พระมาซีฮา! ผู้ช่วยให้รอดที่พระเจ้าทรงใช้
พระมาซีฮา! ผู้ช่วยให้รอดที่พระเจ้าทรงใช้
“เพราะคนทั้งปวงตายเนื่องจากอาดาม คนทั้งปวงจะถูกทำให้มีชีวิตอีก ก็เนื่องจากพระคริสต์.”—1 โค. 15:22
1, 2. (ก) อันเดรอัสและฟิลิปแสดงปฏิกิริยาอย่างไรเมื่อพบพระเยซู? (ข) เหตุใดเราจึงกล่าวได้ว่าเรามีหลักฐานมากกว่าคริสเตียนในศตวรรษแรกว่าพระเยซูทรงเป็นพระมาซีฮา?
“พวกเราพบพระมาซีฮาแล้ว” อันเดรอัสบอกเปโตรพี่ชายของเขาอย่างนั้น เพราะเขาเชื่อมั่นว่าพระเยซูชาวนาซาเรทเป็นผู้ถูกเจิมของพระเจ้า. ฟิลิปได้รับคำเชิญจากพระเยซูจึงไปตามหานะทานาเอล แล้วก็บอกเขาว่า “พวกเราพบท่านผู้นั้นที่โมเซเขียนถึงในพระบัญญัติและพวกผู้พยากรณ์ก็เขียนถึงท่านด้วย คือเยซูบุตรโยเซฟซึ่งมาจากเมืองนาซาเรท.”—โย. 1:40, 41, 45
2 คุณเชื่อมั่นอย่างแท้จริงไหมว่าพระเยซูทรงเป็นพระมาซีฮาตามคำสัญญาของพระเจ้า ‘ตัวแทนองค์เอกของพระยะโฮวาผู้ทำให้มนุษย์ได้รับความรอด’? (ฮีบรู 2:10) ในปัจจุบันเรามีหลักฐานมากกว่าเหล่าสาวกในศตวรรษแรกว่าพระเยซูทรงเป็นพระมาซีฮา. นับตั้งแต่ที่พระเยซูประสูติจนกระทั่งกลับเป็นขึ้นจากตาย พระคำของพระเจ้าให้หลักฐานที่ไม่อาจโต้แย้งได้ว่าพระองค์ทรงเป็นพระคริสต์. (อ่านโยฮัน 20:30, 31) คัมภีร์ไบเบิลยังแสดงให้เห็นด้วยว่าพระเยซูจะทำตามบทบาทของพระองค์ในฐานะพระมาซีฮาให้สำเร็จจากสวรรค์. (โย. 6:40; อ่าน 1 โครินท์ 15:22) โดยอาศัยสิ่งที่คุณเรียนรู้จากคัมภีร์ไบเบิล ในปัจจุบันคุณก็สามารถกล่าวได้ว่าคุณ “พบพระมาซีฮาแล้ว.” แต่ก่อนอื่นขอให้พิจารณาถึงวิธีที่เหล่าสาวกในยุคแรกลงความเห็นได้อย่างถูกต้องว่าพวกเขาได้พบพระมาซีฮาแล้ว.
“ความลับอันศักดิ์สิทธิ์” เรื่องพระมาซีฮาได้รับการเปิดเผยทีละน้อย
3, 4. (ก) เหล่าสาวกในศตวรรษแรกสามารถ “พบพระมาซีฮา” ได้อย่างไร? (ข) เหตุใดคุณจึงกล่าวว่ามีเพียงพระเยซูเท่านั้นที่สามารถทำให้คำพยากรณ์ทุกข้อเกี่ยวกับพระมาซีฮาสำเร็จเป็นจริง?
