บทความศึกษา 20
เพลง 7 พระยะโฮวาทำให้เราเข้มแข็ง
พึ่งพระยะโฮวาเพื่อจะได้กำลังใจ
“ขอให้พระเจ้า . . . ได้รับการยกย่องสรรเสริญ . . . พระองค์เป็นพ่อที่มีความเมตตากรุณาและเป็นพระเจ้าที่คอยให้กำลังใจในทุกสถานการณ์”—2 คร. 1:3
จุดสำคัญ
เรียนว่าพระยะโฮวาให้กำลังใจชาวยิวที่เป็นเชลยในบาบิโลนยังไง และเราได้ประโยชน์อะไรจากเรื่องนี้
1. ชีวิตของชาวยิวที่เป็นเชลยในบาบิโลนเป็นยังไง? ขออธิบาย
ลองนึกดูว่าชาวยิวที่เป็นเชลยในบาบิโลนรู้สึกยังไง พวกเขาได้เห็นบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเองถูกทำลายจนหมดสิ้น ที่พวกเขาต้องเจอแบบนั้นก็เพราะพวกเขาเองและบรรพบุรุษได้ทำบาปต่อพระยะโฮวา พวกเขาเลยต้องถูกพาตัวไปเป็นเชลยที่ประเทศอื่น (2 พศ. 36:15, 16, 20, 21) แม้ตอนอยู่บาบิโลนพวกเขาจะใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ชีวิตที่นั่นก็ไม่ง่าย และถ้าเลือกได้พวกเขาก็คงไม่เลือกไปอยู่ที่นั่น (ยรม. 29:4-7) ลองสังเกตคำพูดของชาวยิวคนหนึ่งที่พูดถึงความรู้สึกของตัวเองว่า “พวกเรานั่งอยู่ริมแม่น้ำของบาบิโลน และร้องไห้เมื่อคิดถึงศิโยน” (สด. 137:1) เห็นได้ชัดเลยว่าชาวยิวรู้สึกเศร้าจริง ๆ และต้องการกำลังใจ แต่พวกเขาจะได้กำลังใจจากที่ไหน?
2-3. (ก) พระยะโฮวาทำอะไรเพื่อชาวยิวที่เป็นเชลยในบาบิโลน? (ข) เราจะคุยเรื่องอะไรบ้างในบทความนี้?
2 พระยะโฮวาเป็น “พระเจ้าที่คอยให้กำลังใจในทุกสถานการณ์” (2 คร. 1:3) พระองค์รักผู้รับใช้ของพระองค์ทุกคนและอยากให้กำลังใจพวกเขา พระองค์รู้ว่าชาวยิวที่เป็นเชลยบางคนจะรู้สึกเสียใจที่ไม่เชื่อฟังพระองค์ ยอมรับการแก้ไข และกลับมาหาพระองค์ (อสย. 59:20) พระยะโฮวาก็เลยดลใจให้ผู้พยากรณ์อิสยาห์เขียนหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมา เพราะอะไร? อิสยาห์บอกว่า “พระเจ้าของพวกคุณบอกว่า ‘ให้ปลอบโยนประชาชนของเรา’” (อสย. 40:1) พระยะโฮวาอยากให้กำลังใจชาวยิวที่เป็นเชลยโดยผ่านทางสิ่งที่อิสยาห์เขียนไว้
3 พวกเราในทุกวันนี้ก็ต้องการกำลังใจเหมือนกับชาวยิวที่เป็นเชลยในบาบิโลน ในบทความนี้เราจะมาดู 3 วิธีที่พระยะโฮวาให้กำลังใจชาวยิวเหล่านั้น นั่นคือ (1) พระองค์สัญญาว่าจะให้อภัยคนที่กลับใจ (2) พระองค์ให้พวกเขามีความหวัง และ (3) พระองค์ช่วยให้พวกเขาไม่กลัว ตอนที่เราคุยกันเกี่ยวกับจุดต่าง ๆ เหล่านี้ ให้สังเกตด้วยว่าเราได้รับประโยชน์ยังไงจากคำรับรองของพระองค์
พระยะโฮวาเมตตาและให้อภัยเรา
4. พระยะโฮวาแสดงให้เห็นยังไงว่าพระองค์เป็นพระเจ้าที่เมตตา? (อิสยาห์ 55:7)
4 พระยะโฮวาเป็น “พ่อที่มีความเมตตากรุณา” (2 คร. 1:3) พระองค์แสดงให้เห็นคุณลักษณะนี้ตอนที่พระองค์สัญญาว่าจะให้อภัยชาวยิวที่กลับใจ (อ่านอิสยาห์ 55:7) พระองค์บอกว่า “เพราะความรักที่มั่นคงอย่างไม่มีที่สิ้นสุดซึ่งเรามีต่อเจ้านั้น ทำให้เราเมตตาเจ้า” (อสย. 54:8) พระยะโฮวาแสดงความเมตตายังไง? ถึงแม้ชาวยิวยังคงต้องรับผลจากการกระทำของตัวเอง แต่พระองค์ก็สัญญาว่าพวกเขาจะไม่เป็นเชลยที่บาบิโลนตลอดไป เพราะเขาจะอยู่ที่นั่นแค่ช่วงหนึ่งเท่านั้น (อสย. 40:2) คำพูดนี้ต้องทำให้ชาวยิวที่กลับใจได้กำลังใจแน่นอน
5. ทำไมเรายิ่งมีเหตุผลที่จะมั่นใจมากกว่าชาวยิวที่เป็นเชลยว่าพระยะโฮวาเมตตาจริง ๆ?
