ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

การเติบโตที่ยังความสดชื่นบนเกาะแสนสวย

การเติบโตที่ยังความสดชื่นบนเกาะแสนสวย

การ​เติบโต​ที่​ยัง​ความ​สดชื่น​บน​เกาะ​แสน​สวย

โดย​ไม่​ต้อง​สงสัย ผู้​มา​เยือน​ไต้หวัน​คง​ต้อง​รู้สึก​ประทับใจ​ที่​เห็น​ความ​เขียว​ชอุ่ม​ของ​ป่า​พันธุ์​ไม้​เขต​ร้อน​ขึ้น​ปก​คลุม​เกาะ​อย่าง​หนา​แน่น. เมื่อ​ถึง​ฤดู​เกี่ยว ทุ่ง​ข้าว​เขียว​ขจี​เปลี่ยน​เป็น​ทุ่ง​รวง​ทอง. ทิว​ป่า​ที่​งดงาม​เรียด​ไป​ตาม​ไหล่​เขา. ต่าง​จาก​เมือง​ใหญ่ ๆ ซึ่ง​คลาคล่ำ​ไป​ด้วย​ผู้​คน ความ​เขียว​ชอุ่ม​ใน​ไร่​นา​และ​บน​ภูเขา​ยัง​ความ​สดชื่น​ได้​อย่าง​แท้​จริง. ตาม​จริง​แล้ว นั่น​คือ​สิ่ง​ที่​กระตุ้น​ชาว​ตะวัน​ตก​คน​แรก​ซึ่ง​ได้​เห็น​สภาพ​บน​เกาะ​แห่ง​นี้​ให้​ตั้ง​ชื่อ​ว่า​อิลฮา ฟอร์โมซา หรือ “เกาะ​แสน​สวย.”

ใช่​แล้ว ไต้หวัน​สวย​จริง ๆ ทว่า​เป็น​เกาะ​ขนาด​เล็ก ความ​ยาว​เพียง 390 กิโลเมตร ส่วน​กว้าง​ที่​สุด​ราว ๆ 160 กิโลเมตร. ภูมิ​ประเทศ​ส่วน​ใหญ่​ของ​เกาะ​เป็น​เทือก​เขา​สูง. ภูเขา​ยู่ซัน (ภูเขา​มอร์ริสัน) สูง​กว่า​ภูเขา​ฟูจิ​ของ​ญี่ปุ่น หรือ​ภูเขา​คุก​แห่ง​นิวซีแลนด์. รอบ ๆ เทือก​เขา​ตอน​กลาง​ลง​มา​จรด​ชายฝั่ง​ทะเล​เป็น​ที่​ราบ​แคบ ๆ มี​ประชากร​ชาว​ไต้หวัน​อยู่​อาศัย​อย่าง​เบียด​เสียด ปัจจุบัน​มี​มาก​กว่า 22 ล้าน​คน.

การ​เจริญ​เติบโต​แนว​ใหม่

อย่าง​ไร​ก็​ตาม การ​เติบโต​อีก​อย่าง​หนึ่ง​ปรากฏ​ชัด​มาก​ขึ้น​เรื่อย ๆ ใน​ไต้หวัน นั่น​คือ​การ​เติบโต​ด้าน​การ​นมัสการ​พระ​ยะโฮวา. ทั้ง​นี้​สะท้อน​ให้​เห็น​จาก​การ​ที่​คน​หนุ่ม​คน​ชรา​แสดง​ใจ​แรง​กล้า​เมื่อ​เขา​ได้​มา​รู้​จัก​พระ​ยะโฮวา พระเจ้า​เที่ยง​แท้. สิ่ง​ที่​ยัง​ความ​ประทับใจ​อย่าง​แท้​จริง​คือ​การ​สังเกต​เห็น​จำนวน​คน​เหล่า​นั้น​ที่​เพิ่ม​ขึ้น​ได้​ทำ​งาน​อย่าง​กระตือรือร้น​ช่วยเหลือ​ผู้​อื่น​เรียน​รู้​เรื่อง​พระ​ยะโฮวา​และ​พระ​ประสงค์​ของ​พระองค์.

