ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

เรื่อง​ราว​ชีวิต​จริง

ตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่ท้อและถอดใจ

ตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่ท้อและถอดใจ

พี่​น้อง​วัยรุ่น​หลาย​คน​ใน​เบเธล​ชอบ​เรียก​ผม​ว่า “ลุง” บาง​คน​เรียก​ผม​ว่า “ปะป๊า” หรือ “แดดดี๊” ใน​ฐานะ​ที่​ผม​อายุ 89 แล้ว ผม​ชอบ​ที่​พวก​เขา​เรียก​ผม​อย่าง​นี้ มัน​ทำ​ให้​ผม​รู้สึก​ว่า​พวก​เขา​รัก​ผม และ​นี่​ก็​เป็น​เหมือน​รางวัล​จาก​พระ​ยะโฮวา​ที่​ผม​รับใช้​เต็ม​เวลา​มา 72 ปี​แล้ว และ​จาก​ประสบการณ์​ที่​ผม​รับใช้​พระองค์ ผม​รับรอง​กับ​พี่​น้อง​วัยรุ่น​พวก​นั้น​ได้​เลย​ว่า ‘สิ่ง​ที่​พวก​คุณ​ทำ​จะ​ได้​ผล​ตอบ​แทน​แน่นอน ถ้า​พวก​คุณ​ไม่​ท้อ​และ​ถอด​ใจ​ไป​ซะ​ก่อน’—2 พงศาวดาร 15:7

พ่อ​แม่​กับ​พี่​น้อง​ของ​ผม

พ่อ​แม่​ของ​ผม​ย้าย​จาก​ยูเครน​มา​ที่​แคนาดา พวก​เขา​ตั้ง​รกราก​อยู่​ที่​เมือง​รอส​เบิร์น​ใน​รัฐ​แมนิโทบา แม่​ผม​คลอด​ลูก​ชาย 8 คน และ​ลูก​สาว 8 คน ไม่​มี​ใคร​เป็น​แฝด ผม​เป็น​คน​ที่ 14 พ่อ​ผม​รัก​คัมภีร์​ไบเบิล​มาก​และ​จะ​อ่าน​ให้​เรา​ฟัง​ทุก​เช้า​วัน​อาทิตย์ แต่​พ่อ​มอง​ศาสนา​ว่า​เป็น​แค่​อุบาย​หลอก​เอา​เงิน พ่อ​ชอบ​พูด​ขำ ๆ ว่า “พ่อ​สงสัย​ว่า ตอน​ที่​พระ​เยซู​เทศน์​และ​สอน ใคร​เป็น​คน​จ่าย​เงิน​ให้​พระ​เยซู?”

พี่​น้อง​ของ​ผม​ที่​เป็น​ผู้​ชาย 4 คน​และ​ผู้​หญิง 4 คน​ได้​มา​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา พี่​สาว​ของ​ผม​ที่​ชื่อ​โรส​เป็น​ไพโอเนียร์​จน​เสีย​ชีวิต ใน​ช่วง​สุด​ท้าย​ของ​ชีวิต พี่​โรส​ชอบ​กระตุ้น​ให้​คน​สนใจ​คัมภีร์​ไบเบิล​โดย​บอก​กับ​ทุก​คน​ที่​เจอ​ว่า “ฉัน​อยาก​จะ​เจอ​เธอ​ใน​โลก​ใหม่​นะ” ส่วน​พี่​ชาย​ที่​ชื่อ​เท็ด ตอน​แรก​ก็​เป็น​นัก​เทศน์​ที่​ชอบ​เทศน์​เรื่อง​ไฟ​นรก ทุก​เช้า​วัน​อาทิตย์​เขา​จะ​เทศน์​ใน​วิทยุ เขา​มัก​จะ​พูด​แรง ๆ ซ้ำ ๆ ว่า​คน​บาป​จะ​ถูก​เผา​ใน​ไฟ​นรก​ชั่ว​กัป​ชั่ว​กัลป์ ต่อ​มา พี่​เท็ด​กลาย​มา​เป็น​ผู้​รับใช้​ที่​ซื่อ​สัตย์​และ​กระตือรือร้น​ของ​พระ​ยะโฮวา

