ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

วิธีปลูกฝังความรักต่อพระเจ้าในหัวใจของลูก

วิธีปลูกฝังความรักต่อพระเจ้าในหัวใจของลูก

วิธี​ปลูกฝัง​ความ​รัก​ต่อ​พระเจ้า​ใน​หัวใจ​ของ​ลูก

ทุก​วัน​นี้ นับ​ว่า​เป็น​ข้อ​ท้าทาย​จริง ๆ ที่​คน​เรา​จะ​ปลูกฝัง​สัมพันธภาพ​อัน​ใกล้​ชิด​กับ​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า. (บทเพลง​สรรเสริญ 16:8) จริง​ตาม​คำ​พยากรณ์ เรา​มี​ชีวิต​อยู่​ใน “วิกฤตกาล​ซึ่ง​ยาก​ที่​จะ​รับมือ​ได้.” คน​ส่วน​ใหญ่​เป็น “คน​รัก​การ​สนุกสนาน​แทน​ที่​จะ​รัก​พระเจ้า.” (2 ติโมเธียว 3:1-5, ล.ม.) ใช่​แล้ว ความ​รัก​แท้​ต่อ​พระเจ้า​เป็น​สิ่ง​ที่​หา​ได้​ยาก​จริง ๆ ใน​โลก​ทุก​วัน​นี้.

การ​พัฒนา​ความ​รัก​ต่อ​พระเจ้า​ใน​หัวใจ​ลูก​ไม่​อาจ​ปล่อย​ให้​เป็น​เรื่อง​ตาม​แต่​จะ​เป็น​ไป. เรา​ต้อง​ปลูกฝัง​ความ​รัก​ต่อ​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ใน​หัวใจ​ลูก​ของ​เรา. เรา​จะ​ทำ​เช่น​นี้​ได้​โดย​วิธี​ใด?

การ​สื่อ​ความ​แบบ​เปิด​อก

เรา​สามารถ​ปลูกฝัง​ความ​รัก​ต่อ​พระเจ้า​ใน​หัวใจ​ลูก​ได้​หาก​หัวใจ​ของ​เรา​เอง​เปี่ยม​ด้วย​ความ​รัก​ต่อ​พระองค์. (ลูกา 6:40) คัมภีร์​ไบเบิล​ชี้​แจง​เรื่อง​นี้​เมื่อ​กล่าว​ว่า “เจ้า​จง​รัก​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ของ​เจ้า​ด้วย​สุด​ใจ, สุด​จิตต์​ของ​เจ้า, และ​ด้วย​สิ้น​สุด​กำลัง​ของ​เจ้า. และ​ถ้อย​คำ​เหล่า​นี้, ซึ่ง​เรา​สั่ง​ไว้​แก่​เจ้า​ทั้ง​หลาย​ใน​วัน​นี้, ก็​ให้​ตั้ง​อยู่​ใน​ใจ​ของ​เจ้า​ทั้ง​หลาย; และ​จง​อุตส่าห์​สั่ง​สอน​บุตร​ทั้ง​หลาย​ของ​เจ้า​ด้วย​ถ้อย​คำ​เหล่า​นี้.”—พระ​บัญญัติ 6:4-7.

เรา​จะ​ปลูกฝัง​ความ​รัก​ต่อ​พระเจ้า​ใน​หัวใจ​ลูก​ของ​เรา​ได้​โดย​วิธี​ใด? ประการ​แรก เรา​ต้อง​รู้​สิ่ง​ที่​อยู่​ใน​หัวใจ​ลูก​ของ​เรา. ประการ​ที่​สอง เรา​ต้อง​เผย​ให้​เห็น​สิ่ง​ที่​อยู่​ใน​หัวใจ​ของ​เรา​เอง.