เมื่อ​เติบโต​ก็​มี​ความ​จำเป็น​ต้อง​ขยาย. เดือน​ธันวาคม 1990 ได้​มี​การ​จัด​ซื้อ​ที่​ดิน​เพื่อ​ขยาย​สำนักงาน​สาขา​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ให้​กว้าง​ใหญ่​ขึ้น. อาคาร​สำนักงาน​เดิม​ใน​ไทเป​ค่อนข้าง​เล็ก ไม่​เหมาะ​สำหรับ​งาน​เอา​ใจ​ใส่​ดู​แล​ผู้​ประกาศ​ราชอาณาจักร 1,777 คน​ใน​ไต้หวัน​ตอน​นั้น. หลัง​จาก​กลุ่ม​อาสา​สมัคร​ต่าง​วัย​ทั้ง​ใน​ท้องถิ่น​และ​จาก​ต่าง​ประเทศ​ทำ​งาน​หนัก​อยู่​หลาย​ปี อาคาร​สำนักงาน​ใหม่​ที่​สวย​งาม​ใน​ซิงอู​ก็​เสร็จ​สมบูรณ์​พร้อม​ใช้​เมื่อ​เดือน​สิงหาคม ปี 1994. เวลา​นั้น​มี 2,515 คน​ประกาศ​ข่าว​ดี​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล พระ​คำ​ของ​พระเจ้า. สิบ​ปี​ต่อ​มา จำนวน​นี้​เพิ่ม​ขึ้น​กว่า​สอง​เท่า คือ​มี​มาก​กว่า 5,500 คน และ​ทุก​เดือน​ประมาณ​หนึ่ง​ใน​สี่​ของ​จำนวน​นี้​มี​ส่วน​ร่วม​งาน​เผยแพร่​เต็ม​เวลา. ที่​น่า​สังเกต​เป็น​พิเศษ คือ​คน​ใน​วัย​หนุ่ม​สาว​เปรียบ​เหมือน “หยด​น้ำ​ค้าง” ยาม​เช้า​ที่​ทำ​ให้​สดชื่น.—บทเพลง​สรรเสริญ 110:3, ล.ม.

เยาวชน​จำนวน​มาก​ร่วม​กิจกรรม​ฝ่าย​วิญญาณ

ผู้​ประกาศ​ข่าว​ดี​ด้วย​ใจ​แรง​กล้า​หลาย​คน​อายุ​ค่อนข้าง​น้อย. บาง​คน​เป็น​นัก​เรียน​ชั้น​ประถม. ยก​ตัว​อย่าง ใน​เมือง​หนึ่ง​ทาง​ภาค​เหนือ​ของ​ไต้หวัน สามี​ภรรยา​คู่​หนึ่ง​ถูก​เชิญ​ให้​เข้า​ร่วม​ประชุม​ใน​โรง​เรียน​การ​รับใช้​ตาม​ระบอบ​ของ​พระเจ้า​เป็น​ครั้ง​แรก ที่​นั่น​พยาน​พระ​ยะโฮวา​เรียน​วิธี​สอน​ความ​จริง​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​แก่​ผู้​คน. สามี​ภรรยา​คู่​นี้​ทึ่ง​มาก​เมื่อ​เห็น​เด็ก​ชาย​ตัว​เล็ก ๆ ชื่อ​เหว่ย​จุ้น​ขึ้น​เวที​อ่าน​พระ​คัมภีร์​ได้​คล่อง​กว่า​ผู้​ใหญ่​หลาย​คน. ครั้น​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​วาระ​ต่าง ๆ พวก​เขา​รู้สึก​ประทับใจ​ที่​เห็น​เด็ก​เล็ก​ก่อน​วัย​เรียน​ตอบ​ได้​อย่าง​คมคาย. สามี​ภรรยา​คู่​นี้​ยัง​กล่าว​ชม​ความ​ประพฤติ​อัน​ดี​งาม​ของ​เยาวชน​ที่​หอ​ประชุม​ด้วย.