ผม​เริ่ม​งาน​รับใช้​เต็ม​เวลา

วัน​หนึ่ง​ใน​เดือน​มิถุนายน 1944 ผม​กลับ​มา​จาก​โรง​เรียน พอ​ถึง​บ้าน​ผม​ก็​เห็น​หนังสือ​เล่ม​เล็ก​เล่ม​หนึ่ง​วาง​อยู่​บน​โต๊ะ​ใน​ห้อง​อาหาร หนังสือ​นั้น​มี​ชื่อ​ว่า​การ​มา​ของ​โลก​ที่​ได้​รับ​การ​ฟื้นฟู (ภาษา​อังกฤษ) * ผม​เริ่ม​อ่าน​หน้า​แรก แล้ว​ก็​อ่าน​หน้า​ที่​สอง แล้ว​ก็​อ่าน​ต่อ​ไป​เรื่อย ๆ ผม​ติด​ใจ​จน​วาง​ไม่​ลง พอ​อ่าน​จบ​ทั้ง​เล่ม ผม​ตั้งใจ​ทันที​ว่า​จะ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​เหมือน​ที่​พระ​เยซู​ทำ

แต่​หนังสือ​เล่ม​นี้​มา​อยู่​บน​โต๊ะ​ใน​บ้าน​ของ​เรา​ได้​อย่าง​ไร? สตีฟ​พี่​ชาย​ของ​ผม​เล่า​ว่า มี​ผู้​ชาย 2 คน​มา​ขาย​หนังสือ​ที่​หน้า​บ้าน พี่​บอก​ว่า “พี่​เป็น​คน​ซื้อ​หนังสือ​เล่ม​นั้น​มา เพราะ​มัน​แค่ 5 เซนต์​เอง” ใน​วัน​อาทิตย์​ถัด​ไป​ผู้​ชาย 2 คน​นั้น​ก็​กลับ​มา​ที่​บ้าน​เรา​อีก พวก​เขา​บอก​ว่า​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา​และ​ใช้​คัมภีร์​ไบเบิล​ตอบ​คำ​ถาม​ต่าง ๆ ให้​กับ​ผู้​คน เรา​รู้สึก​ชอบ​ทันที​เพราะ​พ่อ​กับ​แม่​สอน​เรา​ให้​นับถือ​คัมภีร์​ไบเบิล ผู้​ชาย 2 คน​นั้น​บอก​เรา​ด้วย​ว่า พยาน​ฯ กำลัง​จะ​มี​การ​ประชุม​ใหญ่​ที่​เมือง​วินนิเพก พี่​สาว​ของ​ผม​ที่​ชื่อ​เอลซี​อยู่​ที่​นั่น ผม​เลย​ตัดสิน​ใจ​ไป​ประชุม​ที่​นั่น​ดู

ผม​ขี่​จักรยาน​บน​ทาง​ที่​ขรุขระ​ประมาณ 320 กิโลเมตร​ถึง​เมือง​วินนิเพก แต่​ระหว่าง​ทาง​ก็​หยุด​พัก​ที่​เมือง​เคล​วูด​ซึ่ง​พี่​น้อง 2 คน​ที่​มา​เยี่ยม​เรา​อยู่​ที่​นั่น ตอน​ที่​ผม​อยู่​ที่​เมือง​นั้น ผม​ได้​ไป​ประชุม​และ​ได้​เข้าใจ​ว่า​ประชาคม​เป็น​อย่าง​ไร ผม​เพิ่ง​รู้​ว่า​ทุก​คน​ไม่​ว่า​ผู้​ชาย ผู้​หญิง หรือ​เด็ก​ต้อง​ไป​สอน​ตาม​บ้าน​เหมือน​พระ​เยซู

ที่​เมือง​วินนิเพก ผม​ได้​เจอ​กับ​พี่​ชาย​ของ​ผม​ที่​ชื่อ​แจ็ค​ซึ่ง​เดิน​ทาง​มา​จาก​ทาง​เหนือ​ของ​รัฐ​ออนแทรีโอ​เพื่อ​มา​ประชุม​เหมือน​กัน ใน​การ​ประชุม​วัน​แรก พี่​น้อง​ชาย​คน​หนึ่ง​ประกาศ​ว่า​จะ​มี​การ​รับ​บัพติศมา​ใน​การ​ประชุม​ครั้ง​นั้น​ด้วย ผม​กับ​พี่​แจ็ค​ตัดสิน​ใจ​รับ​บัพติศมา เรา​ทั้ง​สอง​คน​ตั้งใจ​ว่า​หลัง​รับ​บัพติศมา เรา​จะ​เริ่ม​เป็น​ไพโอเนียร์​เร็ว​ที่​สุด​เท่า​ที่​จะ​เป็น​ไป​ได้ หลัง​จาก​การ​ประชุม​ใหญ่​ครั้ง​นั้น พี่​แจ็ค​ก็​เป็น​ไพโอเนียร์​ทันที แต่​ตอน​นั้น​ผม​อายุ 16 ผม​เลย​ต้อง​กลับ​ไป​เรียน​หนังสือ แต่​พอ​ปี​ถัด​มา​ผม​ก็​เป็น​ไพโอเนียร์​ประจำ​ด้วย​เหมือน​กัน

