ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

ไดเรล ชาร์ป | เรื่อง​ราว​ชีวิต​จริง

พระเจ้าช่วยให้เราไม่ถอยหลังกลับ

พระเจ้าช่วยให้เราไม่ถอยหลังกลับ

“เขา​เป็น​ได้​ไม่​ถึง​เดือน​หรอก!” พี่​น้อง​บาง​คน​ใน​ประชาคม​พูด​แบบ​นี้​ตอน​ที่​ผม​สมัคร​เป็น​ไพโอเนียร์​พัก​งาน​ใน​ปี 1956 ตอน​นั้น​ผม​อายุ 16 ปี ผม​รับ​บัพติศมา​ตอน​อายุ 12 เพราะ​พี่​น้อง​คน​หนึ่ง​ที่​ผม​ชอบ​แนะ​นำ​ให้​ผม​รับ​บัพติศมา ตอน​นั้น​ถ้า​ใคร​อยาก​รับ​บัพติศมา​ก็​ทำ​ได้​เลย​ไม่​มี​การ​ทบทวน​โดย​ผู้​ดู​แล​เหมือน​ทุก​วัน​นี้

 ก็​มี​เหตุ​ผล​ที่​พี่​น้อง​จะ​คิด​ว่า​ผม​คง​เป็น​ไพโอเนียร์​ได้​ไม่​นาน ผม​ไม่​ใช่​คน​ที่​มี​ความ​เชื่อ​เข้มแข็ง ผม​ไม่​ชอบ​ไป​ประกาศ​และ​มัก​จะ​อธิษฐาน​ขอ​ให้​ฝน​ตก​ใน​วัน​อาทิตย์ ผม​จะ​ได้​ไม่​ต้อง​ออก​ประกาศ และ​ตอน​ที่​ประกาศ ผม​ก็​แค่​เสนอ​วารสาร ผม​ไม่​เคย​อ่าน​ข้อ​คัมภีร์​ให้​เจ้า​ของ​บ้าน​ฟัง​เลย​ด้วย​ซ้ำ แม่​ถึง​กับ​จ้าง​ให้​ผม​สมัคร​เป็น​นัก​เรียน​อ่าน​ใน​ประชาคม​ด้วย ผม​ไม่​ชอบ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​และ​ไม่​มี​เป้าหมาย​ใน​งาน​รับใช้​เลย

 แต่​ชีวิต​ผม​ก็​เปลี่ยน​ไป​หลัง​จาก​เข้า​ร่วม​ประชุม​ภาค​ครั้ง​หนึ่ง (ตอน​นี้​เรียก​ว่า​ประชุม​ภูมิภาค) ที่​เมือง​คาร์ดิฟฟ์ ประเทศ​เวลส์ ผู้​บรรยาย​คน​หนึ่ง​ถาม​คำ​ถาม​ชวน​ให้​คิด เขา​เริ่ม​ด้วย​คำ​ถาม​ที่​ว่า “คุณ​อุทิศ​ตัว​และ​รับ​บัพติศมา​แล้ว​ใช่​ไหม?” ‘ใช่’ ผม​คิด​ใน​ใจ “คุณ​สัญญา​ว่า​จะ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​สุด​หัวใจ สุด​ชีวิต และ​สุด​ความ​คิด​ใช่​ไหม?” ‘ใช่’ “คุณ​มี​ปัญหา​สุขภาพ​หรือ​ต้อง​ดู​แล​ครอบครัว​จน​ทำ​ให้​เป็น​ไพโอเนียร์​ไม่​ได้​ไหม?” ‘ไม่’ “มี​เหตุ​ผล​อะไร​ไหม​ที่​ทำ​ให้​คุณ​เป็น​ไพโอเนียร์​ไม่​ได้?” ‘ไม่’ “ถ้า​คำ​ตอบ​ของ​คำ​ถาม​สุด​ท้าย​คือ ไม่ แล้ว​ทำไม​คุณ​ไม่​เป็น​ไพโอเนียร์​ล่ะ?”