ระหว่าง​เดิน​ทาง​ไป​บ้าน​เอ็มมาอู​กับ​สาวก​สอง​คน ที​แรก​พระ​เยซู​คริสต์​ทรง​สนับสนุน​พวก​เขา​ให้​พูด​ออก​มา​ใน​เรื่อง​ที่​เขา​คาด​หวัง​และ​กังวล. เฉพาะ​หลัง​จาก​ฟัง​พวก​เขา​พูด​พอ​สมควร​แล้ว พระ​เยซู​จึง​แก้ไข​ความ​คิด​ของ​เขา​โดย​การ​อธิบาย​พระ​คัมภีร์. ภาย​หลัง​พวก​เขา​ออก​ความ​เห็น​ว่า “ใจ​ของ​เรา​เร่าร้อน​ภาย​ใน​เรา​เมื่อ​พระองค์​ทรง​พูด​กับ​เรา . . . มิ​ใช่​หรือ?” การ​สนทนา​นั้น​เป็น​ตัว​อย่าง​ของ​การ​สื่อ​ความ​แบบ​เปิด​อก. (ลูกา 24:15-32) เรา​จะ​เข้าใจ​ความ​รู้สึก​ของ​ลูก​ได้​อย่าง​ไร?

ไม่​นาน​มา​นี้ ได้​มี​การ​ถาม​บิดา​มารดา​บาง​คน​ซึ่ง​ตอน​นี้​ลูก ๆ ของ​เขา​เป็น​ผู้​ใหญ่​แล้ว​หรือ​กำลัง​จะ​เป็น​ผู้​ใหญ่​และ​เป็น​ตัว​อย่าง​ที่​ดี​ใน​ประชาคม​ใน​เรื่อง​การ​สื่อ​ความ​แบบ​เปิด​อก. ตัว​อย่าง​เช่น เกลน​ซึ่ง​อยู่​ใน​เม็กซิโก​มี​ลูก​สี่​คน​ที่​เป็น​ผู้​ใหญ่​แล้ว. * เขา​กล่าว​ว่า “การ​สื่อ​ความ​อย่าง​เปิด​อก​ระหว่าง​พ่อ​แม่​กับ​ลูก​ไม่​ได้​เกิด​ขึ้น​โดย​อัตโนมัติ. ผม​กับ​ภรรยา​ตก​ลง​กัน​ที่​จะ​ใช้​เวลา​น้อย​ลง​กับ​กิจกรรม​ที่​ไม่​สำคัญ​เพื่อ​เรา​จะ​ใช้​เวลา​มาก​ขึ้น​กับ​ลูก ๆ ได้. ตอน​ที่​พวก​เขา​อยู่​ใน​ช่วง​วัยรุ่น บาง​ครั้ง​เรา​ใช้​เวลา​ตลอด​ช่วง​เย็น​กับ​พวก​เขา พูด​คุย​กัน​ไม่​ว่า​เรื่อง​ใด​ก็​ตาม​ที่​พวก​เขา​อยาก​คุย. ตอน​รับประทาน​อาหาร​ก็​เช่น​เดียว​กัน โดย​ฟัง​ลูก ๆ สนทนา​กัน เรา​จะ​เข้าใจ​ปัญหา​ที่​พวก​เขา​มี​และ​ค่อย ๆ แก้ไข​แนว​โน้ม​ที่​ผิด​ของ​พวก​เขา บ่อย​ครั้ง​โดย​ที่​พวก​เขา​ไม่​รู้​ตัว.”