5 เราได้บทเรียนอะไร? พระยะโฮวาเต็มใจให้อภัยผู้รับใช้ของพระองค์อย่างใจกว้าง ทุกวันนี้เรามีเหตุผลที่จะมั่นใจมากกว่าชาวยิวที่เป็นเชลยเหล่านั้น เพราะเรารู้ว่าพระยะโฮวาได้ทำอะไรไปแล้วเพื่อจะให้อภัยเรา หลายร้อยปีหลังจากที่อิสยาห์ได้เขียนคำพยากรณ์ พระยะโฮวาส่งลูกชายที่พระองค์รักมากลงมาบนโลกเพื่อเป็นค่าไถ่ให้กับคนบาปทุกคนที่กลับใจ และค่าไถ่นี้ช่วย “ลบล้าง” บาปได้อย่างครบถ้วน (กจ. 3:19; อสย. 1:18; อฟ. 1:7) เห็นได้ชัดเลยว่าพระยะโฮวาเป็นพระเจ้าที่เมตตาและให้อภัยจริง ๆ
6. เราได้ประโยชน์อะไรเมื่อคิดถึงความเมตตาของพระยะโฮวา? (ดูภาพด้วย)
6 คำพูดของพระยะโฮวาในอิสยาห์ 55:7 ให้กำลังใจเราถ้าเรายังรู้สึกผิดอยู่แม้จะกลับใจแล้ว เราอาจยังรู้สึกผิดไม่หายโดยเฉพาะตอนที่ยังต้องรับผลจากสิ่งที่ตัวเองทำ แต่ถ้าเราสารภาพบาป แก้ไขปรับปรุงตัวเอง เราก็มั่นใจได้ว่าพระยะโฮวาจะให้อภัยเรา และเมื่อพระองค์ให้อภัยแล้ว พระองค์จะไม่จดจำความผิดของเราอีกเลย (เทียบกับเยเรมีย์ 31:34) ดังนั้น ถ้าพระยะโฮวาไม่จดจำความผิดที่เราทำในอดีต เราก็ควรจะทำแบบนั้นเหมือนกัน พระองค์ไม่ได้เอาแต่คิดถึงแต่ความผิดที่เราทำในอดีต แต่สนใจสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ตอนนี้มากกว่า (อสค. 33:14-16) และในโลกใหม่ที่กำลังจะมาถึง พระยะโฮวาพ่อที่เมตตากรุณาจะกำจัดความทุกข์และความยากลำบากที่เราเจออยู่เพราะผลจากความผิดของเรา
สำหรับพระยะโฮวาแล้ว พระองค์ไม่ได้เอาแต่คิดถึงแต่ความผิดที่เราทำในอดีต แต่สนใจสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ตอนนี้มากกว่า (ดูข้อ 6)
7. ถ้าเรากำลังปกปิดความผิดไว้ อะไรจะช่วยให้เราไปคุยกับผู้ดูแล?