ได้​รับ​บทเรียน

ผม​เริ่ม​เป็น​ไพโอเนียร์​ที่​เมือง​ซู​รี​ใน​รัฐ​แมนิโทบา​คู่​กับ​สแตน นิโคลสัน แล้ว​ผม​ก็​ได้​มา​รู้​ว่า​การ​เป็น​ไพโอเนียร์​มัน​ไม่​ง่าย​เลย เงิน​ของ​เรา​ร่อยหรอ​ลง​ไป​เรื่อย ๆ แต่​เรา​ก็​ยัง​ออก​ไป​ประกาศ วัน​หนึ่ง​หลัง​จาก​ประกาศ​มา​ทั้ง​วัน เรา​หิว​มาก​แต่​ไม่​มี​เงิน​เหลือ​เลย พอ​มา​ถึง​บ้าน เรา​ตกใจ​มาก​ที่​เห็น​อาหาร​ถุง​ใหญ่​อยู่​ที่​ประตู จน​ถึง​ตอน​นี้​ก็​ยัง​ไม่​มี​ใคร​รู้​ว่า​มัน​มา​จาก​ไหน เย็น​วัน​นั้น​เรา​กิน​กัน​อย่าง​ราชา นั่น​เป็น​รางวัล​ที่​เรา​ไม่​ท้อ​และ​ถอด​ใจ พอ​สิ้น​เดือน​ผม​ชั่ง​น้ำหนัก ตอน​นั้น​เป็น​ตอน​ที่​ผม​น้ำหนัก​มาก​ที่​สุด​ใน​ชีวิต​เลย!

สอง​สาม​เดือน​ต่อ​มา เรา​ถูก​มอบหมาย​ให้​ไป​ที่​เมือง​กิลเบิร์ตเพลนส์​ซึ่ง​อยู่​ทาง​เหนือ​ของ​เมือง​ซู​รี​ประมาณ 240 กิโลเมตร ใน​สมัย​นั้น ทุก​ประชาคม​จะ​มี​กระดาน​แผ่น​ใหญ่​บน​เวที​ที่​พูด​ถึง​ผล​งาน​การ​รับใช้​ใน​แต่​ละ​เดือน มี​เดือน​หนึ่ง​ที่​ผล​งาน​ตก ผม​เลย​บรรยาย​กับ​พี่​น้อง​ว่า​พวก​เขา​ต้อง​ทำ​มาก​ขึ้น พอ​ประชุม​จบ พี่​น้อง​ไพโอเนียร์​สูง​อายุ​คน​หนึ่ง​ที่​สามี​ไม่​ได้​เป็น​พยาน​ฯ ก็​เดิน​มา​หา​ผม เธอ​พูด​กับ​ผม​ทั้ง​น้ำตา​ว่า “ป้า​พยายาม​แล้ว​นะ แต่​ป้า​ทำ​มาก​กว่า​นี้​ไม่​ไหว​จริง ๆ” พอ​ได้​ยิน​อย่าง​นั้น ผม​ก็​เริ่ม​ร้องไห้​แล้ว​ก็​ขอ​โทษ​ป้า

มัน​เป็น​เรื่อง​ง่าย​จริง ๆ ที่​พี่​น้อง​หนุ่ม​ไฟ​แรง​จะ​ทำ​ผิด​พลาด​อย่าง​ที่​ผม​ทำ แล้ว​ก็​รู้สึก​ผิด​หวัง​กับ​ตัว​เอง แต่​ประสบการณ์​สอน​ผม​ว่า แทน​ที่​จะ​ท้อ​และ​ถอด​ใจ ดี​กว่า​ที่​จะ​เรียน​จาก​ความ​ผิด​พลาด เดิน​หน้า​ต่อ​ไป และ​จำ​ไว้​ว่า​จะ​ไม่​ทำ​ผิด​อย่าง​เดิม​อีก ถ้า​เรา​รับใช้​อย่าง​ซื่อ​สัตย์​ต่อ ๆ ไป เรา​จะ​ได้​รับ​สิ่ง​ดี ๆ