การ​สื่อ​ความ​แบบ​เปิด​อก​ยัง​เกี่ยว​ข้อง​กับ​การ​เผย​สิ่ง​ที่​อยู่​ใน​หัวใจ​ของ​เรา​เอง​ด้วย. พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “คน​ดี​ก็​ย่อม​เอา​ของ​ดี​ออก​จาก​คลัง​ดี​แห่ง​ใจ​ของ​ตน, . . . เพราะ​ว่า​ใจ​เต็ม​บริบูรณ์​อย่าง​ไร​ปาก​ก็​พูด​ออก​อย่าง​นั้น.” (ลูกา 6:45) โทชิกิ​ซึ่ง​มี​ลูก​สาม​คน​ที่​เป็น​ผู้​เผยแพร่​เต็ม​เวลา​ใน​ญี่ปุ่น​กล่าว​ว่า “ผม​เล่า​ให้​พวก​เขา​ฟัง​หลาย​ครั้ง​ว่า​ทำไม​ผม​จึง​มี​ความ​เชื่อ​ใน​พระ​ยะโฮวา—วิธี​ที่​ผม​ได้​มา​เชื่อ​อย่าง​สุด​หัวใจ​ว่า​พระองค์​ทรง​ดำรง​อยู่​และ​ประสบการณ์​ของ​ผม​เอง​ใน​ชีวิต​ทำ​ให้​ผม​เชื่อ​มั่น​อย่าง​ไร​ว่า​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​ความ​จริง​และ​เป็น​เครื่อง​นำ​ทาง​ที่​ดี​ที่​สุด​ใน​ชีวิต.” ซินดี​ซึ่ง​อยู่​ใน​เม็กซิโก​กล่าว​ว่า “สามี​ของ​ดิฉัน​ได้​อธิษฐาน​กับ​ลูก ๆ เสมอ. เมื่อ​ลูก​ได้​ฟัง​คำ​พูด​อย่าง​จริง​ใจ​ของ​พ่อ พวก​เขา​รู้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ไม่​ใช่​เป็น​เรื่อง​ใน​จินตนาการ.”

อิทธิพล​ที่​มี​พลัง​จาก​ตัว​อย่าง​ของ​เรา

แนว​ทาง​ชีวิต​ของ​เรา​มี​พลัง​ยิ่ง​กว่า​คำ​พูด​เสีย​อีก เพราะ​นั่น​แสดง​ให้​ลูก​ของ​เรา​เห็น​ว่า​เรา​รัก​พระเจ้า​มาก​เพียง​ไร. โดย​สังเกต​ว่า​พระ​เยซู​คริสต์​ทรง​เชื่อ​ฟัง​พระ​ยะโฮวา ผู้​คน​จึง​เข้าใจ​ได้​ว่า​พระองค์​มี​ความ​รัก​อัน​ลึกซึ้ง​ต่อ​พระเจ้า. พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “เพื่อ​โลก​จะ​ได้​รู้​ว่า​เรา​รัก​พระ​บิดา และ​พระ​บิดา​ได้​ตรัส​สั่ง​เรา​อย่าง​ไร เรา​จึง​กระทำ​อย่าง​นั้น.”—โยฮัน 14:31.

แกเรท พยาน​พระ​ยะโฮวา​คน​หนึ่ง​ใน​เวลส์​ออก​ความ​เห็น​ว่า “ลูก ๆ ของ​เรา​ต้อง​เห็น​ว่า​เรา​รัก​พระ​ยะโฮวา​และ​เห็น​ว่า​เรา​พยายาม​ทำ​สิ่ง​ต่าง ๆ ตาม​แนว​ทาง​ของ​พระองค์. ตัว​อย่าง​เช่น ลูก ๆ เห็น​ว่า ผม​ยอม​รับ​ความ​ผิด​พลาด​ของ​ตัว​เอง​เพราะ​เชื่อ​ฟัง​สิ่ง​ที่​พระเจ้า​ทรง​บอก​เรา. ตอน​นี้​ลูก ๆ พยายาม​ทำ​แบบ​นั้น.”

เกรก​ซึ่ง​เป็น​ชาว​ออสเตรเลีย​กล่าว​ว่า “เรา​ต้องการ​ให้​ลูก ๆ เห็น​ว่า​ความ​จริง​เป็น​สิ่ง​สำคัญ​ใน​ชีวิต​เรา. เมื่อ​เรา​ทำ​การ​ตัดสิน​ใจ​ใน​เรื่อง​งาน​หรือ​นันทนาการ ที​แรก​เรา​พิจารณา​ว่า​พันธะ​หน้า​ที่​คริสเตียน​ของ​เรา​จะ​ได้​รับ​ผล​กระทบ​อย่าง​ไร. เรา​รู้สึก​ยินดี​ที่​สังเกต​ว่า​ลูก​สาว​วัย 19 ปี​ของ​เรา​ได้​ทำ​เช่น​นั้น​ใน​การ​รับใช้​เป็น​ไพโอเนียร์​สมทบ.”