 มัน​เหมือน​มี​คน​มา​จุด​ประกาย​ความ​คิด ผม​คิด​ว่า ‘ผม​ใช้​ชีวิต​แบบ​เปล่า​ประโยชน์​จริง​ ๆ ผม​ไม่​ได้​รักษา​สัญญา​เรื่อง​การ​อุทิศ​ตัว และ​ไม่​ได้​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​สุด​ชีวิต’ และ​ผม​ยัง​คิด​ด้วย​ว่า​ถ้า​ผม​อยาก​ให้​พระ​ยะโฮวา​รักษา​สัญญา ผม​ก็​ต้อง​รักษา​สัญญา​ด้วย​เหมือน​กัน ผม​เลย​เริ่ม​เป็น​ไพโอเนียร์​พัก​งาน​ใน​เดือน​ตุลาคม 1956 ซึ่ง​ตอน​นี้​เรียก​ว่า​ไพโอเนียร์​สมทบ

ปี 1959 ผม​ถูก​แต่ง​ตั้ง​เป็น​ไพโอเนียร์​พิเศษ​และ​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​ไป​รับใช้​ที่​อะเบอร์ดีน

 ใน​ปี​ถัด​มา ผม​ก็​เป็น​ไพโอเนียร์​ประจำ​และ​ย้าย​ไป​ประชาคม​หนึ่ง​ที่​มี​ผู้​ประกาศ 19 คน ตั้ง​แต่​ย้าย​ไป ผม​ก็​ถูก​มอบหมาย​ให้​บรรยาย​ทุก​อาทิตย์ มี​พี่​น้อง​ชาย​หลาย​คน​ช่วย​สอน​วิธี​บรรยาย​ให้​ผม​อย่าง​อด​ทน ผม​เลย​บรรยาย​ได้​ดี​ขึ้น​ไม่​ว่า​จะ​เป็น​การ​เรียบเรียง​เนื้อหา​และ​วิธี​บรรยาย สอง​ปี​ต่อ​มา ใน​ปี 1959 ผม​ถูก​แต่ง​ตั้ง​เป็น​ไพโอเนียร์​พิเศษ​และ​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​ไป​รับใช้​ที่​อะเบอร์ดีน ซึ่ง​อยู่​ภาค​เหนือ​ของ​สกอตแลนด์ หลัง​จาก​อยู่​ที่​นั่น​ไม่​กี่​เดือน ผม​ก็​ถูก​เชิญ​ให้​มา​รับใช้​ที่​เบเธล​ลอนดอน ผม​ได้​รับ​สิทธิ​พิเศษ​ให้​ทำ​งาน​ใน​โรง​พิมพ์ 7 ปี

 ผม​ชอบ​ชีวิต​ใน​เบเธล แต่​ก็​อยาก​ไป​รับใช้​ใน​เขต​งาน ผม​ยัง​อายุ​น้อย แข็งแรง และ​เต็ม​ใจ​ให้​พระ​ยะโฮวา​ใช้ พระองค์​จะ​ให้​ผม​ไป​ที่​ไหน​ก็​ได้ ดัง​นั้น​ใน​เดือน​เมษายน 1965 ผม​เลย​สมัคร​เข้า​โรง​เรียน​กิเลียด​สำหรับ​ฝึก​อบรม​มิชชันนารี

 ปี​นั้น​ผม​กับ​รู​ม​เม​ท​ตัดสิน​ใจ​ว่า​จะ​ไป​กรุง​เบอร์ลิน ประเทศ​เยอรมนี เพื่อ​จะ​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​ใหญ่​และ​ไป​ดู​กำแพง​เบอร์ลิน​ที่​เพิ่ง​สร้าง​เสร็จ​ไม่​กี่​ปี​ก่อน​หน้า​นี้

 ใน​ช่วง​การ​ประชุม​ใหญ่ มี​วัน​หนึ่ง​ที่​ผม​ได้​เข้า​ร่วม​การ​ประกาศ ผม​ถูก​มอบหมาย​ให้​ประกาศ​กับ​ซูซาน แบน​ด์ร็​อก เรา​แต่งงาน​กัน​ใน​ปี 1966 แล้ว 2 ปี​ต่อ​มา เรา​ก็​ได้​รับ​เชิญ​ให้​เข้า​ชั้น​เรียน​ที่ 47 ของ​โรง​เรียน​กิเลียด นี่​เป็น​พร​ที่​ยอด​เยี่ยม​จริง​ ๆ ช่วง​เวลา 5 เดือน​ที่​เรา​เรียน​ผ่าน​ไป​เร็ว​มาก พอ​เรียน​จบ​เรา​ก็​ถูก​มอบหมาย​ไป​ที่​ซาอีร์ ซึ่ง​ปัจจุบัน​ก็​คือ​สาธารณรัฐ​ประชาธิปไตย​คองโก เรา​ช็อก​มาก​เพราะ​เรา​แทบ​ไม่​รู้​อะไร​เกี่ยว​กับ​ประเทศ​นี้​เลย ตอน​แรก​เรา​กลัว​นิด​หน่อย แต่​ใน​ที่​สุด​ก็​รับ​งาน​มอบหมาย​นี้​และ​วางใจ​ว่า​พระ​ยะโฮวา​จะ​ดู​แล​เรา