การ​ต่อ​สู้​ใน​ควิเบก

ผม​รู้สึก​เป็น​สิทธิ​พิเศษ​จริง ๆ ที่​ได้​ไป​โรง​เรียน​กิเลียด​ชั้น​เรียน​ที่ 14 ทั้ง ๆ ที่​ตอน​นั้น​ผม​อายุ​แค่ 21 ผม​จบ​หลัก​สูตร​ใน​เดือน​กุมภาพันธ์​ปี 1950 นัก​เรียน​ประมาณ 1 ใน 4 ของ​ชั้น​เรา​ถูก​ส่ง​ไป​เมือง​ต่าง ๆ ที่​พูด​ภาษา​ฝรั่งเศส​ใน​ควิเบก​ประเทศ​แคนาดา ซึ่ง​ตอน​นั้น​พยาน​ฯ กำลัง​โดน​ข่มเหง​อย่าง​หนัก ผม​ถูก​ส่ง​ไป​ที่​เมือง​แวลดอร์​ซึ่ง​มี​การ​ทำ​เหมือง​ทองคำ วัน​หนึ่ง เรา​ไป​ประกาศ​ที่​หมู่​บ้าน​ใกล้ ๆ ที่​ชื่อ​แวลเซนวิล เรา​เจอ​บาทหลวง​ขู่​ว่า​จะ​ทำ​ร้าย​ถ้า​เรา​ไม่​ออก​จาก​หมู่​บ้าน​ทันที ผม​เลย​ฟ้องร้อง​ต่อ​ศาล และ​ใน​ที่​สุด​บาทหลวง​คน​นั้น​ต้อง​จ่าย​ค่า​ปรับ

เหตุ​การณ์​นั้น​กับ​เหตุ​การณ์​อื่น​คล้าย ๆ กัน​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ของ “การ​ต่อ​สู้​ที่​ควิเบก” รัฐ​ควิเบก​ถูก​ควบคุม​โดย​คริสตจักร​โรมัน​คาทอลิก​มาก​กว่า 300 ปี​แล้ว พวก​บาทหลวง​และ​พันธมิตร​ทาง​การ​เมือง​ข่มเหง​พยาน​ฯ จึง​ไม่​ง่าย​เลย​สำหรับ​เรา​ใน​ตอน​นั้น และ​เรา​ก็​มี​กัน​ไม่​เยอะ แต่​เรา​ก็​ไม่​ท้อ​และ​ถอด​ใจ คน​ควิเบก​ที่​มี​หัวใจ​ดี​สนใจ​ความ​จริง​ที่​เรา​ประกาศ และ​ผม​ก็​มี​สิทธิ​พิเศษ​ที่​ได้​สอน​คัมภีร์​ไบเบิล​ให้​กับ​พวก​เขา​ซึ่ง​ต่อ​มา​หลาย​คน​ได้​เข้า​มา​เป็น​พยาน​ฯ หนึ่ง​ใน​นัก​ศึกษา​ของ​ผม​เป็น​ครอบครัว​ที่​มี​สมาชิก 10 คน​และ​ทั้ง​ครอบครัว​ได้​เข้า​มา​เป็น​พยาน​ฯ ตัว​อย่าง​ที่​กล้า​หาญ​ของ​พวก​เขา​ทำ​ให้​หลาย​คน​ลา​ออก​จาก​โบสถ์​คาทอลิก เรา​ยัง​คง​ประกาศ​ต่อ​ไป แล้ว​ใน​ที่​สุด​เรา​ก็​ชนะ​การ​ต่อ​สู้​นั้น

ฝึก​พี่​น้อง​โดย​ใช้​ภาษา​ของ​พวก​เขา

ใน​ปี 1956 ผม​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​รับใช้​ที่​ประเทศ​เฮติ มิชชันนารี​ใหม่​ส่วน​ใหญ่​มี​ปัญหา​กับ​การ​เรียน​ภาษา​ฝรั่งเศส แต่​ผู้​คน​ก็​ฟัง มิชชันนารี​ที่​ชื่อ​สแตนลีย์ โบกัส​บอก​ว่า “เรา​ประทับใจ​มาก​ที่​ชาว​บ้าน​ที่​นั่น​พยายาม​ช่วย​เรา​เต็ม​ที่​เพื่อ​ให้​เรา​พูด​กับ​พวก​เขา​รู้​เรื่อง” ตอน​แรก ผม​ได้​เปรียบ​กว่า​คน​อื่น​เพราะ​เรียน​ภาษา​ฝรั่งเศส​มา​ตั้ง​แต่​ตอน​ที่​อยู่​ควิเบก แต่​พอ​ผ่าน​ไป​ได้​ไม่​นาน​เรา​ก็​มา​รู้​ว่า พี่​น้อง​ส่วน​ใหญ่​ที่​เป็น​คน​ที่​นั่น​พูด​แต่​ภาษา​ครีโอล​เฮติ ดัง​นั้น​เพื่อ​เรา​จะ​เป็น​มิชชันนารี​ที่​มี​ประสิทธิภาพ เรา​ต้อง​เรียน​ภาษา​ท้องถิ่น เรา​ก็​ทำ​อย่าง​นั้น แล้ว​ก็​ได้​ผล​ดี​จริง ๆ