การ​ช่วย​ลูก​ของ​เรา​ให้​เข้าใจ​พระเจ้า

เรา​ไม่​สามารถ​รัก​หรือ​ไว้​วางใจ​ใคร​บาง​คน​ที่​เรา​ไม่​เข้าใจ. เมื่อ​อัครสาวก​เปาโล​ต้องการ​ให้​คริสเตียน​ใน​เมือง​ฟิลิปปี​เติบโต​ใน​ความ​รัก​ที่​พวก​เขา​มี​ต่อ​พระ​ยะโฮวา ท่าน​ได้​เขียน​ว่า “ข้าพเจ้า​อธิษฐาน​อย่าง​นี้​อยู่​เรื่อย​ไป เพื่อ​ว่า​ความ​รัก​ของ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​จะ​อุดม​ยิ่ง ๆ ขึ้น​พร้อม​ด้วย​ความ​รู้​ถ่องแท้​และ​ความ​สังเกต​เข้าใจ​ครบ​ถ้วน.” (ฟิลิปปอย 1:9, ล.ม.) ฟัลโคเนริโอ​ซึ่ง​เลี้ยง​ดู​ลูก​สี่​คน​ใน​เปรู​กล่าว​ว่า “การ​อ่าน​และ​การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​ประจำ​กับ​ลูก ๆ เสริม​สร้าง​ความ​เชื่อ​ของ​พวก​เขา. บาง​ครั้ง​ผม​ละเลย​ไม่​ได้​ศึกษา​กับ​พวก​เขา และ​ก็​ได้​เห็น​ว่า​ความ​รัก​ที่​พวก​เขา​มี​ต่อ​พระเจ้า​ลด​น้อย​ลง.” แกรี​จาก​ออสเตรเลีย​กล่าว​ว่า “บ่อย​ครั้ง​ผม​แสดง​ให้​ลูก ๆ เห็น​หลักฐาน​ที่​ว่า​คำ​พยากรณ์​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​กำลัง​สำเร็จ​เป็น​จริง. ผม​ยัง​ชี้​ถึง​ผล​ประโยชน์​ของ​การ​นำ​หลักการ​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​มา​ใช้. การ​ที่​ครอบครัว​ของ​เรา​มี​การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​ประจำ​เป็น​ปัจจัย​สำคัญ​ที่​จะ​เสริม​สร้าง​ความ​เชื่อ​ของ​พวก​เขา.”

ความ​รู้​จะ​เข้า​ถึง​หัวใจ​เด็ก​ได้​ดี​ที่​สุด​ใน​บรรยากาศ​ที่​ผ่อน​คลาย​แต่​ก็​เป็น​แบบ​ที่​น่า​นับถือ ซึ่ง​การ​เรียน​รู้​เป็น​สิ่ง​ที่​ทำ​ให้​เกิด​ความ​ยินดี​ใน​บรรยากาศ​เช่น​นั้น. (ยาโกโบ 3:18) ฌอน​กับ​พอลีน​จาก​บริเตน​ซึ่ง​มี​ลูก​สี่​คน​บอก​ว่า “ระหว่าง​การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ใน​ครอบครัว เรา​พยายาม​ไม่​ดุ​ด่า​ลูก ๆ ถึง​แม้​พวก​เขา​เอะอะ​ตึงตัง​กัน​อยู่​บ้าง. เรา​นำ​การ​ศึกษา​ใน​วิธี​ที่​หลาก​หลาย. บาง​ครั้ง​เรา​ขอ​ให้​พวก​เขา​เลือก​เรื่อง​ที่​จะ​ศึกษา. เรา​ใช้​วีดิทัศน์​ที่​องค์การ​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ได้​จัด​ทำ​ขึ้น. บาง​ครั้ง​เรา​เล่น​ซ้ำ​วีดิทัศน์​ตอน​หนึ่ง​หรือ​หยุด​ไว้​ก่อน​เพื่อ​ให้​มี​การ​อภิปราย​กัน.” จาก​บริเตน​ด้วย มารดา​คน​หนึ่ง​ชื่อ​คิม​กล่าว​ว่า “ดิฉัน​เตรียม​ตัว​สำหรับ​การ​ศึกษา​ใน​ครอบครัว​อย่าง​ละเอียด​เพื่อ​ดิฉัน​จะ​สามารถ​ใช้​คำ​ถาม​ที่​จะ​ทำ​ให้​ลูก ๆ คิด. เรา​เพลิดเพลิน​กับ​การ​ศึกษา. เรา​หัวเราะ​กัน​มาก​ที​เดียว.”

