จงฉลาด—อย่าขาดความเกรงกลัวพระเจ้า!
จงฉลาด—อย่าขาดความเกรงกลัวพระเจ้า!
“ความยำเกรงพระยะโฮวาเป็นบ่อเกิดแห่งปัญญา.”—สุภาษิต 9:10.
1. เหตุใดหลายคนเห็นว่าแนวคิดเรื่องความเกรงกลัวพระเจ้าเป็นเรื่องยากจะเข้าใจ?
ในอดีตเคยถือกันว่าเป็นคำชมเมื่อมีคนพูดถึงใครคนหนึ่งว่าเกรงกลัวพระเจ้า. ปัจจุบัน หลายคนเห็นว่าแนวคิดเรื่องการเกรงกลัวพระเจ้านั้นค่อนข้างล้าสมัยและยากจะเข้าใจ. คนเหล่านี้อาจถามว่า ‘ถ้าพระเจ้าทรงเป็นความรัก แล้วทำไมผมจะต้องกลัวพระองค์ด้วย?’ สำหรับพวกเขาแล้ว ความเกรงกลัวเป็นอารมณ์ความรู้สึกที่ไม่พึงปรารถนา หรือถึงกับทำให้งงงวยด้วยซ้ำ. แต่ความเกรงกลัวพระเจ้าที่แท้จริงนั้นมีความหมายกว้างกว่ามาก และดังที่เราจะได้เห็น ไม่ใช่เป็นเพียงอารมณ์หรือความรู้สึกเท่านั้น.
2, 3. ความเกรงกลัวพระเจ้าที่แท้จริงนั้นเกี่ยวข้องกับอะไรบ้าง?
2 ในคัมภีร์ไบเบิล การใช้คำความเกรงกลัวพระเจ้ามีแนวคิดในแง่ดี. (ยะซายา 11:3) ความเกรงกลัวพระเจ้าเป็นความเคารพนับถืออย่างลึกซึ้งต่อพระเจ้า เป็นความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะไม่ทำให้พระองค์ไม่พอพระทัย. (บทเพลงสรรเสริญ 115:11) คำนี้หมายรวมถึงการยอมรับและปฏิบัติตามมาตรฐานด้านศีลธรรมของพระเจ้าอย่างเข้มงวด และความปรารถนาที่จะดำเนินชีวิตตามที่พระเจ้าทรงกำหนดไว้ว่าอะไรถูกอะไรผิด. หนังสืออ้างอิงเล่มหนึ่งชี้ว่าความเกรงกลัวเช่นนั้นแสดงให้เห็นถึง “เจตคติพื้นฐานที่มีต่อพระเจ้าซึ่งทำให้ประพฤติอย่างฉลาดสุขุมและหลีกเลี่ยงความชั่วร้ายทุกรูปแบบ.” ดังนั้น จึงเหมาะสมที่พระคำของพระเจ้าบอกเราว่า “ความยำเกรงพระยะโฮวาเป็นบ่อเกิดแห่งปัญญา.”—สุภาษิต 9:10.
3 จริงทีเดียว ความเกรงกลัวพระเจ้าครอบคลุมถึงกิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์เราในขอบเขตกว้างขวาง. ความเกรงกลัวนี้ไม่เพียงเกี่ยวข้องกับสติปัญญา แต่ยังรวมไปถึงความยินดี, สันติสุข, ความรุ่งเรือง, การมีอายุยืน, ความหวัง, ความไว้วางใจ, และความเชื่อมั่น. (บทเพลงสรรเสริญ 2:11; สุภาษิต 1:7; 10:27; 14:26; 22:4; 23:17, 18; กิจการ 9:31) ความเกรงกลัวพระเจ้าเกี่ยวพันอย่างใกล้ชิดกับความเชื่อและความรัก. ที่จริง ความเกรงกลัวนี้เกี่ยวข้องกับทุกสิ่งในความสัมพันธ์ของเรากับพระเจ้าและกับเพื่อนมนุษย์. (พระบัญญัติ 10:12; โยบ 6:14; เฮ็บราย 11:7) ความเกรงกลัวพระเจ้าเกี่ยวข้องกับความเชื่อมั่นว่า พระบิดาของเราผู้อยู่ในสวรรค์ทรงห่วงใยดูแลเราเป็นส่วนตัวและพร้อมจะให้อภัยการล่วงละเมิดของเรา. (บทเพลงสรรเสริญ 130:4) เฉพาะคนชั่วที่ไม่กลับใจเท่านั้นที่ควรกลัวพระเจ้า. *—เฮ็บราย 10:26-31.