ปี 1969 ผม​กับ​ซูซาน​จบ​จาก​โรง​เรียน​กิเลียด

 หลัง​จาก​ที่​ต้อง​อยู่​สนามบิน​และ​เดิน​ทาง​บน​เครื่องบิน​หลาย​ชั่วโมง เรา​ก็​มา​ถึง​เมือง​โค​ลเว​ซี ซึ่ง​เป็น​เมือง​เล็ก​ ๆ ​ที่​ทำ​เหมือง​แร่ เรา​แปลก​ใจ​มาก​เพราะ​ไม่​มี​พี่​น้อง​มา​รอ​รับ​เรา​เลย ตอน​หลัง​เรา​มา​รู้​ว่า​มี​โทรเลข​บอก​ให้​พี่​น้อง​มา​รับ​เรา 2 วัน​หลัง​จาก​ที่​เรา​มา​ถึง และ​ตอน​อยู่​สนามบิน​ก็​มี​เจ้าหน้าที่​คน​หนึ่ง​มา​หา​เรา​และ​พูด​อะไร​บาง​อย่าง​ใน​ภาษา​ฝรั่งเศส ซึ่ง​เรา​ฟัง​ไม่​รู้​เรื่อง ผู้​หญิง​ที่​ยืน​อยู่​ข้าง​หน้า​เรา​หัน​มา​แปล​ให้​ฟัง​ว่า “พวก​คุณ​โดน​จับ​แล้ว”

 เจ้าหน้าที่​บังคับ​ให้​เรา​ไป​ขึ้น​รถ​สปอร์ต​เก่า​ ๆ ​ที่​มี 2 ที่​นั่ง เรา​ต้อง​นั่ง​เบียด​กัน 4 คน ทั้ง​ผม ซูซาน เจ้าหน้าที่​คน​นั้น และ​คน​ขับ​รถ มัน​เหมือน​กับ​ฉาก​ใน​หนัง​ตลก​ที่​ต้อง​นั่ง​รถ​ไป​บน​ถนน​ที่​เป็น​หลุม​เป็น​บ่อ คน​ใน​รถ​ก็​เด้ง​ไป​เด้ง​มา แถม​ฝากระโปรง​รถ​ก็​ปิด​ ๆ ​เปิด​ ๆ ​ทับ​กระเป๋า​เสื้อ​ผ้า​ของ​พวก​เรา

 ใน​ที่​สุด​เรา​ก็​มา​ถึง​บ้าน​พัก​มิชชันนารี ถึง​เรา​จะ​ไม่​รู้​ว่า​มัน​อยู่​ที่​ไหน แต่​เจ้าหน้าที่​รู้ ตอน​นั้น​ไม่​มี​ใคร​อยู่​บ้าน แถม​ประตู​ก็​ล็อก เพราะ​พี่​น้อง​มิชชันนารี​ทุก​คน​ไป​ประชุม​นานา​ชาติ​และ​ลา​พัก เรา​ได้​แต่​ยืน​ตาก​แดด​ร้อน​ ๆ ​แล้ว​ก็​คิด​ว่า​ต่อ​จาก​นี้​จะ​เป็น​ยัง​ไง ใน​ที่​สุด​มี​พี่​น้อง​ชาย​คน​หนึ่ง​มา พอ​เห็น​เรา​เขา​ก็​ยิ้ม​กว้าง เรา​เลย​รู้สึก​ดี​ขึ้น เขา​รู้​จัก​เจ้าหน้าที่​คน​นั้น​และ​รู้​ว่า​เจ้าหน้าที่​อยาก​ได้​เงิน​จาก​เรา แต่​หลัง​จาก​ที่​พี่​น้อง​คุย​กับ​เจ้าหน้าที่​สัก​พัก เขา​ก็​ยอม​กลับ​ไป แล้ว​เรา​ก็​ได้​เข้า​ไป​พัก​ใน​บ้าน