การ​เลือก​เพื่อน

ความ​รัก​ที่​มี​ต่อ​พระ​ยะโฮวา​และ​ความ​หยั่ง​รู้​ค่า​ต่อ​การ​นมัสการ​แท้​อาจ​พัฒนา​ขึ้น​ใน​ตัว​ลูก​ของ​เรา​ได้​โดย​ง่าย​หาก​คน​ที่​เป็น​มิตร​กับ​พระเจ้า​อยู่​รอบ​ตัว​เขา. การ​เตรียม​การ​เพื่อ​ให้​ลูก ๆ ของ​เรา​คบหา​กับ​เพื่อน ๆ ซึ่ง​จะ​พูด​คุย​และ​เล่น​ด้วย​อย่าง​ที่​เป็น​ประโยชน์​อาจ​ต้อง​ใช้​ความ​พยายาม. แต่​การ​ทำ​เช่น​นั้น​นับ​ว่า​คุ้มค่า​ที​เดียว! นอก​จาก​นี้ นับ​ว่า​สม​ควร​ที่​จะ​หา​โอกาส​ให้​ลูก ๆ ของ​เรา​พบ​ปะ​กับ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ผู้​ซึ่ง​ให้​งาน​รับใช้​เต็ม​เวลา​เป็น​งาน​ประจำ​ชีพ​ของ​เขา. หลาย​คน​ที่​เลือก​แนว​ทาง​ดัง​กล่าว​ทำ​เช่น​นั้น​เนื่อง​จาก​การ​คบหา​กับ​ผู้​รับใช้​ของ​พระเจ้า​ที่​มี​ใจ​แรง​กล้า. พี่​น้อง​หญิง​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​ได้​มา​เป็น​มิชชันนารี​กล่าว​ว่า “คุณ​พ่อ​คุณ​แม่​ของ​ดิฉัน​ได้​เชิญ​พวก​ไพโอเนียร์​มา​รับประทาน​อาหาร​ที่​บ้าน​ของ​เรา​ใน​หลาย​โอกาส. เห็น​ได้​ชัด​ว่า​พวก​เขา​มี​ความ​สุข​จริง ๆ ใน​งาน​รับใช้​จน​ดิฉัน​อยาก​รับใช้​พระเจ้า​ใน​แบบ​เดียว​กัน.”

แน่นอน เจตคติ​ของ​ลูก​เรา​อาจ​ได้​รับ​ผล​กระทบ​ทั้ง​ใน​ทาง​ที่​ดี​และ​ไม่​ดี. ดัง​นั้น อันตราย​ของ​การ​คบหา​ที่​ไม่​ดี​จึง​ทดสอบ​ทักษะ​ของ​เรา​ฐานะ​เป็น​บิดา​มารดา. (1 โกรินโธ 15:33) นับ​ว่า​เป็น​ศิลปะ​อย่าง​หนึ่ง​ที่​จะ​สอน​พวก​เด็ก ๆ ให้​รู้​วิธี​หลีก​เลี่ยง​การ​สังสรรค์​กับ​คน​เหล่า​นั้น​ที่​ไม่​ได้​รัก​พระ​ยะโฮวา​ทั้ง​ไม่​รู้​จัก​พระองค์. (สุภาษิต 13:20) ฌอน​ที่​กล่าว​ถึง​ก่อน​หน้า​นี้​บอก​ว่า “เรา​สอน​ลูก ๆ ให้​มี​ความ​สัมพันธ์​ฉัน​มิตร​ใน​การ​ทำ​งาน​ร่วม​กับ​เพื่อน​นัก​เรียน แต่​ให้​ทิ้ง​ความ​สัมพันธ์​ดัง​กล่าว​ไว้​ที่​โรง​เรียน. ลูก​ของ​เรา​เข้าใจ​เหตุ​ผล​ที่​พวก​เขา​ไม่​ควร​เข้า​ร่วม​ใน​กิจกรรม​นอก​หลัก​สูตร​หรือ​การ​แข่งขัน​กีฬา​ของ​โรง​เรียน.”