เรียนรู้ที่จะเกรงกลัวพระยะโฮวา
4. อะไรสามารถช่วยเราให้ “เรียนการที่จะเกรงกลัวพระยะโฮวา”?
4 เนื่องจากความเกรงกลัวพระเจ้าเป็นพื้นฐานในการตัดสินใจที่ฉลาดสุขุมและการรับเอาพระพรของพระเจ้า เราจะ “เรียนการที่จะเกรงกลัวพระยะโฮวา” อย่างถูกต้องได้โดยวิธีใด? (พระบัญญัติ 17:19) ตัวอย่างมากมายของชายหญิงที่เกรงกลัวพระเจ้ามีบันทึกไว้ในพระคัมภีร์ “เพื่อสั่งสอนเราทั้งหลาย.” (โรม 15:4) เพื่อช่วยเราเข้าใจว่าความเกรงกลัวพระเจ้าหมายความอย่างไรจริง ๆ ให้เราพิจารณาดูชีวิตของชายผู้หนึ่งเป็นตัวอย่าง คือกษัตริย์ดาวิดแห่งอิสราเอลโบราณ.
5. การเลี้ยงแกะช่วยสอนดาวิดอย่างไรเกี่ยวกับการเกรงกลัวพระยะโฮวา?
5 พระยะโฮวาทรงปฏิเสธซาอูล กษัตริย์องค์แรกของอิสราเอล เพราะท่านกลัวประชาชนและขาดความเกรงกลัวพระองค์. (1 ซามูเอล 15:24-26) ในทางตรงกันข้าม แนวทางชีวิตของดาวิดและความสัมพันธ์อันใกล้ชิดของท่านกับพระยะโฮวาชี้ว่าท่านเป็นคนที่เกรงกลัวพระเจ้าอย่างแท้จริง. ตั้งแต่วัยเยาว์ ดาวิดพาแกะของพ่อออกไปเลี้ยงที่ทุ่งหญ้าอยู่บ่อย ๆ. (1 ซามูเอล 16:11) คืนแล้วคืนเล่าที่เลี้ยงแกะภายใต้ผืนฟ้าที่เต็มไปด้วยดาวได้ช่วยดาวิดให้เข้าใจในเรื่องความเกรงกลัวพระยะโฮวาอย่างไม่ต้องสงสัย. แม้ดาวิดสามารถ เห็นเพียงเศษเสี้ยวของเอกภพอันไพศาล แต่ท่านได้ลงความเห็นอย่างถูกต้อง นั่นคือ พระเจ้าทรงสมควรได้รับความนับถือและการเทิดทูนจากเรา. ท่านเขียนในภายหลังว่า “ครั้นข้าพเจ้าพิจารณาท้องฟ้า, ที่เป็นพระหัตถกิจของพระองค์, คือดวงจันทร์กับดวงดาวซึ่งพระองค์ได้ทรงประดิษฐานไว้; มนุษย์เป็นผู้ใดเล่าที่พระองค์ทรงระลึกถึงเขา? หรือพงศ์พันธุ์ของมนุษย์เป็นผู้ใดเล่าที่พระองค์เสด็จมาเยี่ยมเขา?”—บทเพลงสรรเสริญ 8:3, 4.
6. การตระหนักถึงความยิ่งใหญ่ของพระยะโฮวาทำให้ดาวิดรู้สึกอย่างไร?
6 ดาวิดรู้สึกประทับใจเมื่อท่านเทียบตัวท่านเองที่เล็กนิดเดียวกับท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ ซึ่งก็สมควรจะเป็นอย่างนั้น. แทนที่จะทำให้ท่านกลัว ความรู้นี้กระตุ้นท่านให้สรรเสริญพระยะโฮวาและกล่าวว่า “ฟ้าสวรรค์แสดงพระรัศมีของพระเจ้า; และท้องฟ้าประกาศพระหัตถกิจ.” (บทเพลงสรรเสริญ 19:1) ความนับถือพระเจ้าชักนำดาวิดให้เข้าใกล้ชิดพระยะโฮวายิ่งขึ้น และทำให้ดาวิดปรารถนาจะเรียนรู้และปฏิบัติตามแนวทางอันสมบูรณ์พร้อมของพระองค์. ลองนึกดูว่าดาวิดคงจะรู้สึกอย่างไรเมื่อท่านร้องเพลงนี้ที่กล่าวถึงพระยะโฮวาว่า “พระองค์เป็นใหญ่, และทรงกระทำการอัศจรรย์: พระองค์ผู้เดียวเป็นพระเจ้า. ข้าแต่พระยะโฮวา, ขอทรงโปรดสั่งสอนข้าพเจ้าให้รู้ทางปฏิบัติพระองค์, ข้าพเจ้าจะได้ประพฤติตามความสัตย์จริงของพระองค์. ขอทรงยังข้าพเจ้าให้เกรงกลัวพระนามของพระองค์.”—บทเพลงสรรเสริญ 86:10, 11.
7. การเกรงกลัวพระเจ้าช่วยดาวิดอย่างไรในการต่อสู้กับฆาละยัธ?
7 เมื่อพวกฟิลิสตินรุกรานแผ่นดินอิสราเอล ฆาละยัธนักรบร่างยักษ์ซึ่งสูงประมาณสามเมตรได้ร้องท้าทายชาวอิสราเอล ความว่า ‘จงเลือกคนหนึ่งมาสู้กับข้าตัวต่อตัว! หากเขาชนะ เราจะยอมรับใช้พวกเจ้า.’ (1 ซามูเอล 17:4-10) ซาอูลและทหารทั้งกองทัพรู้สึกกลัว แต่ดาวิดไม่กลัว. ท่านทราบว่าพระยะโฮวาต่างหากที่คนเราควรกลัว ไม่ใช่มนุษย์ ไม่ว่าผู้นั้นจะมีอำนาจมากเพียงไรก็ตาม. ดาวิดร้องบอกฆาละยัธว่า “เรามาหาเจ้าด้วยนามแห่งพระยะโฮวาของพลโยธา . . . ทั้งบรรดาที่ประชุมนี้จะได้รู้ว่า, พระยะโฮวาทรงช่วยให้รอด, โดยมิได้ใช้กระบี่หรือหอก, เพราะว่าการสงครามนั้นเป็นของพระยะโฮวา.” ด้วยสลิงและหินเพียงก้อนเดียว—และด้วยความช่วยเหลือจากพระยะโฮวา—ดาวิดโค่นยักษ์ใหญ่ผู้นี้ลง.—1 ซามูเอล 17:45-47.
8. ตัวอย่างของคนที่เกรงกลัวพระเจ้าในคัมภีร์ไบเบิลสอนอะไรแก่เรา?
8 เราอาจเผชิญกับอุปสรรคหรือศัตรูที่น่ากลัวไม่น้อยไปกว่าที่ดาวิดเผชิญ. เราอาจทำอะไรได้? เราสามารถจัดการกับอุปสรรคเหล่านั้นโดยใช้วิธีเดียวกับที่ดาวิดและผู้ซื่อสัตย์คนอื่น ๆ ในสมัยโบราณใช้ นั่นคือ ด้วยความเกรงกลัวพระเจ้า. ความเกรงกลัวพระเจ้าสามารถช่วยเราให้เอาชนะความกลัวมนุษย์. นะเฮมยาผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของพระเจ้ากระตุ้นชาวอิสราเอลด้วยกันซึ่งถูกกดดันจากพวกผู้ต่อต้าน โดยกล่าวว่า “อย่ากลัวเขาเลย. จงระลึกถึงพระยะโฮวาผู้ทรงฤทธาอันเป็นที่น่ากลัว.” (นะเฮมยา 4:14) ด้วยการหนุนหลังจากพระยะโฮวา ดาวิด, นะเฮมยา, และผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์คนอื่น ๆ ของพระเจ้าประสบความสำเร็จในการทำหน้าที่ซึ่งพระเจ้าทรงมอบหมายแก่พวกเขา. ด้วยความเกรงกลัวพระเจ้า เราก็จะประสบความสำเร็จได้เช่นกัน.
เผชิญปัญหาด้วยความเกรงกลัวพระเจ้า
9. ภายใต้สถานการณ์เช่นไรที่ดาวิดแสดงความเกรงกลัวพระเจ้า?
9 หลังจากดาวิดฆ่าฆาละยัธ พระยะโฮวาประทานชัยชนะแก่ท่านอีกหลายครั้ง. อย่างไรก็ตาม ซาอูลซึ่งอิจฉาดาวิดพยายามจะฆ่าท่าน—ทีแรกอย่างไม่ทันยั้งคิด, ต่อมา อย่างมีเล่ห์เหลี่ยม, และท้ายที่สุด โดยยกกองทัพไล่ล่า. แม้ว่าพระยะโฮวาได้รับรองกับดาวิดว่าท่านจะได้เป็นกษัตริย์ แต่เป็นเวลาหลายปีที่ดาวิดต้องหนี, สู้, และคอยเวลาที่พระยะโฮวาจะตั้งท่านให้เป็นกษัตริย์. ตลอดเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ ดาวิดแสดงให้เห็นว่าท่านเกรงกลัวพระเจ้าองค์เที่ยงแท้.— 1 ซามูเอล 18:9, 11, 17; 24:2.
10. ดาวิดแสดงความเกรงกลัวพระเจ้าอย่างไรเมื่อเผชิญอันตราย?
10 ในโอกาสหนึ่ง ดาวิดหนีไปลี้ภัยอยู่กับอาคิศ กษัตริย์เมืองกาท (ฆัธ) แห่งฟิลิสติน บ้านเกิดของฆาละยัธ. (1 ซามูเอล 21:10-15) พวกผู้รับใช้ของกษัตริย์กล่าวโจมตีดาวิดว่าเป็นศัตรูของชาติ. ดาวิดทำอย่างไรในสถานการณ์อันตรายเช่นนั้น? ท่านอธิษฐานถึงพระยะโฮวาอย่างสุดหัวใจ. (บทเพลงสรรเสริญ 56:1-4, 11-13) แม้ว่าต้องแสร้งทำเป็นบ้าเพื่อเอาตัวรอด แต่ดาวิดทราบว่าจริง ๆ แล้วเป็นเพราะพระยะโฮวาความพยายามของท่านจึงประสบผล. การไว้วางใจพระยะโฮวาอย่างสุดหัวใจและความเชื่อมั่นในพระองค์ของดาวิดแสดงว่าท่านเกรงกลัวพระเจ้าอย่างแท้จริง.—บทเพลงสรรเสริญ 34:4-6, 9-11.
11. เราจะแสดงความเกรงกลัวพระเจ้าได้อย่างไรเมื่อเผชิญการทดลอง เช่นเดียวกับที่ดาวิดได้แสดงให้เห็น?
บทเพลงสรรเสริญ 37:5) นี่ไม่ได้หมายความว่าเราเพียงแต่ทิ้งปัญหาไว้กับพระยะโฮวาโดยไม่ต้องทำอะไรที่เราทำได้แล้วก็คาดหมายว่าพระองค์จะทรงจัดการให้เรา. ดาวิดไม่ได้อธิษฐานขอให้พระเจ้าช่วยแล้วก็ทิ้งเรื่องนั้นไว้เลย. ท่านใช้ความสามารถทางกายและสติปัญญาที่พระยะโฮวาประทานให้เพื่อจัดการปัญหาของท่าน. ถึงกระนั้น ดาวิดทราบว่าอาศัยเพียงความพยายามของมนุษย์อย่างเดียวไม่อาจนำไปสู่ความสำเร็จได้. ควรเป็นเช่นนั้นกับเราด้วย. เมื่อได้ทำทุกสิ่งที่เราทำได้แล้ว เราก็ต้องปล่อยเรื่องนั้นไว้กับพระยะโฮวา. ที่จริง บ่อยครั้งเราทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากไว้วางใจพระยะโฮวา. ในช่วงเวลาอย่างนี้แหละที่ความเกรงกลัวพระเจ้าของเราเองจะปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนว่ามีมากน้อยเพียงไร. เราสามารถรู้สึกสบายใจเมื่ออ่านถ้อยคำซึ่งแสดงความรู้สึกจากหัวใจของดาวิดที่ว่า “พระยะโฮวาทรงเป็นไมตรีกับผู้ที่เกรงกลัวพระองค์.”—บทเพลงสรรเสริญ 25:14.
11 เช่นเดียวกับดาวิด เราสามารถแสดงความเกรงกลัวพระเจ้าโดยไว้วางใจในคำสัญญาของพระองค์ที่จะช่วยเรารับมือปัญหาต่าง ๆ. ดาวิดกล่าวว่า “จงมอบทางประพฤติของตนไว้กับพระยะโฮวา; แถมจงวางใจในพระองค์ด้วย, และพระองค์จะทรงกระทำให้สำเร็จดังประสงค์.” (12. เหตุใดเราจำเป็นต้องถือว่าการอธิษฐานของเราเป็นเรื่องสำคัญ และเราไม่ควรมีเจตคติเช่นไร?
12 ด้วยเหตุนั้น เราควรถือว่าการอธิษฐานและความสัมพันธ์ของเรากับพระเจ้าเป็นเรื่องสำคัญ. เมื่อเราเข้าหาพระยะโฮวา เราต้อง “เชื่อว่าพระองค์ทรงพระชนม์อยู่, และต้องเชื่อว่าพระองค์เป็นผู้ประทานบำเหน็จให้แก่ทุกคนที่ปลงใจแสวงหาพระองค์.” (เฮ็บราย 11:6; ยาโกโบ 1:5-8) และเมื่อพระองค์ทรงช่วยเรา เราควร ‘แสดงตัวว่าเราขอบพระคุณ’ ดังที่อัครสาวกเปาโลแนะนำ. (โกโลซาย 3:15, 17, ล.ม.) เราต้องไม่เป็นเหมือนกับบางคนซึ่งคริสเตียนผู้ถูกเจิมที่มีประสบการณ์มากคนหนึ่งพรรณนาไว้ว่า “พวกเขามองพระเจ้าเหมือนกับบริกรฝ่ายสวรรค์. เมื่อเขาอยากได้อะไร ก็ดีดนิ้วเรียกให้พระองค์มา. และเมื่อได้สิ่งที่ต้องการแล้ว เขาก็ต้องการให้พระองค์ไปเสีย.” เจตคติเช่นนั้นเผยให้เห็นถึงการขาดความเกรงกลัวพระเจ้า.
เมื่อความเกรงกลัวพระเจ้าขาดหายไป
13. ดาวิดไม่ได้แสดงความนับถือต่อพระบัญญัติของพระเจ้าในโอกาสใด?