ที่​บ้าน​มิชชันนารี​ใน​ซาอีร์​กับ​พี่​น้อง​นาธาน เอช. นอร์ ตอน​ที่​เขา​มา​เยี่ยม​ใน​ปี 1971

ไม่​ใช่​เวลา​ที่​จะ​ถอย​หลัง​กลับ

 เรา​ได้​เห็น​ว่า​พี่​น้อง​ที่​นี่​ต้อง​อด​ทน​กับ​อะไร​เยอะ​มาก แต่​พวก​เขา​ก็​ยิ้ม​แย้ม​แจ่ม​ใส​และ​รัก​คน​อื่น น่า​เศร้า​ที่​ประเทศ​นี้​มี​แต่​ความ​ไม่​สงบ​และ​ก่อ​กบฏ​ซึ่ง​ทำ​ให้​เกิด​ความ​รุนแรง​มา​ตลอด 10 ปี​ที่​ผ่าน​มา พอ​ถึง​ปี 1971 พยาน​พระ​ยะโฮวา​ก็​ไม่​ได้​รับ​การ​ยอม​รับ​ตาม​กฎหมาย​เหมือน​ที่​เคย​ได้​รับ​อีก​ต่อ​ไป เรา​สงสัย​ว่า​จะ​ทำ​ยัง​ไง​ดี

 นี่​ไม่​ใช่​เวลา​ที่​เรา​จะ​กลัว​และ​ถอย​หลัง​กลับ พี่​น้อง​บาง​คน​รู้​เรื่อง​นี้​ดี​และ​พวก​เขา​ก็​ไม่​ยอม​แพ้ ช่วง​นั้น​รัฐบาล​กดดัน​พี่​น้อง​อย่าง​หนัก​ให้​สนับสนุน​พรรค​การ​เมือง​โดย​ถือ​บัตร​และ​ติด​เข็ม​กลัด​ของ​พรรค​การ​เมือง แต่​พี่​น้อง​หลาย​คน​ไม่​ยอม​ทำ​อย่าง​นั้น ซึ่ง​นี่​หมาย​ความ​ว่า​พวก​เขา​จะ​ไม่​สามารถ​ใช้​บริการ​ของ​รัฐ​ได้​และ​จะ​ถูก​ทหาร​และ​ตำรวจ​ข่มขู่ พยาน​ฯ ​หลาย​คน​ต้อง​ตก​งาน​และ​เด็ก​หลาย​คน​ก็​ถูก​ไล่​ออก​จาก​โรง​เรียน พี่​น้อง​ชาย​หลาย​ร้อย​คน​ต้อง​ติด​คุก มัน​เป็น​ช่วง​เวลา​ที่​ยาก​ลำบาก​จริง​ ๆ แต่​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ก็​ยัง​ประกาศ​ข่าว​ดี​ต่อ​ไป​อย่าง​กล้า​หาญ

เรา​ต้อง​มี​ความ​อด​ทน

 ใน​ช่วง​นั้น ผม​และ​ซูซาน​ใช้​เวลา​ส่วน​ใหญ่​เดิน​ทาง​ใน​แถบ​ชนบท​เพื่อ​ทำ​หน้า​ที่​ของ​ผู้​ดู​แล​หมวด​และ​ผู้​ดู​แล​ภาค ตอน​ที่​เรา​พัก​ใน​หมู่​บ้าน​แถว​นั้น ชีวิต​ไม่​ได้​สะดวก​สบาย​และ​เรา​ก็​ต้อง​เจอ​ปัญหา​บาง​อย่าง​ที่​ไม่​เคย​เจอ​มา​ก่อน เรา​อยู่​ใน​กระท่อม​เล็ก​ ๆ ​ซึ่ง​แทบ​จะ​ไม่​มี​ที่​ให้​นอน​ด้วย​ซ้ำ หัว​ผม​ชน​ขอบ​ประตู​ไม่​รู้​กี่​ครั้ง​ตอน​ที่​เดิน​เข้า​ออก เรา​ต้อง​ตัก​น้ำ​จาก​ลำธาร​และ​แม่น้ำ​มา​อาบ ตอน​กลางคืน​เรา​ต้อง​จุด​เทียน​เพื่อ​จะ​อ่าน​หนังสือ เรา​ต้อง​ใช้​ถ่าน​ก่อ​ไฟ​เพื่อ​ทำ​อาหาร ถึง​ชีวิต​จะ​ไม่​สะดวก​สบาย​แต่​เรา​ก็​คิด​ว่า​นี่​แหละ​คือ​ชีวิต​มิชชันนารี เรา​รู้สึก​ว่า​เรา​เป็น​ทัพ​หน้า​ใน​งาน​รับใช้