คุณค่า​ของ​การ​ฝึก​อบรม

โดย​การ​ฝึก​อบรม​ลูก ๆ ให้​อธิบาย​ความ​เชื่อ​ของ​เขา​แก่​คน​อื่น เรา​ช่วย​พวก​เขา​ให้​ประสบ​ความ​ยินดี​ใน​การ​แสดง​ความ​รัก​ต่อ​พระเจ้า. มาร์ก​ซึ่ง​อยู่​ใน​สหรัฐ​กล่าว​ว่า “เรา​ต้องการ​ให้​ลูก​ชาย​ทั้ง​สอง​ของ​เรา​รู้สึก​ว่า​พวก​เขา​สามารถ​พูด​ถึง​ความ​เชื่อ​ของ​เขา​กับ​คน​อื่น​ได้​ไม่​ว่า​เวลา​ใด ๆ ไม่​เพียง​แต่​เมื่อ​พวก​เขา​เตรียม​ตัว​เพื่อ​เข้า​ร่วม​ใน​งาน​เผยแพร่​แก่​สาธารณชน​อย่าง​เป็น​ทาง​การ. ดัง​นั้น เมื่อ​เรา​ไป​พักผ่อน​ที่​ไหน​สัก​แห่ง เช่น ไป​สวน​สาธารณะ, ชาย​หาด, หรือ​ไป​เที่ยว​ป่า เรา​เอา​คัมภีร์​ไบเบิล​และ​สรรพหนังสือ​เกี่ยว​กับ​พระ​คัมภีร์​ติด​ตัว​ไป​ด้วย และ​เรา​พูด​คุย​กับ​ผู้​คน​ที่​นั่น​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​ต่าง ๆ ที่​เรา​เชื่อ. เด็ก ๆ ชอบ​จริง ๆ กับ​การ​ให้​คำ​พยาน​แบบ​ไม่​เป็น​ทาง​การ​พร้อม​กับ​เรา​ใน​ลักษณะ​นี้. พวก​เขา​เข้า​ร่วม​ใน​การ​สนทนา​และ​พูด​ถึง​ความ​เชื่อ​ของ​เขา.”

อัครสาวก​โยฮัน​ผู้​ชรา​ได้​ช่วย​หลาย​คน​ให้​เติบโต​ใน​ความ​รัก​ที่​พวก​เขา​มี​ต่อ​พระเจ้า. ท่าน​ได้​เขียน​เกี่ยว​กับ​พวก​เขา​ว่า “ไม่​มี​เหตุ​อัน​ใด​ที่​จะ​ทำ​ให้​ข้าพเจ้า​รู้สึก​ขอบคุณ​ยิ่ง​ไป​กว่า​สิ่ง​เหล่า​นี้ คือ​ที่​ข้าพเจ้า​ได้​ยิน​ว่า​ลูก [ฝ่าย​วิญญาณ] ทั้ง​หลาย​ของ​ข้าพเจ้า​ดำเนิน​อยู่​ใน​ความ​จริง​ต่อ ๆ ไป.” (3 โยฮัน 4, ล.ม.) หาก​เรา​ปลูกฝัง​ความ​รัก​ต่อ​พระเจ้า​ใน​หัวใจ​ลูก​ของ​เรา เรา​จะ​มี​ความ​ยินดี​อย่าง​เดียว​กัน​นั้น​แน่นอน.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 8 บาง​ชื่อ​เป็น​นาม​สมมุติ.

[ภาพ​หน้า 9]

การ​พูด​คุย​แบบ​เปิด​อก​ใน​เรื่อง​เกี่ยว​กับ​ความ​เชื่อ​ไม่​ได้​เกิด​ขึ้น​โดย​บังเอิญ

[ภาพ​หน้า 10]

จง​ฝึก​อบรม​บุตร​ของ​คุณ​ให้​แสดง​ความ​รัก​ต่อ​พระเจ้า

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

Courtesy of Green Chimneys Farm