เพื่อ​จะ​ช่วย​พวก​พี่​น้อง​มาก​ขึ้น เรา​ขอ​อนุญาต​จาก​คณะ​กรรมการ​ปกครอง​ให้​มี​วารสาร​หอสังเกตการณ์​และ​หนังสือ​อื่น​ใน​ภาษา​ครีโอล​เฮติ ซึ่ง​ทำ​ให้​ผู้​เข้า​ร่วม​ประชุม​เพิ่ม​ขึ้น​ทั่ว​ประเทศ ใน​ปี 1950 มี​ผู้​ประกาศ 99 คน​ใน​เฮติ แต่​พอ​ถึง​ปี 1960 ผู้​ประกาศ​เพิ่ม​ขึ้น​มาก​กว่า 800 คน ตอน​นั้น​ผม​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​รับใช้​ที่​เบเธล ใน​ปี 1961 ผม​มี​ความ​สุข​ที่​ได้​สอน​ใน​โรง​เรียน​พระ​ราชกิจ​ซึ่ง​มี​ผู้​ดู​แล​และ​ไพโอเนียร์ 40 คน​เข้า​ร่วม ใน​การ​ประชุม​ใหญ่​เดือน​มกราคม 1962 เรา​พยายาม​กระตุ้น​พี่​น้อง​ท้องถิ่น​ที่​มี​คุณสมบัติ​ให้​ทำ​งาน​รับใช้​มาก​ขึ้น เรา​ทำ​อย่าง​นี้​ถูก​เวลา​จริง ๆ เพราะ​การ​ข่มเหง​กำลัง​จะ​มา

ใน​วัน​ที่ 23 เดือน​มกราคม 1962 หลัง​การ​ประชุม​ใหญ่ ผม​กับ​มิชชันนารี​ที่​ชื่อ​แอนดรูว์ ดามิโก​ถูก​จับ​ที่​สำนัก​สาขา และ​วารสาร​ตื่นเถิด! ฉบับ​วัน​ที่ 8 มกราคม 1962 (ภาษา​ฝรั่งเศส) ก็​ถูก​ยึด​ทั้ง​หมด ใน​ตื่นเถิด! เล่ม​นั้น​มี​การ​ยก​ข้อ​ความ​จาก​หนังสือ​พิมพ์​ของ​ฝรั่งเศส​ที่​รายงาน​ว่า มี​การ​ใช้​เวท​มนต์​วูดู​กัน​ใน​เฮติ มี​บาง​คน​ไม่​ชอบ​ข้อ​ความ​นั้น​และ​อ้าง​ว่า​เรา​เขียน​บทความ​นั้น​ที่​สำนัก​สาขา​เฮติ สอง​สาม​สัปดาห์​ต่อ​มา พวก​มิชชันนารี​ถูก​ไล่​ออก​จาก​ประเทศ * แต่​พี่​น้อง​ท้องถิ่น​ที่​ถูก​ฝึก​ก็​สามารถ​จัด​การ​เรื่อง​ต่าง ๆ ต่อ​ไป​ได้​อย่าง​ยอด​เยี่ยม ทุก​วัน​นี้​ผม​ดีใจ​กับ​พวก​เขา​ที่​พวก​เขา​ได้​อด​ทน​และ​มี​ความ​เชื่อ​เข็ม​แข็ง​มาก​ขึ้น ตอน​นี้​พวก​เขา​มี​คัมภีร์​ไบเบิล​ฉบับ​แปล​โลก​ใหม่ ภาษา​ครีโอล​เฮติ​ด้วย​ซ้ำ​ซึ่ง​ตอน​นั้น​มัน​เป็น​อะไร​ที่​เรา​ได้​แค่​ฝัน