 การ​ได้​อยู่​กับ​พี่​น้อง​ท้องถิ่น​สอน​ให้​เรา​เห็น​คุณค่า​ของ​สิ่ง​ต่าง​ ๆ ​ที่​บาง​ครั้ง​เรา​มอง​ข้าม​ไป เช่น อาหาร น้ำ เสื้อ​ผ้า และ​ที่​อยู่ (1 ทิโมธี 6:8) สิ่ง​อื่น​ ๆ ​นอก​เหนือ​จาก​นี้​ที่​เรา​ได้​รับ​ถือ​เป็น​โบนัส เรา​ไม่​เคย​ลืม​เรื่อง​นี้​เลย

 ถึง​เรา​ไม่​เคย​เจอ​ความ​ยาก​ลำบาก​แบบ​อัครสาวก​เปาโล แต่​ใน​การ​เดิน​ทาง​บาง​ครั้ง​เรา​ก็​รู้สึก​เหมือน​กำลัง​ถูก​ทดสอบ​ความ​เชื่อ​และ​ความ​ตั้งใจ​ที่​จะ​รับใช้ เรา​ต้อง​ขับ​รถ​บน​ถนน​ที่​สภาพ​แย่​ ๆ ​หรือ​บาง​ที​ก็​แทบ​ไม่​มี​ถนน​ให้​ไป ตอน​ที่​อยู่​บน​ทาง​ลูกรัง​รถ​ของ​เรา​ก็​สั่น​ไป​หมด บาง​ครั้ง​รถ​ถึง​กับ​จม​ลง​ไป​ใน​ทราย ใน​ช่วง​ฤดู​ฝน​รถ​ก็​มัก​จะ​ติด​อยู่​ใน​โคลน มี​อยู่​วัน​หนึ่ง​ที่​เรา​เดิน​ทาง​ได้​แค่ 70 กิโลเมตร แต่​ต้อง​เอา​รถ​ออก​จาก​หล่ม​ถึง 12 ครั้ง

ตอน​รับใช้ เรา​มัก​จะ​เจอ​ปัญหา​ใน​การ​เดิน​ทาง

 แต่​เรา​รู้สึก​เลย​ว่า​ตอน​ที่​รับใช้​ใน​ชนบท​และ​เจอ​กับ​ความ​ลำบาก เรา​ใกล้​ชิด​กับ​พระ​ยะโฮวา​อย่าง​ที่​ไม่​เคย​รู้สึก​มา​ก่อน เรา​ได้​เรียน​รู้​ว่า​เมื่อ​พระ​ยะโฮวา​ช่วย ถึง​บาง​สถานการณ์​เรา​จะ​เปลี่ยน​แปลง​อะไร​ไม่​ได้​แต่​เรา​ก็​สามารถ​อด​ทน​อย่าง​มี​ความ​สุข​ได้ จริง​ ๆ ​แล้ว​ซูซาน​ไม่​ใช่​คน​ลุย​ ๆ ​หรือ​ชอบ​เดิน​ทาง​ไป​ไหน​มา​ไหน แต่​เธอ​ก็​ไม่​เคย​บ่น​เลย​ตอน​ที่​เรา​ลำบาก ใน​ความ​ทรง​จำ​ของ​เรา มัน​เป็น​ช่วง​เวลา​ที่​ดี มี​ความ​สุข และ​สอน​อะไร​เรา​หลาย​อย่าง