ทำไม​เยาวชน​เหล่า​นี้​จึง​มุ่ง​ฝักใฝ่​ตั้งใจ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ใน​ประเทศ​ที่​ผู้​คน​นับถือ​ศาสนา​พุทธ​และ​ลัทธิ​เต๋า​กัน​อย่าง​แพร่​หลาย? ทั้ง​นี้​ก็​เพราะ​บิดา​มารดา​ของ​เขา​ที่​เป็น​คริสเตียน​ได้​นำ​หลักการ​ต่าง ๆ ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​มา​ประยุกต์​ใช้​และ​สร้าง​ชีวิต​ครอบครัว​ที่​มี​ความ​สุข โดย​ยึด​ถือ​สัมพันธภาพ​กับ​พระ​ยะโฮวา​เป็น​สำคัญ. เนื่อง​จาก​พ่อ​แม่​ของ​เหว่ย​จุ้น​เพียร​พยายาม​สร้าง​บรรยากาศ​ระหว่าง​ที่​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​ประจำ​ครอบครัว​และ​ใน​งาน​ประกาศ​เผยแพร่​ให้​เป็น​ช่วง​เวลา​ที่​สนุก​เพลิดเพลิน พี่​ชาย​และ​พี่​สาว​ของ​เด็ก​น้อย​คน​นี้​จึง​เป็น​พยาน​ฯ ที่​ได้​รับ​บัพติสมา​แล้ว. เมื่อ​ไม่​นาน​มา​นี้ เหว่ย​จุ้น​ขอร้อง​แม่​ให้​พา​เขา​ไป​ใน​งาน​เผยแพร่​ด้วย แม่​กล่าว​ชม​ลูก​ชาย​ที่​เขา​ได้​แจก​วารสาร​ให้​แก่​ผู้​คน​มาก​กว่า​จำนวน​รวม​ที่​คน​ใน​ครอบครัว​แจก​จ่าย​ตลอด​เดือน​นั้น. ปรากฏ​ชัด​ว่า​เขา​ชอบ​คุย​เรื่อง​ความ​จริง, ออก​ความ​เห็น ณ การ​ประชุม, และ​บอก​เล่า​สิ่ง​ที่​ได้​เรียน​รู้​แก่​คน​อื่น ๆ.

ขณะ​ที่​พวก​เขา​มี​อายุ​มาก​ขึ้น

เยาวชน​เหล่า​นั้น​ทำ​อย่าง​ไร​เมื่อ​อายุ​มาก​ขึ้น? ส่วน​ใหญ่​ยัง​คง​แสดง​ความ​รัก​แท้​ต่อ​พระ​ยะโฮวา​และ​ต่อ​งาน​ประกาศ. ขอ​ยก​ตัว​อย่าง​ฮุ่ยผิง​ซึ่ง​เป็น​นัก​เรียน. วัน​หนึ่ง​ครู​ของ​เธอ​ได้​กล่าว​พาด​พิง​ถึง​สมาชิก​ใน​ศาสนา​หนึ่ง​จะ​ไม่​ยอม​รับ​เลือด ทั้ง​ที่​ครู​เอง​ก็​ไม่​รู้​ว่า​กลุ่ม​นั้น​เป็น​ใคร. หลัง​จาก​จบ​ชั่วโมง​เรียน เด็ก​สาว​พยาน​ฯ จึง​ชี้​แจง​ให้​ครู​ทราบ​ว่า​บุคคล​ที่​ถูก​พาด​พิง​นั้น​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา และ​เธอ​ชี้​แจง​ให้​เหตุ​ผล​ที่​พยาน​ฯ ยึด​มั่น​เช่น​นั้น.

ครู​อีก​คน​หนึ่ง​ได้​เปิด​วีดิทัศน์​เรื่อง​โรค​ติด​ต่อ​ทาง​เพศ​สัมพันธ์. วีดิทัศน์​นั้น​อ้าง​ถึง 1 โกรินโธ 6:9 แต่​ครู​พูด​ว่า​คัมภีร์​ไบเบิล​ไม่​ตำหนิ​การ​รัก​ร่วม​เพศ. อีก​ครั้ง​หนึ่ง​ฮุ่ยผิง​สามารถ​เสนอ​ทัศนะ​ของ​พระเจ้า​ต่อ​เรื่อง​ดัง​กล่าว​แก่​ครู.