3 เหล่าสาวกของพระเยซูในศตวรรษแรกกล่าวด้วยความมั่นใจได้อย่างไรว่าพระองค์ทรงเป็นพระมาซีฮา? โดยทางผู้พยากรณ์หลายคน พระยะโฮวาทรงเปิดเผยทีละน้อยถึงวิธีที่จะระบุตัวพระมาซีฮาที่จะมา. ผู้คงแก่เรียนด้านคัมภีร์ไบเบิลคนหนึ่งเปรียบวิธีการเปิดเผยแบบนี้ว่าเหมือนกับการประกอบชิ้นส่วนหินอ่อนหลาย ๆ ชิ้นให้เป็นรูปปั้น. ขอให้นึกภาพว่ามีคนหลายคนที่ไม่เคยติดต่อกันมาก่อน และแต่ละคนได้นำชิ้นส่วนหินอ่อนชิ้นหนึ่งมาที่ห้องหนึ่ง. ถ้าชิ้นส่วนเหล่านั้นประกอบเข้าด้วยกันได้พอดีเป็นรูปปั้นที่สมบูรณ์แบบ คุณย่อมสรุปได้อย่างสมเหตุผลว่าต้องมีใครสักคนที่เขียนแบบซึ่งระบุรายละเอียดสำหรับชิ้นส่วนแต่ละชิ้นแล้วส่งไปให้แต่ละคน. เช่นเดียวกับชิ้นส่วนแต่ละส่วนของรูปปั้น คำพยากรณ์ทุกข้อที่เกี่ยวกับพระมาซีฮาจะให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับพระมาซีฮา.
4 ถ้าอย่างนั้น มีความเป็นไปได้มากขนาดไหนที่คำพยากรณ์ทั้งหมดเกี่ยวกับพระมาซีฮาจะสำเร็จเป็นจริงกับใครคนหนึ่งโดยบังเอิญ? นักวิจัยคนหนึ่งกล่าวว่า โอกาสที่ใครคนหนึ่งสามารถทำให้คำพยากรณ์ทุกข้อสำเร็จได้โดยบังเอิญ นั้น “มีน้อยมาก” จนต้องถือว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้. “พระเยซู—และตลอดประวัติศาสตร์มีเพียงพระเยซูเท่านั้น—ที่ทำอย่างนั้นได้.”
5, 6. (ก) จะมีการสำเร็จโทษซาตานตามการพิพากษาอย่างไร? (ข) พระเจ้าทรงเปิดเผยทีละน้อยเกี่ยวกับการสืบวงศ์ตระกูลของ “ผู้สืบเชื้อสาย” ตามคำสัญญาอย่างไร?
5 ประเด็นสำคัญของคำพยากรณ์เกี่ยวกับพระมาซีฮาเป็น “ความลับอันศักดิ์สิทธิ์” อย่างหนึ่งซึ่งมีหลายแง่มุมที่มีความสำคัญต่อสิ่งทรงสร้างทั้งสิ้น. (โกโล. 1:26, 27; เย. 3:15) แง่มุมหนึ่งที่รวมอยู่ในความลับดังกล่าวก็คือการพิพากษาซาตานพญามาร “งูตัวแรกเดิม” ผู้ทำให้มนุษยชาติตกเข้าสู่บาปและความตาย. (วิ. 12:9) จะมีการสำเร็จ โทษตามการพิพากษานั้นอย่างไร? พระยะโฮวาทรงบอกล่วงหน้าว่า “ผู้สืบเชื้อสาย” ที่เกิดจาก “หญิง” จะบดขยี้หัวของซาตาน. “ผู้สืบเชื้อสาย” ที่บอกไว้ล่วงหน้าจะบดขยี้หัวของงู, กำจัดต้นเหตุของการขืนอำนาจ, ความเจ็บป่วย, และความตาย. อย่างไรก็ตาม โดยที่พระเจ้าทรงยินยอม ซาตานจะทำให้ส้นเท้าโดยนัยของ “ผู้สืบเชื้อสาย” ของหญิงฟกช้ำก่อน.
6 พระยะโฮวาทรงเปิดเผยทีละน้อยว่าใครจะเป็น “ผู้สืบเชื้อสาย” ตามคำสัญญานั้น. พระเจ้าทรงให้คำมั่นสัญญากับอับราฮามว่า “ทุกชาติบนแผ่นดินโลกจะทำให้ตนเองได้รับพรโดยทางผู้สืบเชื้อสายของเจ้า.” (เย. 22:18, ล.ม.) โมเซบอกล่วงหน้าว่าผู้สืบเชื้อสายนั้นจะเป็น “ผู้พยากรณ์” ที่ยิ่งใหญ่กว่าโมเซ. (บัญ. 18:18, 19) ดาวิดได้รับคำรับรอง และผู้พยากรณ์หลายคนหลังจากท่านได้รับการยืนยันว่า พระมาซีฮาจะสืบเชื้อสายจากท่านและจะสืบราชบัลลังก์ของดาวิดตลอดไป.—2 ซามู. 7:12, 16; ยิระ. 23:5, 6
สิ่งที่รับรองว่าพระเยซูมีคุณสมบัติเป็นพระมาซีฮา
7. พระเยซูทรงมาจาก “หญิง” ของพระเจ้าอย่างไร?