การ​ก่อ​สร้าง​ใน​สาธารณรัฐ​แอฟริกา​กลาง

หลัง​จาก​รับใช้​ที่​ประเทศ​เฮติ ผม​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​ไป​เป็น​มิชชันนารี​ที่​สาธารณรัฐ​แอฟริกา​กลาง ต่อ​มา​ผม​ก็​ถูก​แต่ง​ตั้ง​เป็น​ผู้​ดู​แล​เดิน​ทาง และ​หลัง​จาก​นั้น​ก็​เป็น​ผู้​ดู​แล​สาขา

ใน​สมัย​นั้น หอ​ประชุม​หลาย​แห่ง​ที่​นั่น​สร้าง​ขึ้น​มา​แบบ​ง่าย​มาก ๆ ผม​เรียน​วิธี​ที่​จะ​เก็บ​หญ้า​แห้ง​ใน​ป่า​และ​วิธี​มุง​หลังคา ผม​ยัง​มุง​หลังคา​ไม่​ค่อย​เป็น ผม​ก็​เลย​เป็น​จุด​สนใจ​ของ​คน​ที่​เดิน​ผ่าน​ไป​ผ่าน​มา​แถว​นั้น แต่​มัน​ก็​ช่วย​กระตุ้น​พี่​น้อง​ท้องถิ่น​ให้​ช่วย​ใน​งาน​ก่อ​สร้าง​และ​ดู​แล​หอ​ประชุม​ของ​พวก​เขา​มาก​ขึ้น พวก​ผู้​นำ​ศาสนา​หัวเราะ​เยาะ​เรา​เพราะ​โบสถ์​ของ​พวก​เขา​มี​หลังคา​มุง​สังกะสี​แต่​เรา​ไม่​มี แต่​แล้ว​พวก​เขา​ก็​ต้อง​หยุด​หัวเราะ​เพราะ​มี​พายุ​หนัก​พัด​ถล่ม​เมือง​บังกี​เมือง​หลวง​ของ​สาธารณรัฐ​แอฟริกา​กลาง ทำ​ให้​หลังคา​สังกะสี​ของ​โบสถ์​ปลิว​ขึ้น​ไป​ตก​บน​ถนน แต่​หลังคา​ของ​หอ​ประชุม​เรา​ยัง​อยู่ เพื่อ​จะ​ดู​แล​งาน​ประกาศ​เรื่อง​รัฐบาล​ของ​พระเจ้า​ได้​ดี​ขึ้น เรา​เลย​ได้​สร้าง​สำนักงาน​สาขา​กับ​บ้าน​มิชชันนารี​หลัง​ใหม่​โดย​ใช้​เวลา​แค่ 5 เดือน

กับ​คู่​ชีวิต​ที่​ขยัน​ขันแข็ง

ใน​วัน​แต่งงาน​ของ​เรา

ใน​ปี 1976 การ​ประกาศ​ถูก​สั่ง​ห้าม​ใน​สาธารณรัฐ​แอฟริกา​กลาง ผม​เลย​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​ไป​รับใช้​ที่​เมือง​อึนจาเมนา​ซึ่ง​เป็น​เมือง​หลวง​ของ​ประเทศ​ชาด​ซึ่ง​เป็น​ประเทศ​เพื่อน​บ้าน แต่​ก็​ยัง​มี​เรื่อง​ดี ๆ เกิด​ขึ้น ผม​ได้​เจอ​กับ​พี่​น้อง​หญิง​ที่​ชื่อ​แฮปปี้​ซึ่ง​เป็น​ไพโอเนียร์​ที่​ขยัน​ขันแข็ง​จาก​ประเทศ​แคเมอรูน เรา​ได้​แต่งงาน​กัน​วัน​ที่ 1 เมษายน 1978 ใน​เดือน​เดียว​กัน​นั้น​เกิด​สงคราม​กลาง​เมือง เรา​เลย​หนี​ไป​ทาง​ใต้​เหมือน​หลาย ๆ คน พอ​สงคราม​จบ เรา​ก็​กลับ​บ้าน​และ​เจอ​ว่า​บ้าน​ของ​เรา​ถูก​ใช้​เป็น​ศูนย์กลาง​ของ​กลุ่ม​ติด​อาวุธ หนังสือ​ของ​เรา​ไม่​มี​เหลือ​เลย ไม่​ใช่​แค่​นั้น ชุด​แต่งงาน​ของ​แฮปปี้​กับ​ของ​ขวัญ​แต่งงาน​ทั้ง​หมด​ของ​เรา​ก็​หาย​ไป​ด้วย แต่​เรา​ก็​ไม่​ท้อ​และ​ถอด​ใจ เรา​ยัง​มี​กัน​และ​กัน และ​รอ​คอย​งาน​รับใช้​ที่​จะ​ทำ​ต่อ​ไป

ประมาณ 2 ปี​หลัง​จาก​นั้น การ​สั่ง​ห้าม​ใน​แอฟริกา​กลาง​ถูก​ยก​เลิก เรา​เลย​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​กลับ​ไป​ที่​นั่น​และ​รับใช้​เป็น​ผู้​ดู​แล​เดิน​ทาง บ้าน​ของ​เรา​เป็น​รถ​ตู้​ที่​มี​เตียง​พับ​ได้ มี​ถัง​ใส่​น้ำ 200 ลิตร มี​ตู้​เย็น​ที่​ใช้​พลัง​งาน​จาก​ก๊าซ​โพรเพน และ​มี​เตา​แก๊ส การ​เดิน​ทาง​ลำบาก​มาก ใน​การ​เดิน​ทาง​ครั้ง​หนึ่ง เรา​ถูก​สั่ง​ให้​หยุด​รถ​ที่​จุด​ตรวจ​ถึง 117 จุด

อากาศ​ที่​นั่น​ก็​ร้อน​มาก หลาย​ครั้ง​ร้อน​ถึง 50 องศา ที่​การ​ประชุม​ใหญ่​ก็​หา​น้ำ​ที่​จะ​ใช้​รับ​บัพติศมา​ยาก​มาก พี่​น้อง​เลย​ต้อง​ขุด​ร่อง​แม่น้ำ​ที่​แห้ง​ขอด​เพื่อ​จะ​หา​น้ำ แล้ว​ค่อย ๆ ตัก​น้ำ​ที​ละ​เล็ก​ที​ละ​น้อย​ใส่​ถัง สมัย​นั้น​มัก​จะ​มี​การ​รับ​บัพติศมา​ใน​ถัง

การ​รับใช้​ใน​ประเทศ​อื่น ๆ ใน​แอฟริกา

ใน​ปี 1980 เรา​ถูก​ส่ง​ไป​ประเทศ​ไนจีเรีย ที่​นั่น​เรา​ทำ​งาน 2 ปี​ครึ่ง​เพื่อ​ช่วย​เตรียม​สำหรับ​การ​ก่อ​สร้าง​สำนักงาน​สาขา​ใหม่ พี่​น้อง​ซื้อ​โกดัง​เก่า 2 ชั้น​แล้ว​ก็​รื้อ​โกดัง​นั้น​และ​เอา​ไป​สร้าง​ใหม่​ใน​ที่​ดิน​ของ​สาขา เช้า​วัน​หนึ่ง​ผม​ปีน​ขึ้น​ไป​ค่อนข้าง​สูง​เพื่อ​ช่วย​รื้อ​ถอน พอ​ถึง​เที่ยง ผม​ก็​ปีน​ลง​มา​ทาง​เดิม​ที่​ผม​ปีน​ขึ้น​ไป แต่​ปรากฏ​ว่า​อะไร ๆ มัน​ไม่​ได้​อยู่​ที่​เดิม ผม​เลย​ก้าว​ลง​ไป​ใน​อากาศ​แล้ว​ตก​ลง​มา อาการ​ผม​ดู​แย่​มาก แต่​พอ​หมอ​ตรวจ​และ​เอ็กซเรย์​แล้ว เขา​ก็​บอก​กับ​แฮปปี้​ว่า​ไม่​ต้อง​เป็น​ห่วง อีก​สัก​อาทิตย์​สอง​อาทิตย์​ผม​ก็​จะ​หาย

ตอน​เดิน​ทาง​ไป​ประชุม​ใหญ่​โดย​ใช้ “รถ​ขน​ส่ง​สาธารณะ”

ใน​ปี 1986 เรา​ย้าย​ไป​ที่​ประเทศ​โกตดิวัวร์ และ​เรา​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​เดิน​หมวด เขต​ที่​เรา​เดิน​หมวด​ไกล​ไป​ถึง​ประเทศ​บูร์กินาฟาโซ ผม​ไม่​เคย​คิด​เลย​ว่า หลาย​ปี​ต่อ​มา​บูร์กินาฟาโซ​จะ​กลาย​เป็น​บ้าน​ของ​เรา

