ง​ทำ​งาน​รับใช้​โดย​นำ​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​ที่​บ้าน​และ​ใช้​โอกาส​ต่าง ๆ ทุก​วัน​พูด​ถึง​พระ​ประสงค์​ที่​น่า​พิศวง​ของ​พระ​ยะโฮวา. บาง​ครั้ง ฉัน​ประหลาด​ใจ​เหมือน​กัน​ว่า ‘ชีวิต​ฉัน​จะ​เป็น​อย่าง​ไร​ถ้า​ฉัน​ไม่​ได้​เริ่ม​งาน​ไพโอเนียร์​ใน​ปี 1945?’ ตอน​นั้น สุขภาพ​ไม่​แข็งแรง​ดู​เหมือน​เป็น​เหตุ​ผล​สม​ควร​ที่​จะ​ไม่​รับใช้​เต็ม​เวลา​ก็​ได้. แต่​ฉัน​รู้สึก​ขอบคุณ​เพียง​ใด​ที่​ยึด​เอา​งาน​ไพโอเนียร์​เมื่อ​อายุ​ยัง​น้อย! ฉัน​ถือ​ว่า​เป็น​สิทธิ​พิเศษ​ที่​ได้​ประสบ​ด้วย​ตัว​เอง​ว่า ถ้า​เรา​จัด​ให้​พระ​ยะโฮวา​เป็น​อันดับ​แรก พระองค์​จะ​ทรง​เป็น​กำลัง​ของ​เรา.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 6 หนังสือ​ความ​รอด​พิมพ์​ใน​ปี 1939. แต่​เดี๋ยว​นี้​งด​พิมพ์​แล้ว.

^ วรรค 22 ชีวประวัติ​ของ​บราเดอร์​โค​วิลล์​ปรากฏ​ใน​วารสาร​หอสังเกตการณ์ (ภาษา​อังกฤษ) ฉบับ 15 มีนาคม 1961.

[ภาพ​หน้า 18]

กับ​เพื่อน​ร่วม​งาน​มิชชันนารี แอสทริด แอนเดอร์สัน (ขวา​มือ)

[ภาพ​หน้า 18]

กับ​สามี​ใน​งาน​เดิน​ทาง​ปี 1956

[ภาพ​หน้า 20]

กับ​แอลลัน​ปี 2000