 ช่วง​ที่​เรา​อยู่​ใน​ซาอีร์ ผม​ถูก​จับ​หลาย​ครั้ง มี​ครั้ง​หนึ่ง​ที่​ผม​ถูก​กล่าวหา​ว่า​เป็น​พวก​ลักลอบ​ซื้อ​ขาย​เพชร เป็น​ธรรมดา​ที่​เรา​จะ​รู้สึก​กลัว​และ​กังวล แต่​เรา​บอก​ตัว​เอง​ว่า​ถ้า​พระ​ยะโฮวา​อยาก​ให้​งาน​รับใช้​ของ​เรา​สำเร็จ พระองค์​จะ​ช่วย​เรา และ​พระองค์​ก็​ทำ​แบบ​นั้น​จริง​ ๆ

รับใช้​พระ​ยะโฮวา​ต่อ​ไป

 ใน​ปี 1981 เรา​ถูก​เชิญ​ให้​ไป​รับใช้​ใน​สำนักงาน​สาขา​ที่​กินชาซา หนึ่ง​ปี​ก่อน​หน้า​นั้น พยาน​พระ​ยะโฮวา​เพิ่ง​ได้​รับ​การ​ยอม​รับ​ตาม​กฎหมาย​อีก​ครั้ง พี่​น้อง​ได้​ที่​ดิน​ใหม่​เพื่อ​จะ​สร้าง​สำนักงาน​สาขา​ที่​ใหญ่​ขึ้น แต่​อยู่​ดี​ ๆ ใน​เดือน​มีนาคม 1986 ประธานาธิบดี​คองโก​ได้​สั่ง​ห้าม​งาน​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา งาน​ก่อ​สร้าง​เลย​ต้อง​หยุด​ชะงัก และ​ไม่​นาน​มิชชันนารี​ส่วน​ใหญ่​ก็​ต้อง​ออก​จาก​ประเทศ​ไป

เรา​รับใช้​ที่​สำนักงาน​สาขา​ประเทศ​ซาอีร์​ช่วง​สั้น​ ๆ

 เรา​ยัง​ได้​อยู่​ต่อ​อีก​หน่อย ตอน​นั้น​เรา​รู้​ว่า​มี​เจ้าหน้าที่​คอย​จับตา​ดู​อยู่ แต่​เรา​ก็​พยายาม​ประกาศ​ต่อ​ไป​เท่า​ที่​ทำ​ได้ แม้​จะ​พยายาม​ระวัง​ตัว​แล้ว แต่​ผม​ก็​ถูก​จับ​ตอน​ที่​กำลัง​สอน​คัมภีร์​ไบเบิล ผม​ถูก​เอา​ตัว​ไป​ขัง​ใน​ห้อง​ที่​มี​นัก​โทษ​เยอะ​มาก มัน​ทั้ง​ร้อน เหม็น มืด และ​อึดอัด มี​แค่​ช่อง​เล็ก​ ๆ ​บน​กำแพง​ช่อง​เดียว​ที่​มี​แสง​ลอด​เข้า​มา​และ​เป็น​ช่อง​ระบาย​อากาศ นัก​โทษ​บาง​คน​จับ​ผม​และ​พา​ไป​หา​หัวหน้า​แก๊ง​ของ​เขา หัวหน้า​คน​นั้น​สั่ง​ว่า “ร้อง​เพลง​ชาติ​ซิ!” ผม​ตอบ​ว่า “ผม​ร้อง​ไม่​เป็น​ครับ” พวก​เขา​เลย​บอก​ว่า “งั้น​ร้อง​เพลง​ชาติ​ของ​ตัว​เอง​สิ!” ผม​ตอบ​ว่า “ผม​ก็​ร้อง​ไม่​เป็น​เหมือน​กัน​ครับ” เขา​เลย​ให้​ผม​ยืน​หัน​หน้า​เข้า​กำแพง 45 นาที แล้ว​ใน​ที่​สุด พี่​น้อง​ก็​มา​ช่วย​เจรจา​เอา​ผม​ออก​จาก​คุก