ตอน​ที่​เรา​ทำ​งาน​เดิน​หมวด และ​มี​รถ​ตู้​เป็น​บ้าน

ผม​ออก​จาก​แคนาดา​มา​ตั้ง​แต่​ปี 1956 หลัง​จาก​นั้น 47 ปี ผม​ก็​กลับ​ไป​รับใช้​ที่​แคนาดา​อีก​ใน​ปี 2003 แต่​คราว​นี้​รับใช้​ที่​เบเธล​และ​ไป​กับ​แฮปปี้​ด้วย ถึง​ใน​เอกสาร​ต่าง ๆ เรา​จะ​เป็น​คน​แคนาดา แต่​ใน​ความ​รู้สึก​ของ​เรา เรา​เป็น​คน​แอฟริกา

นำ​การ​ศึกษา​ที่​ประเทศ​บูร์กินาฟาโซ

พอ​ถึง​ปี 2007 ตอน​ที่​ผม​อายุ 79 เรา​ก็​ได้​กลับ​ไป​แอฟริกา​อีก​ครั้ง เรา​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​รับใช้​ที่​ประเทศ​บูร์กินาฟาโซ ผม​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​เป็น​สมาชิก​คณะ​กรรมการ​ประเทศ ต่อ​มา​สำนักงาน​ที่​นั่น​ก็​กลาย​เป็น​สำนักงาน​แปล​ท้องถิ่น (RTO) ที่​อยู่​ภาย​ใต้​การ​ดู​แล​ของ​สาขา​เบนิน พอ​ถึง​เดือน​สิงหาคม 2013 เรา​ถูก​มอบหมาย​ให้​รับใช้​ที่​เบเธล​เบนิน

ผม​กับ​แฮปปี้​ตอน​รับใช้​ที่​สาขา​เบนิน

ถึง​ผม​จะ​มี​ปัญหา​สุขภาพ แต่​ผม​ก็​ยัง​รัก​งาน​รับใช้​มาก ภรรยา​ที่​รัก​ของ​ผม​กับ​ผู้​ดู​แล​ใน​ประชาคม​ช่วย​ผม​มาก​จริง ๆ ใน​ช่วง 3 ปี​ที่​ผ่าน​มา ผม​มี​ความ​สุข​ที่​ได้​เห็น​นัก​ศึกษา 2 คน​ของ​ผม​ที่​ชื่อ​เชเดออน​กับ​เฟรชีส​รับ​บัพติศมา ตอน​นี้​เขา​ทั้ง​สอง​คน​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​อย่าง​ขยัน​ขันแข็ง

ไม่​นาน​มา​นี้ ผม​กับ​ภรรยา​ถูก​ย้าย​ไป​สาขา​แอฟริกา​ใต้ ครอบครัว​เบเธล​ที่​นั่น​ช่วย​ดู​แล​สุขภาพ​ผม​เป็น​อย่าง​ดี ตลอด​หลาย​ปี​ที่​ผ่าน​มา​ผม​มี​สิทธิ​พิเศษ​ได้​รับใช้​ใน​หลาย​ประเทศ​ใน​ทวีป​แอฟริกา และ​แอฟริกา​ใต้​เป็น​ประเทศ​ที่​เจ็ด เดือน​ตุลาคม 2017 เรา​ได้​รับ​พร​ที่​พิเศษ​มาก ๆ ที่​ได้​ไป​เข้า​ร่วม​การ​อุทิศ​สำนักงาน​ใหญ่​ที่​วอร์วิก นิวยอร์ก เหตุ​การณ์​นั้น​เป็น​เหตุ​การณ์​ที่​เรา​ลืม​ไม่​ลง​จริง ๆ

หนังสือ​ประจำ​ปี 1994 (ภาษา​อังกฤษ) หน้า 255 บอก​ว่า “สำหรับ​ทุก​คน​ที่​อด​ทน​รับใช้​มา​แล้ว​หลาย​ปี เรา​อยาก​บอก​ว่า ‘พวก​ท่าน​ต้อง​เข้มแข็ง​และ​อย่า​ท้อ​ใจ เพราะ​สิ่ง​ที่​พวก​ท่าน​ทำ​จะ​ได้​ผล​ตอบ​แทน​แน่นอน’—2 พงศาวดาร 15:7” ผม​กับ​แฮปปี้​ตั้งใจ​ทำ​ตาม​นี้​และ​อยาก​จะ​สนับสนุน​ให้​คน​อื่น​ทำ​แบบ​เดียว​กัน

^ วรรค 9 หนังสือ​นี้​จัด​พิมพ์​โดย​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​ปี 1944 แต่​ปัจจุบัน​ไม่​พิมพ์​แล้ว

^ วรรค 23 ราย​ละเอียด​เรื่อง​นี้​มี​อยู่​ใน​หนังสือ​ประจำ​ปี​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา 1994 (ภาษา​อังกฤษ) หน้า 148-150