7 พระเจ้าทรงส่งพระบุตร ซึ่งพระองค์ทรงสร้างเป็นอันดับแรก จากองค์การที่เปรียบประหนึ่งมเหสีของพระองค์ซึ่งประกอบด้วยเหล่ากายวิญญาณในสวรรค์ ให้มาเป็น “ผู้สืบเชื้อสาย” ตามคำสัญญา. เพื่อจะเป็นอย่างนั้นได้ พระบุตรองค์เดียวของพระเจ้าต้อง “สละพระองค์เอง” จากชีวิตในสวรรค์แล้วมาประสูติเป็นมนุษย์สมบูรณ์. (ฟิลิป. 2:5-7; โย. 1:14) การที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ “ปกคลุม” มาเรียเป็นการรับประกันว่าผู้ที่จะมาประสูติจะ “ถูกเรียกว่าผู้บริสุทธิ์ และเรียกว่าพระบุตรของพระเจ้า.”—ลูกา 1:35
8. พระเยซูทรงทำให้คำพยากรณ์เกี่ยวกับพระมาซีฮาสำเร็จอย่างไรเมื่อพระองค์ทรงขอรับบัพติสมา?
8 คำพยากรณ์เกี่ยวกับพระมาซีฮาระบุว่า พระเยซูจะปรากฏตัวที่ไหนและเมื่อไร. พระเยซูประสูติที่เมืองเบทเลเฮมตามที่มีบอกไว้ล่วงหน้า. (มีคา 5:2) ชาวยิวในศตวรรษแรกตั้งความหวังไว้สูง. บางคนที่รอคอยการปรากฏตัวของพระมาซีฮาถามกันว่าโยฮันผู้ให้บัพติสมา “จะเป็นพระคริสต์หรือไม่?” แต่โยฮันตอบว่า “มีผู้หนึ่งซึ่งเป็นใหญ่กว่าข้าพเจ้าจะเสด็จมา.” (ลูกา 3:15, 16) เมื่อทรงมาหาโยฮันในฤดูใบไม้ร่วงสากลศักราช 29 เพื่อรับบัพติสมาเมื่อพระชนมายุได้ 30 พรรษา พระเยซูทรงเสนอพระองค์เองในฐานะพระมาซีฮาตรงตามกำหนดเวลาพอดี. (ดานิ. 9:25) จากนั้น พระองค์ก็เริ่มงานรับใช้ซึ่งเต็มไปด้วยเหตุการณ์ที่น่าสนใจ โดยตรัสว่า “เวลาที่กำหนดไว้มาถึงแล้ว และราชอาณาจักรของพระเจ้ามาใกล้แล้ว.”—มโก. 1:14, 15
9. แม้ว่าเหล่าสาวกของพระเยซูไม่ทราบรายละเอียดทั้งหมด แต่พวกเขามีความเชื่อมั่นเต็มเปี่ยมในเรื่องใด?
9 แม้ว่าประชาชนต้อนรับพระเยซูอย่างถูกต้องในฐานะกษัตริย์ แต่ในเวลานั้นพวกเขาไม่เข้าใจอย่างเต็มที่ว่าพระองค์จะปกครองในอนาคตและจะปกครองจากสวรรค์. (โย. 12:12-16; 16:12, 13; กิจ. 2:32-36) อย่างไรก็ตาม เมื่อพระเยซูทรงถามว่า “พวกเจ้าว่าเราเป็นผู้ใด?” เปโตรตอบอย่างไม่ลังเลว่า “พระองค์เป็นพระคริสต์ พระบุตรของ พระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่.” (มัด. 16:13-16) เปโตรตอบคล้าย ๆ กันนั้นเมื่อหลายคนละทิ้งพระองค์เพราะสะดุดคำสอนของพระองค์.—อ่านโยฮัน 6:68, 69
จงฟังพระมาซีฮา
10. เหตุใดพระยะโฮวาทรงเน้นถึงความจำเป็นที่ต้องฟังพระบุตร?
