เรียนจากผู้รับใช้ที่ภักดีของพระยะโฮวา
“พระองค์ต้องการอะไรจากคุณหรือ? พระองค์แค่ขอให้คุณเป็นคนยุติธรรม รักความภักดี และใช้ชีวิตตามแนวทางของพระเจ้าด้วยความเจียมตัว”—มคา. 6:8
1, 2. ดาวิดแสดงอย่างไรว่าเขาภักดีต่อพระเจ้า? (ดูภาพแรก)
ดาวิดกับคนของเขาหนีซาอูลที่ตามฆ่าเข้าไปในป่ากันดารยูดาห์ คืนหนึ่ง ดาวิดและคนของเขาก็เข้าไปในค่ายของซาอูล ตอนนั้น ซาอูลและพวกทหาร 3,000 คนนอนหลับกันหมด ดาวิดและอาบีชัยค่อย ๆ เดินผ่านทหารที่อยู่ในค่ายจนไปถึงตัวซาอูล อาบีชัยกระซิบดาวิดว่า “ให้ผมเอาหอกแทงเขาติดกับพื้นเถอะ แค่ครั้งเดียว ไม่ต้องซ้ำเลย” แต่ดาวิดไม่ยอมให้อาบีชัยฆ่าซาอูล เขาบอกอาบีชัยว่า “อย่าทำอะไรเขา เพราะคนที่ทำร้ายผู้ที่พระยะโฮวาเจิมไว้จะมีความผิดแน่” ดาวิดพูดอีกว่า “พระยะโฮวาต้องไม่ชอบแน่ ๆ ถ้าผมทำร้ายผู้ที่พระยะโฮวาเจิมไว้!”—1 ซม. 26:8-12
2 ดาวิดรู้ว่าเขาต้องทำอะไรเพื่อจะแสดงความภักดีต่อพระยะโฮวา เขารู้ว่าเขาควรให้เกียรติซาอูล เขาไม่เคยคิดทำร้ายซาอูลเลย เพราะอะไร? เพราะพระเจ้าเป็นผู้เลือกซาอูลให้มาเป็นกษัตริย์ปกครองอิสราเอล ในสมัยนี้ก็เป็นมีคาห์ 6:8
เหมือนในสมัยก่อน พระยะโฮวาอยากให้ผู้รับใช้พระองค์ภักดีต่อพระองค์ และอยากให้พวกเขาให้เกียรติคนที่พระองค์แต่งตั้งให้มีอำนาจ—อ่าน3. อาบีชัยภักดีต่อดาวิดอย่างไร?
3 อาบีชัยให้เกียรติดาวิดเพราะเขารู้ว่าพระเจ้าเลือกดาวิดให้เป็นกษัตริย์ หลังจากได้เป็นกษัตริย์ ดาวิดทำผิดร้ายแรง เขามีเพศสัมพันธ์กับภรรยาของอุรีอาห์ และให้โยอาบจัดการให้อุรีอาห์ไปตายในสงคราม (2 ซม. 11:2-4, 14, 15; 1 พศ. 2:16) อาบีชัยเป็นพี่น้องกับโยอาบ ดังนั้น อาบีชัยคงรู้ว่าดาวิดทำอะไร แต่เขาก็ยังให้เกียรติดาวิด นอกจากนั้น อาบีชัยเป็นหัวหน้ากองทหาร เขาอาจใช้อำนาจที่เขามีในตอนนั้นตั้งตัวเป็นกษัตริย์ก็ได้ แต่เขาไม่เคยทำอย่างนั้น อาบีชัยรับใช้และปกป้องดาวิดจากพวกศัตรู—2 ซม. 10:10; 20:6; 21:15-17
4. (ก) ดาวิดเป็นตัวอย่างที่ดีอย่างไรในการภักดีต่อพระเจ้า? (ข) เราจะเรียนอะไรในบทความนี้?