7 เราควรทำอะไรถ้าเรารู้สึกผิดเพราะทำบาปร้ายแรงและพยายามจะปิดบังไว้? คัมภีร์ไบเบิลบอกให้เราขอความช่วยเหลือจากผู้ดูแล (ยก. 5:14, 15) การสารภาพความผิดอาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่สิ่งที่จะช่วยเราก็คือการจำไว้ว่าพระยะโฮวาใช้ผู้ดูแลเพื่อช่วยเรา และพวกเขารักเรามากเหมือนที่พระยะโฮวารักเรา ถ้าเราไม่ลืมเรื่องนี้และกลับใจจริง ๆ เราก็จะถูกกระตุ้นให้ไปคุยกับผู้ดูแล ลองดูตัวอย่างของพี่น้องชายคนหนึ่งที่ชื่ออาเธอร์ a เขารู้สึกผิดมากกับสิ่งที่ตัวเองทำ พระยะโฮวาเลยใช้ผู้ดูแลให้ช่วยเขาซึ่งทำให้เขาได้กำลังใจจริง ๆ เขาเล่าว่า “ผมดูสื่อลามกประมาณปีหนึ่ง แต่พอได้ฟังคำบรรยายเรื่องความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ผมก็เลยสารภาพกับภรรยาและกับผู้ดูแล พอทำแบบนี้แล้วผมรู้สึกโล่งใจขึ้น แต่ผมก็ยังรู้สึกผิดมาก ๆ ผู้ดูแลให้กำลังใจผมว่าพระยะโฮวาไม่ได้ทิ้งผม แต่พระองค์กำลังสอนผมเพราะพระองค์รักผม คำพูดที่ให้กำลังใจจากผู้ดูแลทำให้ผมประทับใจและทำให้ผมเริ่มเปลี่ยนมุมมองของตัวเอง” ทุกวันนี้อาเธอร์เป็นไพโอเนียร์และเป็นผู้ช่วยงานรับใช้ เราเองก็รู้สึกได้กำลังใจจริง ๆ ที่รู้ว่าถ้าเราทำผิดและกลับใจ พระยะโฮวาจะเมตตาและพร้อมให้อภัยเรา
พระยะโฮวาให้เรามีความหวัง
8. (ก) พระยะโฮวาให้ความหวังอะไรกับชาวยิวที่เป็นเชลยในบาบิโลน? (ข) อย่างที่บอกไว้ในอิสยาห์ 40:29-31 ความหวังส่งผลยังไงกับชาวยิวที่กลับใจ?
8 ชาวยิวที่อยู่ในบาบิโลนอาจคิดว่าไม่มีหวังแล้วที่จะได้กลับไปบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง บาบิโลนซึ่งเป็นมหาอำนาจในตอนนั้นขึ้นชื่อว่าไม่เคยปล่อยเชลยที่จับมาได้ (อสย. 14:17) ถึงอย่างนั้น พระยะโฮวาก็ให้ประชาชนของพระองค์มีความหวัง พระองค์สัญญาว่าจะปล่อยพวกเขาจากการเป็นเชลยและไม่มีใครสามารถหยุดพระองค์ได้ (อสย. 44:26; 55:12) ในสายตาของพระยะโฮวาแล้วชาวบาบิโลนเป็นแค่ฝุ่น (อสย. 40:15) เหมือนกับฝุ่น เมื่อคุณเป่ามันเบา ๆ มันก็ปลิวก็หายไป การที่พระยะโฮวาปล่อยคนของพระองค์จากการเป็นเชลยก็ง่ายแบบนั้นแหละ ความหวังนี้ช่วยชาวยิวยังไง? นอกจากจะทำให้พวกเขามีกำลังใจแล้ว มันยังช่วยพวกเขาอีกอย่างด้วย อิสยาห์เขียนว่า “คนที่วางใจพระยะโฮวาจะกลับมีเรี่ยวแรงอีก” (อ่านอิสยาห์ 40:29-31) ใช่แล้ว ความหวังทำให้พวกเขามีกำลังเรี่ยวแรง พวกเขาจะ “เป็นเหมือนนกอินทรีที่กางปีกบินขึ้นไป”
9. เชลยชาวยิวมีเหตุผลอะไรที่มั่นใจคำสัญญาของพระยะโฮวา?