10 พระบุตรองค์เดียวของพระเจ้าเป็นกายวิญญาณที่มีฤทธิ์ในสวรรค์. เมื่อทรงอยู่บนแผ่นดินโลก พระเยซูทรงเป็น “ตัวแทนของพระบิดา.” (โย. 16:27, 28) พระองค์ตรัสว่า “สิ่งที่เราสอนไม่ใช่คำสอนของเราเอง แต่เป็นของพระองค์ผู้ทรงใช้เรามา.” (โย. 7:16) พระยะโฮวาทรงยืนยันฐานะของพระเยซูที่เป็นพระมาซีฮาระหว่างนิมิตการเปลี่ยนรูปพระกาย โดยทรงมีพระบัญชาว่า “จงฟังท่านเถิด.” (ลูกา 9:35) ถูกแล้ว จงฟังหรือเชื่อฟังผู้ถูกเลือกสรรผู้นี้. การทำอย่างนั้นต้องอาศัยความเชื่อและการดี—ซึ่งทั้งสองอย่างนี้จำเป็นอย่างยิ่งเพื่อจะเป็นที่พอพระทัยพระเจ้าและได้รับชีวิตนิรันดร์.—โย. 3:16, 35, 36
11, 12. (ก) เพราะเหตุใดชาวยิวในศตวรรษแรกไม่ยอมรับว่าพระเยซูเป็นพระมาซีฮา? (ข) ใครแสดงความเชื่อในพระเยซู?
11 แม้ว่าพระเยซูทรงมีหลักฐานอ้างอิงอย่างท่วมท้นที่พิสูจน์ว่าพระองค์ทรงเป็นพระมาซีฮา แต่ชาวยิวส่วนใหญ่ในศตวรรษแรกปฏิเสธพระองค์. เพราะเหตุใด? เพราะพวกเขามีความคิดของเขาเองเกี่ยวกับพระมาซีฮา รวมถึงมีความคิดว่าพระองค์จะเป็นผู้นำที่จะปลดปล่อยพวกเขาให้เป็นอิสระจากการกดขี่ของอาณาจักรโรม. (อ่านโยฮัน 12:34) ด้วยเหตุนั้น พวกเขาไม่อาจยอมรับพระมาซีฮาผู้ทำให้สำเร็จตามคำพยากรณ์ ที่ว่าพระองค์จะเป็นที่ดูหมิ่นและคนไม่คบหา, จะทนทุกข์เจ็บปวดและคุ้นเคยกับความเจ็บป่วย, และจะถูกฆ่าในที่สุด. (ยซา. 53:3, 5) แม้แต่สาวกบางคนของพระเยซูที่ภักดีก็ผิดหวังที่พระองค์ไม่ได้มาช่วยปลดแอกให้ชาวยิว. แต่พวกเขายังคงภักดี และในที่สุดก็ได้รับความเข้าใจที่ถูกต้อง.—ลูกา 24:21
12 อีกเหตุผลหนึ่งที่ผู้คนไม่ยอมรับว่าพระเยซูเป็นพระมาซีฮาตามคำสัญญาก็คือคำสอนของพระองค์ ซึ่งหลายคนรู้สึกว่ารับได้ยาก. เพื่อจะเข้าในราชอาณาจักรได้พวกเขาต้อง “ปฏิเสธตัวเอง,” “กิน” เนื้อและ “ดื่ม” โลหิตของพระเยซู, “เกิดใหม่,” และ ‘ไม่เป็นส่วนหนึ่งของโลก.’ (มโก. 8:34; โย. 3:3; 6:53; 17:14, 16) คนที่หยิ่งยโส, คนรวย, และคนที่หน้าซื่อใจคดเห็นว่าข้อเรียกร้องเหล่านี้ยากเกินกว่าจะทำได้. อย่างไรก็ตาม ชาวยิวที่มีใจถ่อมยอมรับว่าพระเยซูเป็นพระมาซีฮา เช่นเดียวกับชาวซะมาเรียบางคนที่กล่าวว่า “ผู้ช่วยโลกให้รอดคือท่านผู้นี้แน่.”—โย. 4:25, 26, 41, 42; 7:31
13. ส้นเท้าโดยนัยของพระเยซูถูกทำให้ฟกช้ำอย่างไร?