13 ประสบการณ์ที่ได้รับความช่วยเหลือจากพระยะโฮวายามทุกข์ยากเดือดร้อนทำให้ความเกรงกลัวพระเจ้าของดาวิดลึกซึ้งยิ่งขึ้น และเสริมความเชื่อมั่นของท่านในพระองค์. (บทเพลงสรรเสริญ 31:22-24) อย่างไรก็ตาม มีสามโอกาสเด่น ๆ ที่ความเกรงกลัวพระเจ้าของดาวิดขาดหายไป ซึ่งยัง ผลเสียหายร้ายแรง. ครั้งแรกเกี่ยวข้องกับการที่ท่านจัดให้ขนย้ายหีบสัญญาไมตรีของพระยะโฮวาไปยังกรุงเยรูซาเลมโดยใช้เกวียน แทนที่จะใช้พวกเลวีหามตามที่พระบัญญัติของพระเจ้ากำหนดไว้. เมื่ออุซาซึ่งเป็นผู้นำเกวียนนั้นเอื้อมมือไปประคองหีบไว้ไม่ให้ล้ม เขาเสียชีวิตทันทีเพราะ “การกระทำที่ขาดความยำเกรง.” จริงอยู่ อุซาทำผิดร้ายแรง แต่หากพิจารณาให้ถึงที่สุดแล้ว เป็นเพราะดาวิดมิได้แสดงความนับถืออย่างถูกต้องต่อพระบัญญัติของพระเจ้าจึงก่อให้เกิดผลอันน่าเศร้านี้. การเกรงกลัวพระเจ้าหมายถึงการทำสิ่งต่าง ๆ อย่างที่สอดคล้องกับการจัดเตรียมของพระองค์.—2 ซามูเอล 6:2-9, ล.ม.; อาฤธโม 4:15; 7:9.
14. การที่ดาวิดนับจำนวนพลอิสราเอลยังผลเป็นเช่นไร?
14 ต่อมา โดยที่ถูกซาตานกระตุ้น ดาวิดนับจำนวนพลรบของอิสราเอล. (1 โครนิกา 21:1) ด้วยการทำอย่างนั้น ดาวิดแสดงว่าท่านขาดความเกรงกลัวพระเจ้า ซึ่งยังผลให้ชาวอิสราเอลตายไป 70,000 คน. แม้ว่าดาวิดกลับใจเฉพาะพระพักตร์พระยะโฮวา แต่ท่านและประชาชนก็ต้องรับผลเสียหายใหญ่หลวง.—2 ซามูเอล 24:1-16.
15. อะไรทำให้ดาวิดพลาดพลั้งทำผิดทางเพศ?
15 การขาดความเกรงกลัวพระเจ้าไปชั่วขณะในอีกโอกาสหนึ่งทำให้ดาวิดถลำเข้าสู่ความสัมพันธ์ที่ผิดศีลธรรมกับบัธเซบะ ภรรยาของอูรียา. ดาวิดทราบว่าการผิดประเวณีหรือแม้แต่การมีใจปรารถนาในคู่ของผู้อื่นนั้นเป็นเรื่องผิด. (เอ็กโซโด 20:14, 17) ปัญหาเริ่มขึ้นเมื่อดาวิดเห็นบัธเซบะกำลังอาบน้ำ. ความเกรงกลัวพระเจ้าอย่างเหมาะสมน่าจะกระตุ้นดาวิดในทันทีให้ละสายตาและหันเหความคิดไปที่อื่น. แทนที่จะทำอย่างนั้น ดูเหมือนว่าดาวิด ‘มองเธออย่างไม่วางตา’ จนกระทั่งความกำหนัดมีอำนาจเหนือความเกรงกลัวพระเจ้า. (มัดธาย 5:28, ล.ม.; 2 ซามูเอล 11:1-4) ดาวิดลืมสายสัมพันธ์อันใกล้ชิดของท่านกับพระยะโฮวา.—บทเพลงสรรเสริญ 139:1-7.
16. ดาวิดรับผลเสียหายเช่นไรจากการทำผิด?