เมื่อ​ซู่เสีย เพื่อน​ร่วม​ชั้น​เตรียม​เขียน​รายงาน​เกี่ยว​กับ​ความ​รุนแรง​ใน​ครอบครัว ฮุ่ยผิง​ให้​วารสาร​ตื่นเถิด! ฉบับ 8 พฤศจิกายน 2001 แก่​เธอ ชื่อ​เรื่อง​บน​หน้า​ปก​คือ “ความ​ช่วยเหลือ​ผู้​หญิง​ที่​ถูก​ทำ​ร้าย” และ​อธิบาย​ว่า​วารสาร​นั้น​มี​ข้อมูล​มาก​มาย​ที่​อาศัย​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​หลัก. ต่อ​มา ซู่เสีย​เข้า​มา​เป็น​ผู้​ประกาศ​ที่​ยัง​ไม่​รับ​บัพติสมา. เวลา​นี้​ทั้ง​เธอ​และ​ฮุ่ยผิง​ได้​บอก​ข่าว​ดี​แก่​คน​อื่น ๆ ด้วย.

หนุ่ม​สาว​คริสเตียน​จำนวน​ไม่​น้อย​ใน​โรง​เรียน​รู้​ดี​ว่า​การ​จะ​เป็น​ที่​รู้​จัก​ฐานะ​ประชาชน​ที่​ดำเนิน​ชีวิต​ตาม​หลักการ​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​นั้น​ไม่​ใช่​เรื่อง​ง่าย. เป็น​เช่น​นั้น​โดย​เฉพาะ​ใน​เมือง​เล็ก ๆ แถบ​ชนบท. จื้อเหา​ต้อง​ต้านทาน​แรง​กดดัน​ของ​คน​รุ่น​เดียว​กัน​เนื่อง​ด้วย​ความ​เชื่อ​และ​กิจกรรม​การ​ประกาศ​ของ​เขา. เขา​พูด​ว่า “ผม​ไม่​อยาก​ออก​ประกาศ​เลย​เพราะ​กลัว​เจอ​เพื่อน​นัก​เรียน. บาง​ครั้ง มี​ตั้ง​สิบ​คน​พูด​เยาะเย้ย​ผม!” วัน​หนึ่ง ครู​มอบหมาย​ให้​จื้อเหา​ขึ้น​ไป​บรรยาย​หน้า​ชั้น​เกี่ยว​กับ​ศาสนา​ที่​เขา​นับถือ. “ผม​ตัดสิน​ใจ​เริ่ม​การ​บรรยาย​จาก​พระ​ธรรม​เยเนซิศ​บท​ที่ 1 แล้ว​ตั้ง​คำ​ถาม เช่น ใคร​สร้าง​โลก​และ​สรรพสิ่ง​ที่​มี​ใน​โลก? และ​มนุษย์​เกิด​มา​ได้​อย่าง​ไร? ทันที​ที่​อ่าน​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล บาง​คน​เริ่ม​หัวเราะ​เยาะ​และ​กล่าวหา​ผม​เป็น​คน​ถือ​ผี​เชื่อ​โชค​ลาง. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ผม​บรรยาย​ต่อ​กระทั่ง​จบ​เรื่อง​ที่​นำ​เสนอ. หลัง​จาก​นั้น ผม​มี​โอกาส​ชี้​แจง​กับ​เพื่อน​ร่วม​ชั้น​บาง​คน​เป็น​ส่วน​ตัว​เกี่ยว​กับ​กิจกรรม​ของ​เรา​และ​ความ​เชื่อ​ใน​ศาสนา. เดี๋ยว​นี้ เมื่อ​เพื่อน​ร่วม​ชั้น​เห็น​ผม​ขณะ​ออก​ไป​ใน​งาน​ประกาศ พวก​เขา​ไม่​หัวเราะ​เยาะ​ผม​อีก​เลย!”

จื้อเหา​คุย​ต่อ​ดัง​นี้: “เนื่อง​จาก​พ่อ​แม่​ของ​ผม​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา เรา​พิจารณา​ข้อ​คัมภีร์​ประจำ​วัน​ทุก​เช้า. นอก​จาก​นั้น เรา​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​และ​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​สม่ำเสมอ. ด้วย​เหตุ​นี้ ผม​สามารถ​รับมือ​ใคร​ก็​ตาม​ที่​ยัง​อยาก​จะ​เยาะเย้ย​ขณะ​ที่​ผม​พยายาม​บอก​เล่า​ให้​คน​อื่น​ทราบ​ความ​จริง​เกี่ยว​กับ​คัมภีร์​ไบเบิล​ซึ่ง​เป็น​คำ​ปลอบ​ประโลม​ให้​ความ​สดชื่น.”

ถิงเหม่ย นัก​ศึกษา​ของ​วิทยาลัย​เทคนิค​สตรี. คราว​หนึ่ง​เพื่อน​ร่วม​ชั้น​ชวน​เธอ​ไป​เที่ยว​ปิกนิก​กับ​นัก​ศึกษา​จาก​วิทยาลัย​เทคนิค​ชาย. ถิงเหม่ย​รู้​ถึง​อันตราย​ด้าน​ศีลธรรม​ใน​การ​คบหา​สมาคม​แบบ​นั้น และ​เธอ​ปฏิเสธ. เธอ​ถูก​ชวน​หลาย​ครั้ง แม้​เธอ​ยก​เนื้อหา​จาก​หนังสือ​คำ​ถาม​ที่​หนุ่ม​สาว​ถาม—คำ​ตอบ​ที่​ได้​ผล * ขึ้น​มา​พูด​คุย​กับ​เพื่อน ๆ หลาย​ครั้ง​แล้ว​ก็​ตาม. เพื่อน ๆ พา​กัน​หัวเราะ​เยาะ และ​บอก​ว่า​เธอ​เป็น​คน​คร่ำครึ. แต่​สติ​ปัญญา​ที่​ได้​มา​โดย​การ​ปฏิบัติ​ตาม​หลักการ​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​นั้น​ปรากฏ​เด่น​ชัด​เมื่อ​เด็ก​สาว​คน​หนึ่ง​ใน​กลุ่ม​นั้น​ตั้ง​ครรภ์​แล้ว​ได้​ทำ​แท้ง. ถิงเหม่ย​พูด​ดัง​นี้: “การ​ปฏิบัติ​ตาม​การ​ชี้​นำ​ของ​พระ​ยะโฮวา​ช่วย​ฉัน​ให้​มี​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ที่​สะอาด. ผล​คือ​ฉัน​รู้สึก​เบิกบาน​ใจ​และ​อิ่ม​ใจ​พอ​ใจ​อย่าง​แท้​จริง.”

การ​เอา​ชนะ​อุปสรรค​ที่​ขัด​ขวาง​การ​เติบโต

เพื่อน​สนิท​คน​หนึ่ง​ของ​ถิงเหม่ย​คือ​รุ่ย​เห​วิน. ตอน​ที่​อายุ​ยัง​น้อย รุ่ย​เห​วิน​รู้สึก​ว่า​การ​ไป​ร่วม​ประชุม​ของ​คริสเตียน​และ​งาน​เผยแพร่​เป็น​กิจวัตร​น่า​เบื่อ​หน่าย. แต่​เมื่อ​มอง​เห็น​ความ​แตกต่าง​ระหว่าง​ความ​รัก​แท้​ของ​พี่​น้อง​พยาน​ฯ ใน​ประชาคม​และ​มิตรภาพ​แบบ​ผิว​เผิน​ของ​เพื่อน​ร่วม​ชั้น เธอ​จึง​มั่น​ใจ​ว่า​จำเป็น​ต้อง​เปลี่ยน​แปลง​บาง​อย่าง​ใน​ชีวิต. รุ่ยเหวิน​เริ่ม​ประกาศ​แก่​เพื่อน​ที่​โรง​เรียน และ​ไม่​นาน​ก็​ตระหนัก​มาก​ขึ้น​ว่า​เธอ​ควร​จะ​ทำ​อะไร. เธอ​เริ่ม​รับใช้​ด้วย​การ​สมัคร​เป็น​ไพโอเนียร์​สมทบ ใช้​เวลา​ประกาศ​แต่​ละ​เดือน​มาก​กว่า 50 ชั่วโมง. ครั้น​แล้ว​เริ่ม​รับใช้​ฐานะ​ไพโอเนียร์​ประจำ ใช้​เวลา​ใน​งาน​รับใช้​มาก​กว่า 70 ชั่วโมง​ต่อ​เดือน. รุ่ย​เห​วิน​บอก​ว่า “ฉัน​สำนึก​บุญคุณ​พระ​ยะโฮวา​อย่าง​ที่​สุด. พระองค์​ไม่​เคย​สิ้น​หวัง​เพราะ​ฉัน. ถึง​ฉัน​ได้​ทำ​บาง​สิ่ง​ไม่​ดี​ทำ​ให้​พระองค์​เสีย​พระทัย แต่​พระองค์​ยัง​คง​รัก​ฉัน. แม่​ของ​ฉัน​และ​คน​อื่น ๆ ใน​ประชาคม​ก็​แสดง​เจตคติ​อัน​เปี่ยม​ด้วย​ความ​รัก​เช่น​เดียว​กัน. เนื่อง​จาก​ฉัน​นำ​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​อยู่​ห้า​ราย ฉัน​สำนึก​ว่า​ฉัน​กำลัง​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​งาน​ที่​ให้​ความ​พอ​ใจ​มาก​ที่​สุด.”

โรง​เรียน​มัธยม​แห่ง​หนึ่ง​ใน​ชนบท เด็ก​ชาย​พยาน​ฯ สอง​คน​ถูก​มอบหมาย​เป็น​ตัว​แทน​เข้า​ประกวด​เต้น​รำ​พื้น​บ้าน. เมื่อ​เด็ก​ทั้ง​สอง​ได้​มา​เข้าใจ​ลักษณะ​งาน​ประกวด พยาน​ฯ ทั้ง​สอง​จึง​เห็น​ว่า​การ​มี​ส่วน​ร่วม​เช่น​นั้น​เป็น​การ​ละเมิด​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ของ​คริสเตียน. ครั้น​พยายาม​ชี้​แจง​ให้​เข้าใจ​ทัศนะ​ของ​เขา​และ​ขอ​ยก​เว้น กลับ​ถูก​ปฏิเสธ. ยิ่ง​กว่า​นั้น พวก​ครู​ได้​กำชับ​เด็ก​พยาน​ฯ สอง​คน​นั้น​ว่า​เขา​ถูก​มอบหมาย​แล้ว เขา​ต้อง​ไป​ให้​ได้. เนื่อง​จาก​ไม่​ต้องการ​จะ​อะลุ่มอล่วย เด็ก​พยาน​ฯ ได้​เข้า​ไป​ที่​เว็บไซต์​ของ​แผนก​ศึกษาธิการ​แล้ว​ส่ง​จดหมาย​ชี้​แจง​เรื่อง​ที่​เป็น​ปัญหา​สำหรับ​เขา. แม้​เด็ก​พยาน​ฯ ไม่​ได้​รับ​คำ​ตอบ​โดย​ตรง แต่​ใน​เวลา​ต่อ​มา ทาง​โรง​เรียน​ได้​รับ​คำ​สั่ง​ไม่​ให้​บังคับ​คน​หนึ่ง​คน​ใด​ไป​ร่วม​งาน​ประกวด​ประเภท​นี้. พยาน​ฯ สอง​คน​นี้​ดีใจ​เพียง​ไร​เมื่อ​เห็น​ว่า​การ​ฝึก​อบรม​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล​ไม่​ใช่​แค่​นวด​ปั้น​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ของ​เขา​เท่า​นั้น แต่​ทำ​ให้​เขา​มี​กำลัง​ที่​จะ​ยืนหยัด​เพื่อ​สิ่ง​ที่​ถูก​ต้อง!

แม้​คน​เหล่า​นั้น​ที่​มี​ข้อ​จำกัด​ด้าน​กายภาพ​ก็​ชื่นชม​มาก​ที่​ได้​บอก​คน​อื่น ๆ เรื่อง​ความ​หวัง​ตาม​หลัก​คัมภีร์​ไบเบิล. เหมี่ยนอี้​เป็น​อัมพาต​ตั้ง​แต่​กำเนิด. เธอ​ไม่​สามารถ​ใช้​มือ​ทำ​อะไร​ทั้ง​สิ้น เธอ​ใช้​ลิ้น​พลิก​หน้า​คัมภีร์​ไบเบิล และ​หา​ข้อ​คัมภีร์​ที่​เธอ​ต้องการ​อ่าน. ระหว่าง​ที่​เธอ​เป็น​นัก​เรียน​ตาม​ที่​ได้​รับ​มอบหมาย​ใน​โรง​เรียน​การ​รับใช้​ตาม​ระบอบ​ของ​พระเจ้า​ที่​หอ​ประชุม เธอ​นอน​บน​เตียง​พับ ผู้​ช่วย​ของ​เธอ​นั่ง​บน​ม้า​นั่ง​เตี้ย ๆ และ​ช่วย​จับ​ไมโครโฟน​ให้. น่า​ชื่น​ใจ​จริง ๆ ที่​เห็น​เหมี่ยนอี้​บากบั่น​พยายาม​เตรียม​ตัว​สำหรับ​คำ​บรรยาย​เหล่า​นั้น!

เมื่อ​เหมี่ยนอี้​ต้องการ​เป็น​ผู้​ประกาศ​ราชอาณาจักร มี​พี่​น้อง​หญิง​บาง​คน​ได้​เรียน​รู้​วิธี​ให้​คำ​พยาน​ทาง​โทรศัพท์ ทั้ง​นี้​ก็​เพื่อ​ช่วยเหลือ​เธอ. เหมี่ยนอี้​ใช้​ลิ้น​กด​หมาย​เลข​โทรศัพท์ ขณะ​เดียว​กัน​พี่​น้อง​หญิง​ก็​ช่วย​เธอ​เก็บ​รักษา​บันทึก​ราย​เยี่ยม. เธอ​เพลิดเพลิน​กับ​งาน​นี้​มาก​ถึง​ขั้น​ที่​เธอ​กลาย​เป็น​ไพโอเนียร์​สมทบ แต่​ละ​เดือน​เธอ​ใช้​เวลา 50 ถึง 60 ชั่วโมง​พูด​คุย​เรื่อง​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​ทาง​โทรศัพท์​กับ​หลาย​คน. เธอ​ได้​พบ​ว่า​บาง​คน​รับ​หนังสือ​เกี่ยว​กับ​คัมภีร์​ไบเบิล​และ​ยินดี​ต้อนรับ​การ​กลับ​เยี่ยม​ของ​เธอ. เวลา​นี้​เหมี่ยนอี้​นำ​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​สาม​ราย ล้วน​เป็น​คน​ที่​เธอ​ได้​ติด​ต่อ​ทาง​โทรศัพท์.

ใช่​แล้ว บรรดา​ชาย​หนุ่ม​และ​หญิง​สาว​ซึ่ง​เป็น​เหมือน​หยาด​น้ำ​ค้าง​ที่​ให้​ความ​สดชื่น ใน 78 ประชาคม​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​ไต้หวัน​เต็ม​ใจ​ยินดี​และ​กระตือรือร้น​นำ​ข่าว​ดี​เรื่อง​ราชอาณาจักร​ซึ่ง​ค้ำจุน​ชีวิต​ไป​ให้​ผู้​คน​หลาย​ล้าน​บน​เกาะ​ที่​มี​พลเมือง​หนา​แน่น. นี่​เป็น​แค่​ส่วน​น้อย​ตลอด​ทั่ว​โลก​ของ​การ​สำเร็จ​ตาม​คำ​พยากรณ์​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​ข้อ​ต่อ​ไป​นี้: “คน​ของ​พระองค์​จะ​เสนอ​ตัว​ด้วย​ความ​เต็ม​ใจ​ใน​วัน​ที่​พระองค์​ทรง​นำ​ทัพ. ด้วย​ความ​สง่า​งาม​แห่ง​ความ​บริสุทธิ์​จาก​ครรภ์​แห่ง​รุ่ง​อรุณ พระองค์​ได้​กองทัพ​คน​หนุ่ม​ดุจ​หยด​น้ำ​ค้าง.” (บทเพลง​สรรเสริญ 110:3, ล.ม.) ใน​ท่ามกลาง​ผู้​เผยแพร่ หนุ่ม​สาว​เหล่า​นี้​เป็น​แหล่ง​หนุน​กำลังใจ​ที่​ดี​เยี่ยม​อะไร​เช่น​นั้น​สำหรับ​พวก​ผู้​สูง​อายุ และ​ยิ่ง​กว่า​นั้น พวก​เขา​เป็น​แหล่ง​ที่​นำ​ความ​ปีติ​ยินดี​มา​สู่​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า พระ​บิดา​ทาง​ภาค​สวรรค์​อีก​ด้วย!—สุภาษิต 27:11, ล.ม.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 16 จัด​พิมพ์​โดย​พยาน​พระ​ยะโฮวา.

[กรอบ/ภาพ​หน้า 10]

จำเป็น​ต้อง​มี​หอ​ประชุม​อีก​หลาย​แห่ง

เนื่อง​จาก​จำนวน​ผู้​ประกาศ​ใน​ไต้หวัน​เพิ่ม​ขึ้น การ​จะ​มี​หอ​ประชุม​ได้​เท่า​ที่​ต้องการ​จึง​เป็น​ข้อ​ท้าทาย. เพราะ​อะไร? ที่​ดิน​ที่​เหมาะ​สำหรับ​สร้าง​หอ​ประชุม​แทบ​จะ​ไม่​มี​เสีย​ด้วย​ซ้ำ ยก​เว้น​พื้น​ที่​บาง​แห่ง​ใน​ชนบท. นอก​จาก​นั้น ที่​ดิน​มี​ราคา​แพง​มาก และ​กฎหมาย​แบ่ง​นคร​ออก​เป็น​เขต​ก็​ยิ่ง​กวดขัน. ใน​เขต​เทศบาล​หรือ​เมือง​ใหญ่ ๆ ทาง​เลือก​อย่าง​เดียว​คือ​ซื้อ​อาคาร​หรือ​พื้น​ที่​ซึ่ง​กำหนด​ให้​เป็น​สำนักงาน และ​เปลี่ยน​ให้​เป็น​หอ​ประชุม​ราชอาณาจักร. กระนั้น ที่​ทำ​การ​หรือ​สำนักงาน​ส่วน​ใหญ่​มี​เพดาน​ต่ำ, ต้อง​จ่าย​ค่า​ธรรมเนียม​สูง​ให้​เจ้าของ​อาคาร​เป็น​ค่า​บำรุง​รักษา, ทาง​เข้า​ออก​ถูก​จำกัด, หรือ​ด้วย​เหตุ​อื่น ๆ ทำ​ให้​ไม่​เหมาะ​สม​ที่​จะ​ใช้​อาคาร​ดัง​กล่าว​เป็น​หอ​ประชุม.

แม้​กระนั้น เมื่อ​เร็ว ๆ นี้​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​ไต้หวัน​ก็​สามารถ​เป็น​เจ้าของ​หอ​ประชุม​ใหม่​หลาย​แห่ง. การ​เสาะ​หา​ที่​ใหม่​ยัง​ดำเนิน​อยู่​ต่อ​ไป​ขณะ​ที่​พยาน​ฯ รับผิดชอบ​ทาง​ด้าน​การ​เงิน​โดย​บริจาค​ด้วย​ความ​สมัคร​ใจ และ​พัฒนา​ทักษะ​การ​ก่อ​สร้าง​ที่​จำเป็น.