4 ดาวิดภักดีต่อพระยะโฮวาตลอดชีวิตของเขา ตอนที่เขายังหนุ่ม ดาวิดฆ่าโกลิอัทที่มาเยาะเย้ยพระเจ้าและชาวอิสราเอล (1 ซม. 17:23, 26, 48-51) หลังจากที่ดาวิดเป็นกษัตริย์เขาทำผิด นาธันผู้พยากรณ์ของพระเจ้าว่ากล่าวตักเตือนเขา ดาวิดยอมรับผิดทันทีและกลับตัวกลับใจ (2 ซม. 12:1-5, 13) หลังจากนั้น ตอนที่ดาวิดอายุมากแล้ว เขาให้ของมีค่าจำนวนมากเพื่อช่วยสร้างวิหารของพระเจ้า (1 พศ. 29:1-5) เห็นได้ชัดว่า ถึงแม้ดาวิดจะทำผิดร้ายแรง แต่เขาไม่เคยหยุดแสดงความภักดีต่อพระยะโฮวาเลย (สด. 51:4, 10; 86:2) ในบทความนี้ เราจะดูตัวอย่างของดาวิดและคนอื่น ๆ ที่มีชีวิตอยู่ในสมัยนั้น เราจะเรียนรู้วิธีที่จะให้ความภักดีต่อพระยะโฮวามาก่อนสิ่งอื่น ๆ เสมอ และจะดูว่ามีคุณลักษณะอะไรอีกที่ช่วยเราให้ภักดีต่อพระเจ้าได้
คุณจะภักดีต่อพระยะโฮวาไหม?
5. เราได้บทเรียนอะไรจากความผิดพลาดของอาบีชัย?
5 อาบีชัยพยายามแสดงความภักดีต่อดาวิด เขาเลยตั้งใจจะฆ่าซาอูล แต่ดาวิดรู้ว่าเป็นเรื่องผิดที่จะทำร้าย “ผู้ที่พระยะโฮวาเจิม” เขาจึงไม่ยอมให้อาบีชัยทำอย่างนั้น (1 ซม. 26:8-11) เรื่องนี้สอนบทเรียนสำคัญกับเราทุกคนคือ เมื่อเราต้องเลือกว่าจะแสดงความภักดีต่อใครก่อน เราต้องคิดดูว่ามีหลักการในคัมภีร์ไบเบิลข้อไหนที่ช่วยเราตัดสินใจในเรื่องนี้
6. ทั้ง ๆ ที่เป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะภักดีต่อเพื่อนหรือครอบครัวเรา แต่ทำไมเราต้องระวัง?
6 เป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะภักดีต่อคนที่เรารัก เช่น เพื่อนหรือครอบครัวเรา แต่เนื่องจากเราไม่สมบูรณ์แบบ ความรู้สึกของเราอาจทำให้เราตัดสินใจผิดก็ได้ (ยรม. 17:9) ดังนั้น ถ้าคนที่เรารักทำผิดและทิ้งความจริงไป เราต้องจำไว้ว่า เราต้องให้ความภักดีของเราต่อพระยะโฮวาสำคัญที่สุด—อ่านมัทธิว 22:37
7. พี่น้องผู้หญิงคนหนึ่งรักษาความภักดีต่อพระยะโฮวาอย่างไรแม้ไม่ง่าย?
7 ถ้ามีบางคนในครอบครัวเราถูกตัดสัมพันธ์ เราก็ยังเลือกที่จะภักดีต่อพระยะโฮวาได้ ตัวอย่างเช่น ครั้งหนึ่งแม่ของแอน [1]ที่ถูกตัดสัมพันธ์โทรศัพท์หาเธอและบอกว่าอยากมาหาเธอ แม่บอกว่าแม่ไม่มีความสุขเลยเพราะครอบครัวไม่ยอมคุยด้วย แอนเสียใจที่ได้ยินอย่างนั้น เธอสัญญาว่าจะเขียนจดหมายไปหา ก่อนจะเขียนจดหมาย แอนได้ทบทวนหลักการต่าง ๆ ในคัมภีร์ไบเบิล (1 คร. 5:11; 2 ยน. 9-11) ในจดหมายที่เธอเขียนถึงแม่ แอนอธิบายอย่างนุ่มนวลว่าแม่ของเธอเป็นคนจากครอบครัวไปเองเพราะแม่ทำผิดและไม่ยอมกลับใจ แอนบอกแม่ว่าวิธีเดียวที่แม่จะกลับมามีความสุขอีกครั้งก็คือ แม่ต้องกลับมาหาพระยะโฮวา—ยก. 4:8
8. คุณลักษณะอะไรบ้างที่ช่วยเราให้ภักดีต่อพระยะโฮวา?
8 ผู้รับใช้ที่ภักดีต่อพระเจ้าในสมัยของดาวิดยังถ่อมตัว กล้าหาญ กรุณาและนุ่มนวลด้วย ขอเราดูว่าคุณลักษณะแบบนี้ช่วยเราอย่างไรให้ภักดีต่อพระยะโฮวา
เราต้องถ่อมตัว
9. ทำไมอับเนอร์พยายามฆ่าดาวิด?