13 พระเยซูทรงบอกล่วงหน้าว่าพระองค์จะถูกพวกปุโรหิตใหญ่ตัดสินลงโทษและถูกตรึงโดยชนต่างชาติ แต่ในวันที่สามพระองค์จะกลับมีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง. (มัด. 20:17-19) คำยืนยันของพระองค์ต่อหน้าศาลซันเฮดรินว่าพระองค์เป็น “พระคริสต์พระบุตรของพระเจ้า” ถูกพิจารณาตัดสินว่าเป็นการหมิ่นประมาทพระเจ้า. (มัด. 26:63-66) ปีลาตพบว่าพระองค์ “ไม่ได้ทำอะไรที่ควรได้รับโทษถึงตาย” แต่เพราะพวกยิวกล่าวหาพระองค์ด้วยว่าปลุกระดมให้แข็งขืนอำนาจปกครอง ปีลาตจึง “ให้ประหารพระเยซูตามที่พวกเขาต้องการ.” (ลูกา 23:13-15, 25) ฉะนั้น พวกเขา “ปฏิเสธ” และวางแผนฆ่า “ตัวแทนองค์เอกผู้ทำให้ได้รับชีวิต” แม้ว่ามีหลักฐานท่วมท้นว่าพระเจ้าทรงส่งพระองค์มา. (กิจ. 3:13-15) พระมาซีฮา “ถูกประหาร” ตามที่มีบอกไว้ล่วงหน้า โดยทรงถูกตรึงบนเสาทรมานในวันปัศคา ส.ศ. 33. (ดานิ. 9:26, 27; กิจ. 2:22, 23) โดยถูกประหารอย่างทารุณโหดร้ายเช่นนี้ “ส้นเท้า” ของพระเยซูจึงฟกช้ำตามที่บอกไว้ล่วงหน้าในเยเนซิศ 3:15.
เหตุใดพระมาซีฮาต้องสิ้นพระชนม์?
14, 15. (ก) มีเหตุผลสองประการอะไรที่พระยะโฮวาทรงยอมให้พระเยซูสิ้นพระชนม์? (ข) พระเยซูทรงทำอะไรหลังจากถูกปลุกให้คืนพระชนม์?
14 พระยะโฮวาทรงยอมให้พระเยซูสิ้นพระชนม์ด้วยเหตุผลสำคัญสองประการ. ประการแรก การที่พระเยซูทรงซื่อสัตย์จนกระทั่งสิ้นพระชนม์ทำให้เข้าใจแง่มุมสำคัญอย่างหนึ่งของ “ความลับอันศักดิ์สิทธิ์” ชัดเจนขึ้น. พระองค์ทรงพิสูจน์จนถึงขีดสุดว่ามนุษย์สมบูรณ์สามารถรักษา “ความเลื่อมใสพระเจ้า” และสนับสนุนการปกครองของพระเจ้าแม้ถูกซาตานทดสอบอย่างรุนแรงที่สุด. (1 ติโม. 3:16) ประการที่สอง ดังที่พระเยซูตรัส ‘บุตรมนุษย์มาสละชีวิต เป็นค่าไถ่เพื่อคนเป็นอันมาก.’ (มัด. 20:28) “ค่าไถ่ที่มีค่าเท่าเทียมกัน” นี้ชำระโทษสำหรับบาปที่ลูกหลานของอาดามได้รับตกทอดมา และทำให้เป็นไปได้ที่พระเจ้าจะประทานชีวิตนิรันดร์แก่ทุกคนที่ยอมรับว่าพระเยซูเป็นผู้ช่วยให้รอดที่พระเจ้าทรงใช้.—1 ติโม. 2:5, 6
15 หลังจากที่ทรงอยู่ในอุโมงค์ฝังศพสามวัน พระคริสต์ก็ถูกปลุกให้คืนพระชนม์ และพระองค์ทรงปรากฏแก่เหล่าสาวกตลอด 40 วันเพื่อพิสูจน์ว่าพระองค์ทรงคืนพระชนม์แล้วและทรงแนะนำสั่งสอนพวกเขาเพิ่มเติม. (กิจ. 1:3-5) หลังจากนั้น พระองค์ทรงขึ้นไปสวรรค์เพื่อถวายคุณค่าแห่งเครื่องบูชาอันล้ำค่าของพระองค์แด่พระยะโฮวา และคอยจนกว่าจะถึงเวลากำหนดที่พระองค์จะเริ่มต้นการประทับในฐานะกษัตริย์มาซีฮา. ระหว่างที่รออยู่นั้น พระองค์ทรงมีหลายสิ่งที่ต้องทำ.