16 การเล่นชู้ของดาวิดกับบัธเซบะก่อให้เกิดบุตรคนหนึ่ง. ต่อมาไม่นาน พระยะโฮวาทรงส่งนาธานผู้พยากรณ์ให้ไปเปิดโปงบาปของดาวิด. เมื่อได้สติแล้ว ดาวิดฟื้นความเกรงกลัวบทเพลงสรรเสริญ 51:7, 11) พระยะโฮวาทรงให้อภัยดาวิดและลดโทษให้เบาลง แต่พระองค์ไม่ได้ปกป้องท่านไว้จากผลอันเลวร้ายทั้งหมดที่เกิดจากการกระทำของท่าน. ราชบุตรของดาวิดเสียชีวิต และนับแต่นั้นมาก็มีแต่เรื่องปวดร้าวใจและเหตุการณ์เศร้าสลดที่รุมเร้าเชื้อวงศ์ท่าน. การขาดความเกรงกลัวพระเจ้าช่างก่อผลเสียหายที่ให้บทเรียนราคาแพงจริง ๆ!—2 ซามูเอล 12:10-14; 13:10-14; 15:14.
พระเจ้าขึ้นมาใหม่และกลับใจ. ท่านทูลขอพระยะโฮวาอย่าได้ทอดทิ้งท่านหรือถอนพระวิญญาณบริสุทธิ์ไปจากท่าน. (17. จงยกตัวอย่างที่แสดงถึงความปวดร้าวใจที่เป็นผลสืบเนื่องจากการทำผิด.
17 ปัจจุบัน การไม่เกรงกลัวพระเจ้าในเรื่องศีลธรรมอาจก่อให้เกิดผลสะท้อนที่ร้ายแรงและยาวนานคล้าย ๆ กันนั้น. ขอให้นึกภาพถึงความเจ็บปวดใจของภรรยาสาวคนหนึ่งเมื่อทราบว่าสามีคริสเตียนไม่ซื่อสัตย์ต่อเธอขณะทำงานที่ต่างประเทศ. ด้วยความตกตะลึงและเสียใจ เธองอตัวซบหน้าลงกับมือและน้ำตาไหลพราก. ต้องรออีกนานเท่าไรสามีเธอจึงจะได้รับความไว้วางใจและความนับถือจากเธออีกครั้ง? ผลอันน่าเศร้าสลดเช่นนั้นอาจหลีกเลี่ยงได้ด้วยการเกรงกลัวพระเจ้าอย่างแท้จริง.—1 โกรินโธ 6:18.
ความเกรงกลัวพระเจ้าเหนี่ยวรั้งเราไว้จากบาป
18. จุดประสงค์ของซาตานคืออะไร และมันใช้วิธีใด?
18 ซาตานบ่อนทำลายค่านิยมด้านศีลธรรมของโลกนี้เร็วมาก และมันต้องการทำลายความบริสุทธิ์สะอาดของคริสเตียนแท้เป็นพิเศษ. เพื่อจะบรรลุผลอย่างนั้น มันใช้เส้นทางที่ตรงที่สุดในการเข้าถึงหัวใจและจิตใจของเรา—โดยทางประสาทสัมผัสทั้งหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทางตาและหูของเรา. (เอเฟโซ 4:17-19) คุณจะทำอย่างไรเมื่อพบกับภาพ, คำพูด, หรือผู้คนที่ผิดศีลธรรมโดยไม่คาดคิด?
19. ความเกรงกลัวพระเจ้าช่วยคริสเตียนคนหนึ่งอย่างไรให้เอาชนะการล่อใจ?
19 ขอให้พิจารณากรณีของอังเดร * ซึ่งเป็นคริสเตียนผู้ปกครอง, บิดา, และแพทย์ที่ยุโรป. เมื่ออังเดรเข้าเวรกลางคืนที่โรงพยาบาล ครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อนร่วมงานหญิงบางคนได้ติดกระดาษบันทึกเล็ก ๆ—ตกแต่งด้วยรูปหัวใจ—ไว้ที่หมอนของเขา ชวนเขาให้มีเพศสัมพันธ์กับพวกเธอ. อังเดรปฏิเสธที่จะพิจารณาการให้ท่าเช่นนั้นด้วยใจอันมั่นคง. นอกจากนั้น เพื่อจะหลุดพ้นสภาพแวดล้อมที่ไม่ดี เขาหางานทำที่อื่น. การเกรงกลัวพระเจ้าปรากฏชัดว่าเป็นแนวทางที่ฉลาดสุขุมและนำมาซึ่งพระพร เพราะปัจจุบันอังเดรรับใช้บางเวลาที่สำนักงานสาขาของพยานพระยะโฮวาในประเทศของเขา.