9 ตอนที่ดาวิดเอาหัวของโกลิอัทไปให้กษัตริย์ซาอูล ทั้งโยนาธานลูกชายของซาอูลและอับเนอร์แม่ทัพใหญ่ของอิสราเอลได้เห็นเหตุการณ์นั้น โยนาธานได้มาเป็นเพื่อนของดาวิดและภักดีต่อเขา (1 ซม. 17:57-18:3) แต่อับเนอร์ไม่ได้เป็นอย่างนั้น อับเนอร์ช่วยซาอูลตอนที่เขาพยายามฆ่าดาวิด (1 ซม. 26:1-5; สด. 54:3) ทั้งโยนาธานและอับเนอร์รู้ว่าพระยะโฮวาอยากให้ดาวิดเป็นกษัตริย์คนต่อไปของอิสราเอล แต่หลังจากที่ซาอูลตาย อับเนอร์ไม่ได้สนับสนุนดาวิด แทนที่จะทำอย่างนั้น เขาพยายามจะให้อิชโบเชทลูกชายอีกคนของซาอูลมาเป็นกษัตริย์ หลังจากนั้น อับเนอร์อาจอยากเป็นกษัตริย์เอง นี่คงเป็นเหตุผลที่เขาไปมีเพศสัมพันธ์กับภรรยาคนหนึ่งของซาอูล (2 ซม. 2:8-10; 3:6-11) ทำไมโยนาธานกับอับเนอร์จึงมีความคิดแตกต่างกันเกี่ยวกับดาวิด? เพราะโยนาธานภักดีต่อพระยะโฮวา เขาเป็นคนถ่อมตัว แต่อับเนอร์ไม่ได้เป็นอย่างนั้น
10. ทำไมอับซาโลมไม่ภักดีต่อพระเจ้า?
10 อับซาโลมลูกชายของกษัตริย์ดาวิดก็ไม่ภักดีต่อพระเจ้าเพราะเขาไม่ถ่อมตัว อับซาโลมอยากเป็นกษัตริย์ เขาจึง “หารถม้ามาคันหนึ่งกับฝูงม้า และให้ผู้ชาย 50 คนวิ่งนำหน้ารถม้าของเขา” (2 ซม. 15:1) อับซาโลมพยายามชักชวนชาวอิสราเอลให้ภักดีต่อเขา เขาพยายามฆ่าพ่อของตัวเองทั้ง ๆ ที่เขาเองก็รู้อยู่แล้วว่าพระยะโฮวาได้แต่งตั้งดาวิดให้เป็นกษัตริย์อิสราเอล—2 ซม. 15:13, 14; 17:1-4
11. เราได้เรียนอะไรจากตัวอย่างของอับเนอร์ อับซาโลม และบารุค?
11 ถ้าใครคนหนึ่งไม่ถ่อมตัวและอยากมีอำนาจมากขึ้น ก็เป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะรักษาความภักดีต่อพระเจ้า แน่นอน พวกเรารักพระยะโฮวา เราไม่อยากเห็นแก่ตัวและชั่วเหมือนอับเนอร์กับอับซาโลม แต่เราต้องระวังที่จะไม่เริ่มคิดอยากมีเงินมาก ๆ หรือทำงานที่มีหน้ามีตา ความคิดแบบนี้ทำให้ความสัมพันธ์ที่เรามีกับพระเจ้าแย่ลง ครั้งหนึ่ง บารุคเลขานุการของเยเรมีย์อยากยรม. 45:4, 5) บารุคฟังพระยะโฮวา เราก็ต้องฟังพระยะโฮวาด้วย เพราะอีกไม่นานพระองค์จะทำลายโลกที่ชั่วช้านี้
ได้บางอย่างที่เขาไม่มี เขาเริ่มไม่มีความสุขในงานรับใช้พระเจ้า พระยะโฮวาบอกบารุคว่า “เรากำลังจะรื้อสิ่งที่เราสร้างไว้และจะถอนสิ่งที่เราปลูกไว้ทั่วแผ่นดินนี้ แต่เจ้ากลับพยายามหาของใหญ่ให้ตัวเอง เลิกซะเถอะ” (12. ขอยกตัวอย่างว่าถ้าเรายังคิดถึงแต่ตัวเอง เราอาจจะไม่ภักดีต่อพระเจ้าได้