ทำหน้าที่ในฐานะพระมาซีฮาให้ครบถ้วน
16, 17. จงอธิบายคร่าว ๆ ว่าบทบาทของพระเยซูในฐานะพระมาซีฮาเป็นอย่างไรหลังจากที่เสด็จขึ้นสู่สวรรค์.
16 ตลอดหลายศตวรรษนับตั้งแต่ที่ถูกปลุกให้คืนพระชนม์ พระเยซูทรงดูแลกิจการงานของประชาคมคริสเตียนอย่างซื่อสัตย์ โดยที่พระองค์ทรงปกครองเป็นกษัตริย์เหนือประชาคมนี้. (โกโล. 1:13) เมื่อถึงเวลากำหนด พระองค์ก็จะเริ่มใช้อำนาจในฐานะกษัตริย์แห่งราชอาณาจักรของพระเจ้า. คำพยากรณ์ในคัมภีร์ไบเบิลและเหตุการณ์ทั้งหลายในโลกยืนยันว่าการประทับของพระองค์ในฐานะกษัตริย์เริ่มในปี 1914 เช่นเดียวกับ “ช่วงสุดท้ายของยุค.” (มัด. 24:3; วิ. 11:15) ไม่นานหลังจากนั้น พระองค์ทรงนำเหล่าทูตสวรรค์บริสุทธิ์ขับไล่ซาตานและพวกปิศาจจากสวรรค์.—วิ. 12:7-10
17 งานประกาศและงานสอนที่พระเยซูทรงเริ่มทำใน ส.ศ. 29 จวนจะถึงจุดสุดยอดแล้ว. ในไม่ช้า พระองค์จะพิพากษาสิ่งมีชีวิตทั้งสิ้น. แล้วพระองค์ก็จะบอกชนผู้มีลักษณะเยี่ยงแกะซึ่งยอมรับว่าพระองค์เป็นผู้ช่วยให้รอดที่พระยะโฮวาทรงใช้ให้ “รับราชอาณาจักรซึ่งเตรียมไว้ให้ [พวกเขา] ตั้งแต่การวางรากของโลก.” (มัด. 25:31-34, 41) คนที่ไม่ยอมรับว่าพระเยซูเป็นกษัตริย์จะถูกทำลายเมื่อพระองค์ทรงนำกองกำลังสวรรค์มาจัดการความชั่วร้ายทั้งสิ้น. จากนั้น พระเยซูก็จะมัดซาตานและเหวี่ยงมันกับพวกปิศาจลงใน “ขุมลึก.”—วิ. 19:11-14; 20:1-3
18, 19. พระเยซูทรงทำอะไรให้สำเร็จในฐานะพระมาซีฮา และนั่นทำให้เกิดผลเช่นไรสำหรับมนุษยชาติที่เชื่อฟัง?
18 ในช่วงรัชสมัยพันปี พระเยซูจะปฏิบัติสอดคล้องกับสมญานามทั้งหมดของพระองค์ เช่น “ที่ปรึกษามหัศจรรย์, พระเจ้าทรงอานุภาพ, พระบิดาองค์ถาวร, และองค์สันติราช.” (ยซา. 9:6, 7) การปกครองแห่งราชอาณาจักรของพระองค์จะนำมนุษยชาติ รวมทั้งคนเหล่านั้นที่ถูกปลุกให้เป็นขึ้นจากตาย ไปสู่ความสมบูรณ์. (โย. 5:26-29) พระมาซีฮาจะนำมนุษย์ที่อ่อนน้อมไปยัง “น้ำพุทั้งหลายที่มีน้ำ แห่งชีวิต” และทำให้มนุษย์ที่เชื่อฟังสามารถมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับพระยะโฮวา. (อ่านวิวรณ์ 7:16, 17) หลังจากการทดสอบครั้งสุดท้าย ผู้ขืนอำนาจทั้งหมดรวมทั้งซาตานกับพวกปิศาจจะ “ถูกเหวี่ยงลงในบึงที่มีไฟ” ซึ่งหมายถึงการบดขยี้ทำลายหัวของ “งู.”—วิ. 20:10
19 พระเยซูทรงทำหน้าที่ในฐานะพระมาซีฮาได้อย่างยอดเยี่ยมและไร้ที่ติ! แผ่นดินโลกที่เป็นอุทยานจะเต็มไปด้วยมนุษย์ที่ได้รับการไถ่ถอน ซึ่งจะมีชีวิตตลอดไปโดยมีสุขภาพสมบูรณ์และมีความสุข. พระนามอันศักดิ์สิทธิ์ของพระยะโฮวาจะพ้นจากคำตำหนิทั้งปวง และสิทธิอันชอบธรรมของพระองค์ในการปกครองเอกภพจะได้รับการพิสูจน์ว่าถูกต้องอย่างเต็มที่. ช่างจะเป็นมรดกอันยอดเยี่ยมสักเพียงไรที่รออยู่สำหรับทุกคนที่เชื่อฟังพระมาซีฮา ผู้ถูกเจิมของพระเจ้า!