9 นอกจากนั้น พระยะโฮวายังช่วยชาวยิวให้มีเหตุผลที่จะมั่นใจในคำสัญญาของพระองค์ด้วย ลองคิดถึงคำพยากรณ์ที่เกิดขึ้นจริงไปแล้ว เช่น พวกเขารู้ว่าชาวอัสซีเรียทำลายอาณาจักร 10 ตระกูลทางเหนือของอิสราเอลและจับคนเหล่านั้นไปเป็นเชลย (อสย. 8:4) และพวกเขายังได้เห็นชาวบาบิโลนมาทำลายกรุงเยรูซาเล็มและจับคนในกรุงนั้นไปเป็นเชลยด้วย (อสย. 39:5-7) นอกจากนั้น พวกเขาก็รู้ว่ากษัตริย์เศเดคียาห์ถูกทำให้ตาบอดและถูกจับตัวไปที่บาบิโลนเหมือนกัน (ยรม. 39:7; อสค. 12:12, 13) ทุกอย่างที่พระยะโฮวาบอกไว้ล่วงหน้าเกิดขึ้นจริง (อสย. 42:9; 46:10) ทั้งหมดนี้ต้องทำให้ชาวยิวมั่นใจในคำสัญญาของพระยะโฮวาเรื่องการช่วยให้รอดแน่นอน
10. ในสมัยสุดท้าย อะไรจะช่วยให้ความหวังของเราชัดเจนอยู่เสมอ?
10 เราได้บทเรียนอะไร? ตอนที่เรารู้สึกท้อใจ ความหวังสามารถทำให้เรามีกำลังใจและกลับมามีเรี่ยวแรงอีกได้ ตอนนี้สภาพการณ์ของโลกแย่ลงเรื่อย ๆ และเรายังต้องต่อสู้กับศัตรูของพระเจ้าที่กำลังต่อต้านเราอยู่ เมื่อเจออย่างนี้ ขอเราอย่าท้อใจ เพราะพระยะโฮวาให้ความหวังที่ดีมากกับเรา นั่นก็คือชีวิตตลอดไปในโลกใหม่ซึ่งเราจะมีสันติสุขและความปลอดภัยอย่างแท้จริง เราต้องทำให้ความหวังนี้ชัดเจนอยู่เสมอ ไม่อย่างนั้นความหวังของเราอาจเป็นเหมือนกับภาพวิวสวย ๆ แต่เรามองเห็นวิวนั้นไม่ชัดเพราะมองผ่านหน้าต่างที่กระจกมีแต่ฝุ่น เราจะทำให้ “หน้าต่างนั้นสะอาด” ซึ่งก็คือทำให้ความหวังของเราชัดเจนอยู่เสมอได้ยังไง? เราทำได้โดยการจัดเวลาเป็นประจำเพื่อจะจินตนาการว่าชีวิตของเราจะเป็นยังไงในโลกใหม่ เราสามารถอ่านบทความ ดูวีดีโอ และฟังเพลงขององค์การที่เกี่ยวข้องกับความหวังของเรา และเราสามารถอธิษฐานบอกพระยะโฮวาได้ด้วยว่าเรารอจะให้คำสัญญาไหนของพระองค์เกิดขึ้นจริง
11. อะไรช่วยให้พี่น้องหญิงคนหนึ่งที่ป่วยเป็นโรคร้ายแรงมีกำลังที่จะอดทนได้?
11 ลองดูประสบการณ์ของพี่น้องหญิงคนหนึ่งที่ชื่อจอย เธอป่วยเป็นโรคร้ายแรง แต่ความหวังก็ทำให้เธอมีกำลังใจและอดทนกับปัญหาได้ เธอบอกว่า “ตอนที่ฉันเจอปัญหาหลายอย่างถาโถมเข้ามาจนรู้สึกว่าแทบจะรับไม่ไหวแล้ว ฉันจะระบายความรู้สึกกับพระยะโฮวาเพราะรู้ว่าพระองค์เข้าใจฉันดี และพระยะโฮวาก็ช่วยฉันโดยให้ ‘กำลังที่มากกว่าปกติ’ กับฉัน” (2 คร. 4:7) นอกจากนั้น จอยยังนึกภาพตัวเองในโลกใหม่ด้วยซึ่งตอนนั้นจะ “ไม่มีใคร . . . พูดว่า ‘ฉันป่วย’” (อสย. 33:24) เหมือนกัน ถ้าเราระบายความรู้สึกกับพระยะโฮวาและคิดถึงความหวังของเราเสมอ เราก็จะมีกำลังอดทนกับปัญหาต่าง ๆ ได้
12. เรามีเหตุผลอะไรที่จะมั่นใจในคำสัญญาของพระยะโฮวา? (ดูภาพด้วย)