12 ดาเนียลพี่น้องผู้ชายในเม็กซิโกต้องตัดสินใจว่าเขาจะภักดีต่อใคร ดาเนียลอยากแต่งงานกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่ได้นมัสการพระยะโฮวา เขาบอกว่า “ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นเป็นไพโอเนียร์แล้ว ผมยังเขียนถึงผู้หญิงคนนั้นอยู่เลย” หลังจากนั้น ดาเนียลรู้ว่าเขาคิดถึงแต่ความต้องการของตัวเอง เขาไม่ได้ภักดีต่อพระยะโฮวา และเขาต้องถ่อมตัวมากกว่านี้ ดาเนียลจึงตัดสินใจบอกเรื่องนี้กับผู้ดูแลที่มีประสบการณ์คนหนึ่ง ดาเนียลเล่าว่า “ผู้ดูแลคนนี้ช่วยผมให้รู้ว่าถ้าผมอยากภักดีต่อพระเจ้า ผมต้องหยุดเขียนจดหมายถึงผู้หญิงคนนั้น หลังจากอธิษฐานและร้องไห้หลายครั้ง ผมก็ทำได้ และผมมีความสุขในงานรับใช้เพิ่มขึ้นด้วย” ตอนนี้ ดาเนียลมีภรรยาที่รักพระยะโฮวา และรับใช้เป็นผู้ดูแลหมวด
ความภักดีต่อพระเจ้าช่วยเราให้เป็นคนกรุณาและนุ่มนวล
13. ตอนที่ดาวิดทำผิดร้ายแรง นาธันแสดงความภักดีต่อพระเจ้าและต่อดาวิดอย่างไร?
13 ถ้าเราภักดีต่อพระยะโฮวา เราก็จะภักดีต่อคนอื่น ๆ และช่วยพวกเขาอย่างดีที่สุดด้วย ผู้พยากรณ์นาธันภักดีต่อพระยะโฮวา และเขาก็ภักดีต่อดาวิดด้วย หลังจากที่ดาวิดเอาภรรยาของคนอื่นมาเป็นภรรยาตัวเอง และฆ่าสามีของเธอ พระยะโฮวาส่งนาธันไปให้คำแนะนำดาวิด นาธันกล้าหาญและเชื่อฟังพระยะโฮวา แต่เขาก็ทำอย่างฉลาดและพูดกับดาวิดอย่างนุ่มนวล นาธันอยากช่วยดาวิดให้เข้าใจว่าความผิดที่เขาทำนั้นร้ายแรงขนาดไหน เขาเล่าเรื่องคนรวยคนหนึ่งที่ขโมยแกะของคนจน พอดาวิดได้ยินเรื่องนั้น เขาโกรธคนรวยคนนั้นมาก นาธันจึงบอกว่า “ผู้ชายคนนั้นคือท่านนั่นแหละ!” นี่ทำให้ดาวิดรู้ว่าเขาได้ทำบาปต่อพระเจ้าแล้ว—2 ซม. 12:1-7, 13
14. เราจะแสดงความภักดีทั้งต่อพระยะโฮวา และต่อเพื่อน ๆ กับคนในครอบครัวของเราได้อย่างไร?
14 แบบเดียวกับนาธัน คุณสามารถแสดงความภักดีต่อพระยะโฮวาก่อน และภักดีต่อคนอื่น ๆ ได้ด้วยโดยการเป็นคนกรุณาและนุ่มนวล เช่น คุณรู้ว่ามีพี่น้องคนหนึ่งทำผิดร้ายแรง คุณอาจอยากภักดีต่อเขา โดยเฉพาะถ้าเขาเป็นเพื่อนสนิทของคุณหรือเป็นคนในครอบครัวคุณ แต่คุณรู้ด้วยว่าการแสดงความภักดีต่อพระยะโฮวานั้นสำคัญกว่า เหมือนกับนาธันเราต้องเชื่อฟังพระเจ้าและต้องปฏิบัติกับพี่น้องอย่างนุ่มนวล เราต้องบอกเขาให้ไปขอความช่วยเหลือจากผู้ดูแลให้เร็วที่สุด ถ้าเขายังไม่ทำ คุณก็ต้องไปบอกเอง ถ้าทำอย่างนี้ คุณก็แสดงความภักดีต่อพระยะโฮวา และคุณก็แสดงความกรุณากับพี่น้องด้วยเพราะผู้ดูแลสามารถช่วยเขาให้กลับมาใกล้ชิดกับพระยะโฮวาได้อีก พวกผู้ดูแลจะช่วยเขาอย่างสุขุมและอ่อนโยน—อ่านเราต้องมีความกล้าหาญเพื่อจะภักดีต่อพระเจ้า
15, 16. หุชัยต้องมีความกล้าหาญอย่างไรเพื่อจะภักดีต่อพระเจ้า?