คุณพบพระมาซีฮาแล้วหรือยัง?
20, 21. คุณมีเหตุผลอะไรบ้างที่ต้องบอกคนอื่น ๆ ในเรื่องพระมาซีฮา?
20 นับตั้งแต่ปี 1914 เรามีชีวิตอยู่ในช่วงเวลาแห่งพารูเซีย หรือการประทับของพระคริสต์. แม้ว่าการประทับของพระองค์ในฐานะกษัตริย์แห่งราชอาณาจักรของพระเจ้านั้นไม่เป็นที่ประจักษ์แก่ตา แต่การประทับนี้เห็นได้ชัดจากความสำเร็จของคำพยากรณ์ต่าง ๆ. (วิ. 6:2-8) อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับชาวยิวในศตวรรษแรก ผู้คนส่วนใหญ่ในทุกวันนี้ไม่สนใจหลักฐานที่แสดงการประทับของพระมาซีฮา. พวกเขาก็เช่นกันต้องการมาซีฮาที่เป็นนักการเมือง หรืออย่างน้อยก็ใช้นักการเมืองเป็นเครื่องมือ. อย่างไรก็ตาม คุณได้มารู้ว่าในเวลานี้พระเยซูกำลังปกครองเป็นกษัตริย์แห่งราชอาณาจักรของพระเจ้า. คุณรู้สึกตื่นเต้นมิใช่หรือที่ทราบอย่างนั้น? เช่นเดียวกับเหล่าสาวกในศตวรรษแรก คุณถูกกระตุ้นให้ป่าวประกาศว่า “พวกเราพบพระมาซีฮาแล้ว.”
21 ปัจจุบัน เมื่อคุณพูดเรื่องความจริง คุณเน้นบทบาทของพระเยซูในฐานะพระมาซีฮาไหม? การเน้นอย่างนั้นจะช่วยให้คุณเห็นค่าสิ่งที่พระองค์ได้ทำเพื่อคุณ, สิ่งที่พระองค์กำลังทำอยู่ในเวลานี้, และสิ่งที่พระองค์ยังจะทำให้สำเร็จ. เช่นเดียวกับอันเดรอัสและฟิลิป ไม่ต้องสงสัยว่าคุณคงได้คุยกับญาติ ๆ และเพื่อน ๆ ในเรื่องพระมาซีฮาแล้ว. ทำไมไม่ลองหาโอกาสคุยกับพวกเขาด้วยใจแรงกล้ายิ่งขึ้นและบอกให้เขารู้ว่าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระมาซีฮาตามคำสัญญาซึ่งเป็นผู้ช่วยให้รอดที่พระเจ้าทรงใช้จริง ๆ?
คุณอธิบายได้ไหม?
• เหล่าสาวกในศตวรรษแรกพบพระมาซีฮาได้โดยวิธีใด?
• เหตุผลสำคัญสองประการที่พระเยซูสิ้นพระชนม์คืออะไร?
• พระเยซูยังจะทำอะไรให้สำเร็จตามบทบาทของพระองค์ในฐานะพระมาซีฮา?
[คำถาม]
[ภาพหน้า 21]
ผู้คนในศตวรรษแรกบอกได้อย่างไรว่าพระเยซูทรงเป็นพระมาซีฮาตามคำสัญญา?
[ภาพหน้า 23]
เมื่อคุณพูดคุยกับคนอื่น ๆ คุณเน้นบทบาทของพระเยซูในฐานะพระมาซีฮาไหม?