20, 21. (ก) ความเกรงกลัวพระเจ้าช่วยเราได้อย่างไรให้หลีกเลี่ยงการทำบาป (ข) จะมีการพิจารณาอะไรในบทความถัดไป?
20 การหมกมุ่นอยู่กับความคิดผิด ๆ อาจนำพาคนเราให้มีสภาพจิตใจที่พร้อมจะละทิ้งสายสัมพันธ์อันล้ำค่ากับพระยะโฮวาเพื่อให้ได้มาซึ่งบางสิ่งที่เขาไม่มีสิทธิ์. (ยาโกโบ 1:14, 15) ในทางตรงกันข้าม หากเราเกรงกลัวพระยะโฮวา เราจะรักษาตัวอยู่ห่าง—หรือแม้กระทั่งเดินหนี—จากผู้คน, สถานที่, กิจกรรม, และความบันเทิงที่อาจทำให้การป้องกันตัวด้านศีลธรรมของเราอ่อนลงไป. (สุภาษิต 22:3) แม้ว่าอาจต้องพบกับความลำบากใจหรือต้องเสียสละอะไรก็ตาม แต่นั่นก็เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเมื่อเทียบกับการสูญเสียความโปรดปรานจากพระเจ้า. (มัดธาย 5:29, 30) แน่นอน การเกรงกลัวพระเจ้าหมายรวมถึงการที่เราไม่พาตัวเองเข้าไปหาสิ่งใด ๆ ที่ผิดศีลธรรม รวมถึงสื่อลามกในรูปใดก็ตาม. แทนที่จะทำอย่างนั้น ให้สายตาของเรา ‘หันไปจากการมองดูสิ่งอนิจจัง.’ หากเราทำอย่างนั้น เราวางใจได้ว่าพระยะโฮวาจะ ‘สงวนชีวิตของเราไว้’ และจะทรงจัดเตรียมทุกสิ่งที่จำเป็นจริง ๆ ให้เรา.—บทเพลงสรรเสริญ 84:11, ฉบับแปลใหม่; 119:37.
21 จริงทีเดียว การกระทำด้วยความเกรงกลัวพระเจ้าอย่างแท้จริงเป็นแนวทางแห่งสติปัญญาเสมอ. การทำอย่างนี้ยังเป็นที่มาของความสุขแท้ด้วย. (บทเพลงสรรเสริญ 34:9) จะมีการขยายความจุดนี้อย่างชัดเจนในบทความถัดไป.
[เชิงอรรถ]
^ วรรค 3 โปรดดูบทความ “ทัศนะของคัมภีร์ไบเบิล: คุณจะเกรงกลัวพระเจ้าแห่งความรักได้อย่างไร?” ในตื่นเถิด (ภาษาอังกฤษ) ฉบับ 8 มกราคม 1998 จัดพิมพ์โดยพยานพระยะโฮวา.
^ วรรค 19 ชื่อสมมุติ.
คุณอธิบายได้ไหม?
• ความเกรงกลัวพระเจ้าเกี่ยวข้องกับคุณลักษณะใดบ้างของคริสเตียน?
• ความเกรงกลัวพระเจ้าลบล้างความกลัวมนุษย์อย่างไร?
• เราจะแสดงได้อย่างไรว่าเรามีทัศนะที่ถูกต้องต่อการอธิษฐาน?
• ความเกรงกลัวพระเจ้ายับยั้งเราไว้จากการทำบาปได้อย่างไร?
[คำถาม]
[ภาพหน้า 23]
ดาวิดเรียนรู้ที่จะเกรงกลัวพระเจ้าเมื่อสังเกตดูพระหัตถกิจของพระยะโฮวา
[ภาพหน้า 24]
คุณจะทำอย่างไรเมื่อเผชิญสถานการณ์ที่ล่อใจโดยไม่คาดคิด?