ปี 1987 หลัง​จาก​ที่​เรา​มา​ถึง​สาขา​แซมเบีย​ได้​ไม่​นาน

 เรา​เริ่ม​เห็น​ว่า​สถานการณ์​ใน​ประเทศ​คง​ทำ​ให้​งาน​ของ​เรา​ก้าว​หน้า​ได้​ยาก และ​ไม่​นาน​เรา​ก็​ถูก​มอบหมาย​ให้​ไป​ประเทศ​แซมเบีย ตอน​กำลัง​จะ​ข้าม​ชายแดน เรา​ทั้ง​รู้สึก​เศร้า​แต่​ก็​โล่ง​ใจ​ด้วย เรา​คิด​ถึง​ช่วง​เวลา​ตลอด 18 ปี​ที่​รับใช้​กับ​มิชชันนารี​และ​พี่​น้อง​ท้องถิ่น​ที่​ซื่อ​สัตย์ ถึง​แม้​ว่า​บาง​ครั้ง​ชีวิต​เรา​จะ​ลำบาก แต่​ก็​รู้สึก​ว่า​เรา​ได้​รับ​พร​จาก​พระ​ยะโฮวา เรา​รู้​ว่า​พระองค์​อยู่​กับ​เรา​เสมอ เรา​ได้​เรียน​ภาษา​สวาฮิลี​และ​ฝรั่งเศส ส่วน​ซูซาน​ได้​เรียน​ภาษา​ลิงกาลา​นิด​หน่อย​ด้วย เรา​มี​ความ​สุข​ที่​ประสบ​ผล​สำเร็จ​ใน​งาน​รับใช้​โดย​ได้​ช่วย​มาก​กว่า 130 คน​ให้​ก้าว​หน้า​จน​รับ​บัพติศมา และ​ดีใจ​ที่​ได้​มี​ส่วน​วาง​พื้น​ฐาน​ไว้​เพื่อ​ใน​อนาคต​จะ​มี​อีก​หลาย​คน​สามารถ​เรียน​ความ​จริง​ได้ พอ​เวลา​ผ่าน​ไป​ก็​มี​คน​จำนวน​มาก​ที่​เข้า​มา​เรียน​คัมภีร์​ไบเบิล​จริง​ ๆ! ใน​ปี 1993 ศาล​สูง​สุด​ได้​ยก​เลิก​คำ​สั่ง​ห้าม​งาน​ของ​พยาน​ฯ ​ที่​เคย​บอก​ไว้​ใน​ปี 1986 ตอน​นี้​มี​พี่​น้อง​ที่​รับใช้​ใน​คองโก​มาก​กว่า 240,000 คน

 ตอน​ที่​เรา​อยู่​แซมเบีย เรา​ได้​เห็น​การ​ก่อ​สร้าง​สำนักงาน​สาขา​ใหม่​และ​การ​ขยาย​ส่วน​อื่น​ ๆ ​ใน​สาขา ตอน​นี้​มี​พี่​น้อง​เพิ่ม​ขึ้น​มาก​กว่า​ตอน​ที่​เรา​ย้าย​มา​ที่​นี่​ใน​ปี 1987 ถึง 3 เท่า

ภาพ​มุม​สูง​ของ​สาขา​แซมเบีย

 เกิด​อะไร​ขึ้น​กับ​เด็ก​วัยรุ่น​ที่​ไม่​น่า​จะ​เป็น​ไพโอเนียร์​ได้​เกิน 1 เดือน? พระ​ยะโฮวา​อวยพร​ผม และ​ซูซาน​ภรรยา​ที่​น่า​รัก​ก็​คอย​ช่วยเหลือ​ผม​มา​ตลอด ตอน​นี้​ผม​รับใช้​เต็ม​เวลา​มา 65 ปี​แล้ว ผม​ได้​ชิม​และ​รู้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ดี​จริง​ ๆ—สดุดี 34:8

 เรา​รู้​ดี​ว่า​เรา​ไม่​ใช่​คน​พิเศษ​อะไร เรา​แค่​พยายาม​ดี​ที่​สุด​ที่​จะ​รักษา​สัญญา​ที่​ให้​ไว้​ตอน​อุทิศ​ตัว เรา​มั่น​ใจ​ว่า​พระ​ยะโฮวา​จะ​ช่วย​เรา​ไม่​ให้ “ถอย​หลัง​กลับ” แต่ “เป็น​คน​ที่​มี​ความ​เชื่อ​ซึ่ง​จะ​ทำ​ให้​ได้​ชีวิต”—ฮีบรู 10:39

ผม​และ​ซูซาน​ยัง​คง​รับใช้​ด้วย​กัน​ที่​สาขา​แซมเบีย

 ดู​วีดีโอ​ไดเรล​กับ​ซูซาน ชาร์ป-เรา​สัญญา​ว่า​จะ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​สุด​ชีวิต