12 เหมือนกับที่พระยะโฮวาช่วยชาวยิวที่เป็นเชลยในบาบิโลนให้มั่นใจในคำสัญญาของพระองค์ พระองค์ก็จะช่วยเราด้วยเหมือนกัน ลองคิดถึงคำพยากรณ์ต่าง ๆ ที่กำลังเกิดขึ้นจริงในตอนนี้ ตัวอย่างเช่น เราเห็นมหาอำนาจโลกอังกฤษอเมริกา “มีทั้งส่วนที่แข็งแกร่งและส่วนที่อ่อนแอ” (ดนล. 2:42, 43) เรายังได้ยินข่าว “แผ่นดินไหวในที่ต่าง ๆ” และเรากำลังประกาศข่าวดีให้กับ “คนทุกชาติ” (มธ. 24:7, 14) การที่เราเห็นคำพยากรณ์เหล่านี้และคำพยากรณ์อื่น ๆ เกิดขึ้นจริง ก็ช่วยให้เรามั่นใจว่าเรื่องที่พระยะโฮวาสัญญาว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตก็ต้องเป็นจริงด้วยเหมือนกัน
เหตุการณ์ต่าง ๆ ในทุกวันนี้ที่เกิดขึ้นจริงตามคำพยากรณ์ทำให้เรามีเหตุผลที่จะมั่นใจในคำสัญญาของพระยะโฮวา (ดูข้อ 12)
พระยะโฮวาช่วยให้เราไม่กลัว
13. (ก) ชาวยิวเจอปัญหาอะไรตอนที่พวกเขาใกล้จะได้รับการปลดปล่อยจากการเป็นเชลย? (ข) อย่างที่บอกในอิสยาห์ 41:10-13 พระยะโฮวาให้กำลังใจเชลยชาวยิวยังไง?
13 พระยะโฮวาให้ความหวังที่ดีมากกับเชลยชาวยิวที่อยู่ในบาบิโลน แต่พระองค์ก็รู้ว่าตอนที่พวกเขาใกล้จะได้รับการปลดปล่อยจากการเป็นเชลย ตอนนั้นจะเป็นช่วงที่ยากลำบากสำหรับพวกเขา พระองค์บอกล่วงหน้าว่าจะมีกษัตริย์องค์หนึ่งที่มีอำนาจมากมาโจมตีและยึดอำนาจชาติต่าง ๆ ที่อยู่รอบบาบิโลนและในที่สุดกษัตริย์องค์นี้ก็จะโจมตีบาบิโลนด้วย (อสย. 41:2-5) แต่ชาวยิวต้องกังวลอะไรไหม? พระยะโฮวาให้กำลังใจพวกเขาไว้นานมาแล้วโดยบอกว่า “ไม่ต้องกลัว เพราะเราอยู่กับเจ้า ไม่ต้องกังวล เพราะเราเป็นพระเจ้าของเจ้า” (อ่านอิสยาห์ 41:10-13) พระยะโฮวาหมายความว่ายังไงตอนที่พระองค์บอกว่า “เราเป็นพระเจ้าของเจ้า”? พระองค์ไม่ได้หมายความว่าจะให้ชาวยิวมานมัสการพระองค์เพราะนั่นเป็นสิ่งที่พวกเขารู้อยู่แล้ว แต่พระยะโฮวากำลังให้คำรับรองกับพวกเขาว่าพระองค์อยู่ฝ่ายพวกเขาและจะคอยช่วยพวกเขาเสมอ—สด. 118:6
14. พระยะโฮวาทำอะไรอีกเพื่อช่วยให้เชลยชาวยิวไม่กลัว?
14 นอกจากนั้น พระยะโฮวายังช่วยเชลยชาวยิวให้ไม่กลัว โดยช่วยพวกเขาให้คิดถึงพลังอำนาจและสติปัญญาของพระองค์ที่ไม่มีขีดจำกัด พระองค์บอกให้พวกเขามองขึ้นไปดูดวงดาวบนท้องฟ้า และพระองค์บอกพวกเขาว่าพระองค์ไม่ได้เพียงแค่สร้างดวงดาวเหล่านี้เท่านั้น แต่พระองค์ยังรู้จักชื่อดาวทุกดวงด้วย (อสย. 40:25-28) ถ้าพระยะโฮวารู้จักชื่อของดาวแต่ละดวง พระองค์ก็ต้องรู้จักชื่อของผู้รับใช้ของพระองค์ทุกคน และถ้าพระยะโฮวามีพลังอำนาจที่จะสร้างดวงดาวเหล่านี้ พระองค์ก็ต้องมีพลังอำนาจที่จะช่วยเหลือประชาชนของพระองค์แน่นอน ดังนั้น ชาวยิวที่เป็นเชลยไม่มีเหตุผลเลยที่จะต้องกลัว
15. พระยะโฮวาเตรียมเชลยชาวยิวยังไงให้พร้อมสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต?
