ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

“คุณคงจะเป็น ดร. ลิฟวิงสโตนใช่ไหม?”

“คุณคงจะเป็น ดร. ลิฟวิงสโตนใช่ไหม?”

“คุณ​คง​จะ​เป็น ดร. ลิฟวิงสโตน​ใช่​ไหม?”

โดย​ผู้​เขียน​ตื่นเถิด! ใน​แทนซาเนีย

“ใต้​ต้น​มะม่วง​ที่​เคย​อยู่​ตรง​นี้ เฮนรี เอ็ม. สแตนลีย์​ได้​พบ​กับ​เดวิด ลิฟวิงสโตน​ใน​วัน​ที่ 10 พฤศจิกายน 1871.”—แผ่น​จารึก​ที่​อยู่​ตรง​รูป​ปั้น​ซึ่ง​เป็น​อนุสรณ์​แก่​ลิฟวิงสโตน​ใน​อูจิจิ ณ ทะเลสาบ​แทนกันยีกา แทนซาเนีย.

เป็น​เวลา​มาก​กว่า​หนึ่ง​ศตวรรษ​มา​แล้ว​ที่​สแตนลีย์​กล่าว​คำ​ทักทาย​อัน​โด่งดัง​ที่​ว่า “คุณ​คง​จะ​เป็น​ดร. ลิฟวิงสโตน​ใช่​ไหม?” สำหรับ​ผู้​คน​ที่​ไม่​ได้​อยู่​ใน​แทนซาเนีย คง​มี​เพียง​ไม่​กี่​คน​ที่​เข้าใจ​ความ​หมาย​ของ​การ​ทักทาย​กัน​ครั้ง​นั้น.

ด้วย​เหตุ​นี้ การ​ไป​เยี่ยม​ชม​พิพิธภัณฑสถาน​ลิฟวิงสโตน​ใน​แทนซาเนีย​จะ​ช่วย​ให้​ได้​รู้​เรื่อง​ราว​ดี​ขึ้น. เอมบิงโก​ซึ่ง​เป็น​มัคคุเทศก์​ของ​เรา​ได้​ให้​การ​ต้อนรับ​อย่าง​อบอุ่น. เขา​อธิบาย​ว่า “ตรง​จุด​ที่​มี​การ​สร้าง​รูป​ปั้น​นี้ เมื่อ​ก่อน​เคย​มี​ต้น​มะม่วง​ต้น​ใหญ่​อยู่​ต้น​หนึ่ง​ซึ่ง​เป็น​ที่​ที่​สแตนลีย์​และ​ลิฟวิงสโตน​พบ​กัน.” ตอน​นี้​มี​ต้น​มะม่วง​ต้น​ใหญ่​สอง​ต้น​อยู่​ตรง​นั้น. เขา​กล่าว​ต่อ​ไป​ว่า “คือ​อย่าง​นี้​นะ​ครับ ระหว่าง​ทศวรรษ 1920 เห็น​ได้​ชัด​ว่า​มะม่วง​ต้น​เดิม​กำลัง​จะ​ตาย. เรา​รักษา​มัน​ไว้​ไม่​ได้. ดัง​นั้น จึง​มี​การ​นำ​ต้น​มะม่วง​สอง​ต้น​ที่​ได้​จาก​การ​ทาบ​กิ่ง​มา​ปลูก​ไว้​ใกล้​กับ​รูป​ปั้น​นี้.”

ลิฟวิงสโตน​เป็น​ใคร?

ขณะ​ที่​เรา​นั่ง​อยู่​ใต้​ร่ม​เงา​ของ​ต้น​มะม่วง​ต้น​หนึ่ง เอมบิงโก​อธิบาย​ว่า​เดวิด ลิฟวิงสโตน​เกิด​ใน​ปี 1813 ใน​เมือง​เล็ก ๆ ของ​สกอตแลนด์​ที่​มี​ชื่อ​ว่า​แบลนไทร์. “แม้​เขา​เติบโต​ขึ้น​ใน​ครอบครัว​ที่​ยาก​จน แต่​เขา​ก็​ทำ​งาน​เลี้ยง​ตัว​เอง​ขณะ​ที่​ยัง​เรียน​อยู่ และ​ได้​รับ​การ​ฝึก​อบรม​ให้​เป็น​ทั้ง​หมอ​และ​มิชชันนารี.” เรา​รู้​ว่า​สมาคม​มิชชันนารี​แห่ง​ลอนดอน​ส่ง​ลิฟวิงสโตน​ไป​ยัง​แอฟริกา เขา​ใช้​ชีวิต​อยู่​ที่​นั่น​ถึง 30 ปี​จน​เป็น​ที่​รู้​จัก​ใน​ฐานะ​นัก​สำรวจ​และ​มิชชันนารี.

มัคคุเทศก์​ของ​เรา​กล่าว​ว่า “ดร. ลิฟวิงสโตน​มา​ที่​แอฟริกา​สาม​รอบ. รอบ​แรก เขา​มา​แอฟริกา​ใต้​ใน​ปี 1841. ปี 1845 ลิฟวิงสโตน​แต่งงาน​กับ​แมรี มอฟฟัต​ซึ่ง​เป็น​ลูก​สาว​ของ​เพื่อน​มิชชันนารี​ที่​ชื่อ​โรเบิร์ต มอฟฟัต.” ลิฟวิงสโตน​มี​บุตร​กับ​แมรี​สี่​คน. และ​แม้​เธอ​จะ​ติด​ตาม​เขา​ไป​หลาย​แห่ง แต่​เนื่อง​จาก​ลิฟวิงสโตน​ชอบ​งาน​สำรวจ​มาก ทำ​ให้​เขา​ไม่​ค่อย​มี​เวลา​ให้​กับ​ครอบครัว. แมรี ลิฟวิงสโตน​เสีย​ชีวิต​ด้วย​โรค​มาลาเรีย​ใน​ปี 1862 ขณะ​ติด​ตาม​สามี​ใน​การ​เดิน​ทาง​คราว​หนึ่ง.

สารานุกรม​บริแทนนิกา​ฉบับ​ใหม่ กล่าว​ว่า “ลิฟวิงสโตน​พร้อม​ที่​จะ​ส่ง​เสริม​ศาสนา​คริสเตียน, การ​ค้า, และ​อารยธรรม—สาม​สิ่ง​ซึ่ง​เขา​เชื่อ​ว่า​จะ​ทำ​ให้​แอฟริกา​เปิด​สู่​โลก​ภาย​นอก​ได้—ให้​ขึ้น​ไป​ไกล​กว่า​พรม​แดน​แอฟริกา​ใต้​และ​เข้า​สู่​ใจ​กลาง​ทวีป. ใน​ปี 1853 เมื่อ​เขา​ให้​แถลง​การณ์​ที่​มี​ชื่อเสียง​เขา​กล่าว​ถึง​จุด​ประสงค์​ของ​เขา​อย่าง​ชัด​แจ้ง​ว่า ‘ข้าพเจ้า​จะ​เปิด​เส้น​ทาง​เข้า​สู่​ใจ​กลาง​ทวีป​ให้​ได้ ไม่​เช่น​นั้น​ก็​จะ​ขอ​ยอม​ตาย.’” ด้วย​เหตุ​นี้ การ​เดิน​ทาง​ของ​ลิฟวิงสโตน​จึง​ไม่​ใช่​การ​เดิน​ทาง​เพื่อ​เผยแพร่​เสีย​ที​เดียว. เขา​ผลัก​ดัน​อย่าง​เอา​จริง​เอา​จัง​ให้​เลิก​การ​ค้า​ทาส. นอก​จาก​นี้ เขา​เกิด​ความ​หลงใหล​ใน​งาน​สำรวจ​และ​ตั้ง​เป้าหมาย​ที่​จะ​ค้น​หา​ต้น​แม่น้ำ​ไนล์.

อย่าง​ไร​ก็​ตาม ลิฟวิงสโตน​ตระหนัก​ว่า​งาน​นี้​ใหญ่​โต​เกิน​กว่า​ที่​เขา​จะ​ทำ​ให้​สำเร็จ​เพียง​ลำพัง. ใน​ปี 1857 เขา​กล่าว​กับ​เด็ก​หนุ่ม​กลุ่ม​หนึ่ง​ที่​มหาวิทยาลัย​เคมบริดจ์​ว่า “ข้าพเจ้า​รู้​ว่า​อีก​ไม่​กี่​ปี​ข้าพเจ้า​ก็​จะ​สิ้น​ชีวิต​อยู่​ใน​ดินแดน​นั้น ซึ่ง​ตอน​นี้​ได้​เปิด​ออก​สู่​โลก​ภาย​นอก​แล้ว อย่า​ยอม​ให้​ดินแดน​นี้​ปิด​ตัว​เอง​อีก! ข้าพเจ้า​กลับ​ไป​ยัง​แอฟริกา​เพื่อ​พยายาม​เปิด​เส้น​ทาง​ให้​กับ​การ​ค้า​และ​ศาสนา​คริสเตียน พวก​ท่าน​จะ​สาน​ต่อ​งาน​ที่​ข้าพเจ้า​ได้​เริ่ม​ไว้​แล้ว​ไหม? ข้าพเจ้า​ขอ​ฝาก​งาน​นี้​ไว้​กับ​พวก​ท่าน​ด้วย.”

ไม่​ว่า​จะ​เป็น​อย่าง​ไร​ก็​ตาม ลิฟวิงสโตน​เดิน​ทาง​ไป​ทั่ว​แอฟริกา​กลาง. หนึ่ง​ใน​สิ่ง​ที่​เขา​ค้น​พบ​คือ น้ำ​ตก​ขนาด​ใหญ่​ที่​อยู่​ใน​เส้น​ทาง​ของ​แม่น้ำ​แซมเบซี ซึ่ง​เขา​ตั้ง​ชื่อ​ว่า น้ำ​ตก​วิกตอเรีย ตาม​พระ​นาม​ของ​พระ​ราชินี​วิกตอเรีย. ต่อ​มา เขา​พรรณนา​น้ำ​ตก​นี้​ว่า​เป็น ‘ภาพ​อัน​มหัศจรรย์​ที่​สุด​ที่​เขา​เคย​เห็น​ใน​แอฟริกา.’

การ​ค้น​หา

มัคคุเทศก์​ของ​เรา​อธิบาย​ว่า “การ​เดิน​ทาง​รอบ​สุด​ท้าย​ของ​ลิฟวิงสโตน​เริ่ม​ต้น​ใน​ปี 1866. อย่าง​ไร​ก็​ตาม มี​ปัญหา​ยุ่งยาก​เกิด​ขึ้น​ใน​คณะ​ของ​เขา. ผู้​ติด​ตาม​บาง​คน​ทิ้ง​เขา​และ​กลับ​ไป​ยัง​แซนซิบาร์ ซึ่ง​เป็น​ที่​ที่​มี​การ​แพร่​ข่าว​ลือ​ว่า​ลิฟวิงสโตน​เสีย​ชีวิต​แล้ว. แต่​ลิฟวิงสโตน​ก็​ทำ​งาน​สำรวจ​ต่อ​ไป. เขา​ได้​ตั้ง​ฐาน​ที่​มั่น​สำหรับ​คณะ​เดิน​ทาง​ของ​เขา​บริเวณ​ชายฝั่ง​ตะวัน​ออก​ของ​ทะเลสาบ​แทนกันยีกา​ที่​อูจิจิ.

“อย่าง​ไร​ก็​ตาม ยุโรป​ไม่​ได้​ยิน​ข่าว​จาก​ลิฟวิงสโตน​เป็น​เวลา​ประมาณ​สาม​ปี. พวก​เขา​คิด​ว่า​ลิฟวิงสโตน​เสีย​ชีวิต​แล้ว. ด้วย​เหตุ​นั้น ผู้​จัด​พิมพ์​หนังสือ​พิมพ์​นิวยอร์ก​เฮรัลด์ จึง​ส่ง​นัก​ข่าว​ที่​ชื่อ เฮนรี มอร์ตัน สแตนลีย์ ไป​สืบ​หา​ว่า​ลิฟวิงสโตน​เสีย​ชีวิต​แล้ว​หรือ​ยัง​มี​ชีวิต​อยู่. แน่นอน ลิฟวิงสโตน​ไม่​ได้​หาย​สาบสูญ​ไป​ไหน. แต่​เขา​กำลัง​ขาด​แคลน​เสบียง ซ้ำ​ยัง​ป่วย​หนัก. ใน​เดือน​พฤศจิกายน 1871 คน​รับใช้​คน​หนึ่ง​ของ​ลิฟวิงสโตน​มา​ที่​บ้าน​และ​ตะโกน​ว่า ‘มาซังกู อะนาคูยา! มาซังกู อะนาคูยา!’” นั่น​เป็น​ภาษา​สวาฮิลี​ที่​หมาย​ถึง “คน​ขาว​กำลัง​มา!”

ตาม​จริง​แล้ว สแตนลีย์​ใช้​เวลา​เกือบ​แปด​เดือน​เพื่อ​ค้น​หา​ลิฟวิงสโตน. ตอน​แรก เขา​เดิน​ทาง​ไป​แอฟริกา​โดย​ผ่าน​ทาง​อินเดีย แล้ว​มา​ถึง​เกาะ​แซนซิบาร์​ใน​วัน​ที่ 6 มกราคม 1871. วัน​ที่ 21 มีนาคม 1871 เขา​เริ่ม​ออก​เดิน​ทาง​จาก​เมือง​บากาโมโย​ที่​อยู่​ทาง​ชายฝั่ง​ตะวัน​ออก​พร้อม​กับ​สัมภาระ​หก​ตัน​และ​ลูก​หาบ 200 คน. การ​เดิน​ทาง​โดย​ไม่​มี​แผนที่​เป็น​ระยะ​ทาง 1,500 กิโลเมตร​เต็ม​ไป​ด้วย​อันตราย! ฝน​ที่​ตก​อย่าง​หนัก​ทำ​ให้​แม่น้ำ​เอ่อ​ล้น​ตลิ่ง. สแตนลีย์​กับ​คณะ​ของ​เขา​เป็น​โรค​มาลาเรีย, โรค​อื่น ๆ, และ​รู้สึก​เหนื่อย​ล้า. ใน​แม่น้ำ​ทุก​สาย​ก็​มี​จระเข้​ว่าย​อยู่​เต็ม​ไป​หมด สแตนลีย์​มอง​ดู​ด้วย​ความ​สยดสยอง​เมื่อ​จระเข้​ตัว​หนึ่ง​ลาก​ลา​ตัว​สุด​ท้าย​ของ​เขา​ไป​กิน. อีก​คราว​หนึ่ง สแตนลีย์​เอง​ก็​หนี​จาก​คม​เขี้ยว​ของ​จระเข้​ตัว​หนึ่ง​ไป​ได้​อย่าง​หวุดหวิด! กระนั้น สแตนลีย์​ก็​ตั้งใจ​แน่วแน่​ว่า​จะ​ต้อง​ทำ​ให้​สำเร็จ. เขา​ได้​กำลังใจ​จาก​รายงาน​ที่​ว่า​มี​ชาย​ชรา​ผิว​ขาว​คน​หนึ่ง​อาศัย​อยู่​ใน​เขต​อูจิจิ.

เมื่อ​สแตนลีย์​เกือบ​ถึง​เมือง​อูจิจิ เขา​ก็​เตรียม​ตัว​จะ​พบ​กับ​ลิฟวิงสโตน. หนังสือ​สแตนลีย์ โดย​ริชาร์ด ฮอลล์ กล่าว​ว่า “ทั้ง ๆ ที่​สแตนลีย์​ซูบ​ผอม​และ​เหน็ด​เหนื่อย แต่​เขา​รู้สึก​ว่า​ต้อง​ทำ​ตัว​ให้​ดู​เหมือน​องอาจ​กล้า​หาญ​กว่า [นัก​สำรวจ​คน​ก่อน ๆ] เมื่อ​เดิน​เข้า​ไป​ใน​เมือง. ที่​จริง นี่​กำลัง​จะ​กลาย​เป็น​เหตุ​การณ์​สำคัญ​ครั้ง​ประวัติศาสตร์ และ​เขา​ไม่​เพียง​แต่​จะ​ทำ​ให้​เกิด​เหตุ​การณ์​นี้​เท่า​นั้น แต่​จะ​ทำ​ให้​มี​การ​บันทึก​ไว้​ด้วย. ทุก​คน​ใน​คณะ​แต่ง​กาย​ด้วย​ชุด​ที่​ดี​ที่​สุด​เท่า​ที่​มี​อยู่. สแตนลีย์​ใส่​สาย​คาด​อัน​ใหม่​รอบ​หมวก​ของ​เขา, สวม​เสื้อ​สักหลาด​สี​ขาว​สะอาด, และ​ใส่​รอง​เท้า​บูต​ที่​ขัด​เงา​อย่าง​ดี.”

สแตนลีย์​เป็น​ผู้​กล่าว​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น​ต่อ​ไป: “ใน​ที่​สุด​การ​เดิน​ทาง​มา​ถึง​จุด​สิ้น​สุด . . . มี​ชาว​อาหรับ​กลุ่ม​หนึ่ง​ซึ่ง​ดู​เหมือน​เป็น​บุคคล​ที่​สำคัญ​มาก​อยู่​ที่​นั่น และ​เมื่อ​เข้า​ไป​ใกล้ ข้าพเจ้า​เห็น​ชาย​แก่​คน​หนึ่ง​ที่​มี​ใบ​หน้า​ขาว​อยู่​ท่ามกลาง​คน​กลุ่ม​นี้ . . . เรา​เปิด​หมวก​ทักทาย​กัน และ​ข้าพเจ้า​ก็​กล่าว​ว่า ‘คุณ​คง​จะ​เป็น ดร. ลิฟวิงสโตน​ใช่​ไหม?’ และ​เขา​ตอบ​ว่า ‘ใช่.’”

เหตุ​การณ์​หลัง​จาก​นั้น

ที​แรก สแตนลีย์​วาง​แผน​จะ​อยู่​แค่​พอ​ที่​จะ​สัมภาษณ์​และ​เขียน​เรื่อง​ราว​ของ​เขา​เอง. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ลิฟวิงสโตน​และ​สแตนลีย์​กลาย​เป็น​เพื่อน​กัน​อย่าง​รวด​เร็ว. มัคคุเทศก์​ของ​เรา​กล่าว​ว่า “สแตนลีย์​อยู่​กับ​ลิฟวิงสโตน​นาน​หลาย​สัปดาห์ และ​พวก​เขา​สำรวจ​ทะเลสาบ​แทนกันยีกา​ด้วย​กัน. สแตนลีย์​พยายาม​โน้ม​น้าว​ให้​ลิฟวิงสโตน​เดิน​ทาง​กลับ​ยุโรป แต่​ลิฟวิงสโตน​ตั้งใจ​แน่วแน่​ที่​จะ​อยู่​ต่อ​และ​ค้น​หา​ต้น​แม่น้ำ​ไนล์​ให้​พบ. ดัง​นั้น วัน​ที่ 14 มีนาคม 1872 สแตนลีย์​และ​ลิฟวิงสโตน​ก็​จาก​กัน​ด้วย​ความ​เศร้า. สแตนลีย์​เดิน​ทาง​กลับ​ไป​ที่​ชายฝั่ง เขา​ซื้อ​เสบียง​และ​ส่ง​ไป​ให้​ลิฟวิงสโตน. หลัง​จาก​นั้น สแตนลีย์​ก็​มุ่ง​หน้า​กลับ​ยุโรป.”

เกิด​อะไร​ขึ้น​กับ​ลิฟวิงสโตน? มัคคุเทศก์​ของ​เรา​อธิบาย​ว่า “ใน​เดือน​สิงหาคม 1872 ลิฟวิงสโตน​กลับ​ไป​เริ่ม​ค้น​หา​ต้น​แม่น้ำ​ไนล์​อีก​ครั้ง. เขา​มุ่ง​ลง​ใต้​ไป​ยัง​แซมเบีย. แต่​ด้วย​ความ​เหนื่อย​ล้า​และ​ความ​เจ็บ​ป่วย​ทำ​ให้​สุขภาพ​ของ​เขา​ทรุดโทรม​ลง. วัน​ที่ 1 พฤษภาคม 1873 มี​คน​พบ​ว่า​เขา​เสีย​ชีวิต​แล้ว. คน​ใช้​ของ​เขา​บาง​คน . . . ได้​อาบ​ยา​รักษา​ศพ​เขา​ไว้ และ​ฝัง​หัวใจ​กับ​ลำไส้​ของ​เขา​ไว้​ใต้​ผืน​ดิน​แอฟริกา. มี​การ​ขน​ย้าย​ศพ​ของ​ลิฟวิงสโตน​เป็น​ระยะ​ทาง​ประมาณ 2,000 กิโลเมตร​ไป​ที่​บากาโมโย​เพื่อ​มิชชันนารี​จะ​รับ​ศพ​ที่​นั่น. มี​การ​จัด​ส่ง​ศพ​ของ​เขา​ผ่าน​ทาง​เรือ​ไป​ยัง​แซนซิบาร์​และ​จาก​นั้น​ก็​ส่ง​ต่อ​ไป​ยัง​บริเตน. ศพ​ของ​เขา​มา​ถึง​ลอนดอน​ใน​วัน​ที่ 15 เมษายน 1874 และ​ถูก​ฝัง​ใน​วิหาร​เวสต์มินสเตอร์​ใน​อีก​สาม​วัน​ต่อ​มา. ต้อง​ใช้​เวลา​เกือบ​หนึ่ง​ปี กว่า​ที่​ร่าง​ของ​ลิฟวิงสโตน​จะ​มา​ถึง​สถาน​ที่​ฝัง​สุด​ท้าย.”

สแตนลีย์​เดิน​ทาง​กลับ​ไป​ยัง​แอฟริกา​เพื่อ​สาน​ต่อ​งาน​ที่​ลิฟวิงสโตน​ทำ​ค้าง​ไว้. การ​เดิน​ทาง​ของ​สแตนลีย์​ทำ​ให้​มี​การ​สำรวจ​พื้น​ที่​รอบ ๆ ทะเลสาบ​วิกตอเรีย​และ​ทะเลสาบ​แทนกันยีกา รวม​ทั้ง​แม่น้ำ​คองโก​ที่​ยิ่ง​ใหญ่.

คง​อด​ไม่​ได้​ที่​จะ​ชื่นชม​ความ​กล้า​หาญ​และ​ความ​ตั้งใจ​แน่วแน่​ของ​บุรุษ​เช่น​ลิฟวิงสโตน​และ​สแตนลีย์. สารานุกรม​บริแทนนิกา กล่าว​เกี่ยว​กับ​ลิฟวิงสโตน​ว่า “การ​ค้น​พบ​ของ​เขา—ทั้ง​ทาง​ด้าน​ภูมิศาสตร์, วิชาการ, การ​แพทย์, และ​สังคม—ทำ​ให้​เกิด​ขุม​ทรัพย์​แห่ง​ความ​รู้​ซึ่ง​ยัง​คง​ต้อง​ทำ​การ​สำรวจ​กัน​ต่อ​ไป.” และ​ขณะ​ที่​ปัจจุบัน​ลิฟวิงสโตน​และ​สแตนลีย์​ได้​รับ​การ​ระลึก​ถึง​ใน​ฐานะ​นัก​สำรวจ ไม่​ใช่​ผู้​เผยแพร่​และ​นัก​ข่าว แต่​งาน​ของ​พวก​เขา​ก็​ช่วย​เปิด​ทาง​ให้​ความ​รู้​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​แพร่​หลาย​ออก​ไป​อย่าง​กว้างขวาง​ใน​อีก​หลาย​สิบ​ปี​ต่อ​มา.

ด้วย​เหตุ​นั้น มิชชันนารี​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​จึง​สามารถ​ช่วย​ชาว​แอฟริกา​หลาย​แสน​คน​ให้​รับ​เอา​ความ​จริง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล. ที่​จริง ใน​อูจิจิ​ซึ่ง​เป็น​ที่​ที่​สแตนลีย์​พบ​กับ​ลิฟวิงสโตน​เป็น​ครั้ง​แรก งาน​สอน​ความ​จริง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ของ​พยาน​ฯ เป็น​งาน​ที่​รู้​จัก​กัน​ดี จึง​ไม่​แปลก​ที่​คน​ใน​ท้องถิ่น​จะ​ถาม​พยาน​ฯ ที่​ยืน​อยู่​หน้า​ประตู​บ้าน​ว่า “คุณ​คง​จะ​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใช่​ไหม?”

[แผนที่​หน้า 23]

(ราย​ละเอียด​ดู​จาก​วารสาร)

ทะเลสาบ​วิกตอเรีย

การ​เดิน​ทาง​สำรวจ​ของ​ลิฟวิงสโตน

เคปทาวน์

พอร์ต เอลิซาเบท

คูรูมาน

ทะเลสาบ​เองกามี

ลินยันตี

ลูอันดา

น้ำ​ตก​วิกตอเรีย

ควีลิมาเน

โมซัมบิก

มิกินดานี

แซนซิบาร์

ชิตัมโบ

ทะเลสาบ​แทนกันยีกา

นียังเว

อูจิจิ​ที่​ที่​ชาย​สอง​คน​พบ​กัน

สแตนลีย์​ค้น​หา​ลิฟวิงสโตน​ใน​ปี 1871

แซนซิบาร์

บากาโมโย

อูจิจิ​ที่​ที่​ชาย​สอง​คน​พบ​กัน

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

Map: Mountain High Maps® Copyright © 1997 Digital Wisdom, Inc.

[ภาพ​หน้า 22, 23]

เดวิด ลิฟวิงสโตน

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

Livingstone: From the book Missionary Travels and Researches in South Africa, 1858

[ภาพ​หน้า 22, 23]

เฮนรี เอ็ม. สแตนลีย์

[ภาพ​หน้า 23]

น้ำ​ตก​วิกตอเรีย

[ภาพ​หน้า 24]

พยาน​พระ​ยะโฮวา​คน​หนึ่ง​แบ่ง​ปัน​ความ​จริง​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล​ใน​อูจิจิ