15 หุชัยเป็นเพื่อนที่ภักดีอีกคนหนึ่งของดาวิด ตอนที่ประชาชนอยากตั้งอับซาโลมเป็นกษัตริย์ หุชัยกล้าหาญที่จะแสดงความภักดีต่อดาวิดและต่อพระเจ้า ตอนนั้น เขารู้ว่าอับซาโลมยกกองทัพมาที่เยรูซาเล็ม ส่วนดาวิดต้องหลบหนี (2 ซม. 15:13; 16:15) หุชัยทำอะไร? เขาทิ้งดาวิดและหันไปอยู่ฝ่ายอับซาโลมไหม? ไม่เลย ถึงแม้ดาวิดอายุมากแล้วและมีแต่คนจ้องจะฆ่าเขา แต่หุชัยยังภักดีต่อดาวิดเพราะเขารู้ว่าพระยะโฮวาแต่งตั้งดาวิดให้เป็นกษัตริย์ หุชัยก็เลยไปหาดาวิดที่ภูเขามะกอก—2 ซม. 15:30, 32
16 ดาวิดขอให้หุชัยกลับไปที่เยรูซาเล็มและแกล้งอยู่ฝ่ายอับซาโลม อับซาโลมจะได้ฟังคำแนะนำของหุชัยแทนคำแนะนำของอาหิโธเฟล หุชัยต้องกล้าหาญและเสี่ยงชีวิตเพื่อจะเชื่อฟังดาวิดและภักดีต่อพระยะโฮวาได้ ดาวิดอธิษฐานให้พระยะโฮวาช่วยหุชัย และพระองค์ก็ทำอย่างนั้นจริง ๆ อับซาโลมหลงกลฟังหุชัยไม่ฟังอาหิโธเฟล—2 ซม. 15:31; 17:14
17. ทำไมเราต้องมีความกล้าหาญเพื่อจะแสดงความภักดี?
17 พวกเราต้องกล้าหาญเพื่อจะภักดีต่อพระเจ้าและเชื่อฟังพระองค์ แทนที่จะทำตามใจครอบครัวของเรา หรือทำตามสิ่งที่เพื่อนที่ทำงานหรือเจ้าหน้าที่รัฐบาลอยากให้เราทำ ตัวอย่างเช่น พี่น้องคนหนึ่งชื่อทาโรในประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่เป็นเด็กเขาทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อให้พ่อแม่มีความสุข เขาเชื่อฟังและภักดีต่อพ่อแม่ ที่เขาเป็นอย่างนั้นไม่ใช่เพราะทำตามหน้าที่ แต่เขารักพ่อแม่มาก พอทาโรได้เรียนคัมภีร์ไบเบิลกับพยานพระยะโฮวา พ่อแม่อยากให้เขาเลิก เขาเสียใจมากเพราะเขากำลังจะไปบอกพ่อแม่ว่าเขาตัดสินใจจะไปประชุม ทาโรเล่าว่า “พ่อแม่โกรธผมมาก และไม่ยอมให้ผมไปหาที่บ้านอยู่หลายปี ผมอธิษฐานขอความกล้าหาญที่จะทำตามสิ่งที่ผมได้ตัดสินใจ ตอนนี้พ่อแม่ก็เริ่มรู้สึกดีขึ้น และผมก็ไปหาพวกเขาได้บ่อย ๆ”—อ่านสุภาษิต 29:25
18. คุณได้รับประโยชน์อะไรจากการศึกษาบทความนี้?
18 เหมือนกับดาวิด โยนาธาน นาธัน และหุชัย พวกเรารู้ดีว่าถ้าเราภักดีต่อพระเจ้า เราจะรู้สึกอิ่มใจพอใจ เราไม่อยากเป็นเหมือนอับเนอร์และอับซาโลมที่ไม่ภักดีต่อพระเจ้า เป็นเรื่องจริงที่เราไม่สมบูรณ์แบบและทำผิดอยู่เรื่อย ๆ แต่ขอเราทุกคนทำให้พระยะโฮวาเห็นว่าความภักดีที่เรามีให้กับพระองค์เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเรา
^ [1] (ข้อ 7) บางชื่อเป็นชื่อสมมุติ