15 พระยะโฮวายังเตรียมคนของพระองค์ให้พร้อมสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย ในหนังสืออิสยาห์ พระยะโฮวาบอกกับชาวยิวว่า “เข้าไปอยู่ในห้องข้างใน และปิดประตูดี ๆ ซ่อนตัวอยู่ที่นั่นสักพักหนึ่ง จนกว่าความโกรธของเราจะผ่านพ้นไป” (อสย. 26:20) ชาวยิวทำตามคำแนะนำนี้ตอนที่ไซรัสบุกมาโจมตี นักประวัติศาสตร์ชาวกรีกคนหนึ่งบอกว่า “ตอนที่ไซรัสบุกมาโจมตีบาบิโลน เขาสั่งให้ [ทหารของเขา] ฆ่าทุกคนที่อยู่นอกบ้าน” ลองนึกภาพดูสิว่าคนที่อยู่ในเมืองบาบิโลนจะกลัวขนาดไหน แต่ดูเหมือนว่าเชลยชาวยิวรอดชีวิตเพราะเชื่อฟังคำสั่งของพระยะโฮวา
16. ทำไมเราไม่ต้องกลัวเกินไปเกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต? (ดูภาพด้วย)
16 เราได้บทเรียนอะไร? อีกไม่นานเราจะต้องเจอกับความทุกข์ยากลำบากครั้งใหญ่ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดสำหรับมนุษย์ทั้งโลก เมื่อถึงตอนนั้นผู้คนในโลกจะสับสนและหวาดกลัว แต่คนของพระยะโฮวาจะไม่เป็นอย่างนั้น เรารู้ว่าพระยะโฮวาเป็นพระเจ้าของเรา เราจะกล้าหาญเพราะรู้ว่า “พระเจ้าจะมาช่วย [พวกเรา] ให้รอดแล้ว” (ลก. 21:28) แม้แต่ตอนที่โกกหรือกลุ่มชาติต่าง ๆ มาโจมตีเรา เราก็จะยังมั่นใจในพระยะโฮวาเสมอ (อสค. 38:18) พระยะโฮวาจะให้ทูตสวรรค์มาปกป้องเราและให้คำแนะนำที่ช่วยให้เรารอดชีวิต แต่เราจะได้รับคำแนะนำเหล่านั้นยังไง? เราคงต้องรอดูต่อไป แต่เป็นไปได้ที่เราจะได้คำแนะนำเหล่านั้นผ่านทางประชาคม ซึ่งในแง่นี้ประชาคมอาจเป็นเหมือนกับ “ห้องข้างใน” ที่จะช่วยให้เราปลอดภัย แล้วเราจะเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ยังไง? เราต้องสนิทกับพี่น้องเสมอ เต็มใจเชื่อฟังคำแนะนำขององค์การ และมั่นใจว่าพระยะโฮวากำลังชี้นำองค์การของพระองค์อยู่—ฮบ. 10:24, 25; 13:17
ถ้าเราไม่ลืมว่าพระยะโฮวามีพลังอำนาจและสามารถช่วยเราได้ เราก็จะไม่กลัวมากเกินไปในช่วงความทุกข์ยากลำบากครั้งใหญ่ (ดูข้อ 16) b
17. คุณจะพึ่งพระยะโฮวาเพื่อจะได้กำลังใจได้ยังไง?
17 แม้ว่าเชลยชาวยิวจะต้องเจอกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก แต่พระยะโฮวาก็ให้กำลังใจกับพวกเขา พระองค์จะให้กำลังใจกับเราเหมือนกัน ดังนั้น ไม่ว่าในอนาคตจะเป็นยังไง ขอให้คุณพึ่งพระยะโฮวาต่อ ๆ ไปเพื่อจะได้รับกำลังใจ โดยมั่นใจในความเมตตาของพระองค์ และทำให้ความหวังของคุณชัดเจนอยู่เสมอ จำไว้ว่าเมื่อคุณมีพระยะโฮวาเป็นพระเจ้าของคุณ คุณก็ไม่มีอะไรต้องกลัว
เพลง 3 กำลัง ความหวัง และความมั่นใจของเรา
a บางชื่อเป็นชื่อสมมุติ
b คำอธิบายภาพ พี่น้องกลุ่มเล็ก ๆ มาอยู่ด้วยกัน พวกเขามั่นใจว่าพระยะโฮวามีพลังอำนาจมากและสามารถปกป้องพวกเขาได้ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหนในโลก
